HOME Review รีวิว OnePlus 11 5G เร็วแรงด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 2 กล้อง Hasselblad ชาร์จไว...

รีวิว OnePlus 11 5G เร็วแรงด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 2 กล้อง Hasselblad ชาร์จไว 100W SUPERVOOC

OnePlus 11 5G สมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่กลับมารอบนี้เรียกว่าให้สเปคจัดเต็มครบในรุ่นนี้แบบที่ไม่ต้องลุ้นหรือรอตัว Pro เลย ตั้งแต่ชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ทำงานคู่กับ RAM สูงสุด 16GB ใช้งานบนหน้าจอ Fluid AMOLED 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz มาพร้อมกล้อง Hasselblad Camera for Mobile รุ่นที่ 3 ที่มีเทคโนโลยีใหม่ Accu-spectrum Light-color Identifier ให้ภาพสีสันสวยเป็นธรรมชาติ และรองรับชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC

ประสิทธิภาพทรงพลัง Fast & Smooth

ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟน OnePlus แล้ว สิ่งแรกที่นึกถึงก็ต้องเป็นประสิทธิภาพทรงพลัง เร็ว แรง ทำงานลื่น ซึ่งใน OnePlus 11 5G ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เลือกใช้ชิปเซ็ตทรงพลังล่าสุด มาพร้อม RAM ขนาดใหญ่และเทคโนยีจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น

ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2

OnePlus 11 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต OnePlus 11 Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Octa-core ความเร็ว 3.2 GHz ที่ทำงานร่วมกับ AI อย่างฉลาด ทำให้การทำงานเร็วขึ้น 4.35 เท่า เริ่มตั้งแต่เปิดเครื่อง เปิดแอปพลิเคชั่น การใช้งานพื้นหลัง หรือเล่นเกม ก็เห็นได้ชัดว่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว และประหยัดพลังงาน ทั้งยังมีหน่วยประมวลผลกราฟิก GPU Adreno 740 ที่ทำงานเร็วขึ้น 25% และประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นสูงสุดถึง 45% ทำให้การประมวลผลภาพและกราฟิกได้ดีขึ้น แสดงผลได้สวยงามและลื่นไหล

รองรับเทคโนโลยี Ray Tracing

ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ยังรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing ซึ่งเป็นการเพิ่มเทคนิคในการแสดงผลเอฟเฟกต์แสงและเงาให้เหมือนจริงมากขึ้น ส่งผลให้ภาพในเกมมีแสงเงาเพิ่มขึ้น ให้ภาพที่สวยงามเหมือนภาพจริง นอกจากนี้ ยังรองรับ Unreal Engine 5 และ Metahuman Famework ที่ช่วยในเรื่องการสร้างตัวละครสมจริง ทำให้เกมน่าเล่นยิ่งขึ้น

RAM สูงสุด 16GB LPDDR5X และ UFS 4.0

OnePlus 11 5G มาพร้อมความจุ 2 ขนาด ให้เลือกตามที่ต้องการใช้งาน ทั้ง RAM 8+128GB (UFS 3.1) และ RAM 16+256GB (UFS 4.0) ทำงานได้เร็วขึ้น ทั้งการสลับใช้งานแอปฯ หรือฟังก์ชั่นต่างๆ พร้อมกัน โดยที่ LPDDR5x เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนจะใช้งานแอปฯ บนพื้นหลังได้พร้อมกันถึง 44 แอปฯ สำหรับ RAM 16GB และ 18 แอปฯ สำหรับรุ่น RAM 8GB และยังประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 24%

นอกจากนี้ รุ่น RAM 16+256GB ยังใช้ UFS 4.0 ซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วในการอ่านข้อมูลได้ถึง 100% และความเร็วในการเขียนถึง 133% ทำให้การทำงานเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีอาการกระตุกหรือสะดุดเลย

นวัตกรรมใหม่ RAM-Vita เฉพาะบน OxygenOS 13

RAM-Vita มีเฉพาะบนระบบปฎิบัติการ OxygenOS 13 ที่เข้ามาช่วยจัดการ RAM เพื่อจัดลำดับความสำคัญของการทำงาน ช่วยตอบสนองระบบให้ทำงานเร็วขึ้น และเสถียรแม้จะเป็นการสลับไป-มาระหว่างแอปฯ ที่ใช้งานหนักๆ ก็ไม่ส่งผลกระทบ

ระบบระบายความร้อนอัพเกรด Cryo-velocity VC cooling

OnePlus 11 5G มาพร้อมกับ Cryo-velocity VC cooling ขนาด 3685 mm2 เป็นระบบระบายความร้อน VC ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยใช้มาใน OnePlus เป็นวัสดุผลึกกราฟินแบบใหม่ และการออกแบบโครงสร้างการกระจายความร้อนใหม่ ช่วยจัดการความร้อนได้ดี กระจายความร้อนได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเกมนานแค่ไหนเครื่องก็ไม่ร้อน

เมื่อทดสอบเล่นเกมบน OnePlus 11 5G ก็พบกว่าเกมที่ใช้กราฟิกเยอะก็ยังเล่นได้ลื่นสบาย แสดงผลภาพได้อย่งสวยงาม เสียงและภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ เมื่อเล่นนานเครื่องก็ยังไม่ร้อน ทำให้เล่นได้ไม่สะดุด จับถือสบายไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนเกินไป เหมาะกับเกมทุกประเภททั้งเล็กและใหญ่

HyperBoost Gaming Engine

บนระบบปฎิบัติการ OxygenOS 13 ยังมี HyperBoost Gaming Engine ที่เข้ามาช่วยปรับแต่งการทำงานให้เกมเล่นลื่นขึ้น ตอบสนองไว โดยมี
HyperBoost Gaming Engine เข้ามาช่วยลดความผันผวนของอัตราเฟรมเรท ให้ทำงานเสียร์ขึ้น และมี LSTouch เป็นฟีเจอร์ลดความหน่วงในการสัมผัสได้ถึง 10 ms และเพิ่มการตอบสนองการสัมผัสเป็น 1000 Hz ช่วยทำให้เกมเล่นลื่นไม่ดีเลย์

5G Dual-SIM

ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุดที่ใช้บน OnePlus 11 5G ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G Dual-SIM Dual-Active (DSDA) สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ 5G+5G หรือ 5G+4G ได้พร้อมกัน เพื่อให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วทั้งดาวน์โหลดและอัปโหลด

ผ่านการรับรองด้าน Fluency

OnePlus 11 5G ผ่านการรับรองมาตราฐานจาก จาก TÜV SÜD certified 48-month Fluency Rating A และ SGS Per. Fluency A เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานยิ่งขึ้น โดยเป็นมาตราฐานคะแนนเพื่อชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในสถานการณ์ต่างๆ ในการใช้งานกว่า 48 เดือน หรือกว่า 4 ปี โดยได้คะแนนในระดับ A ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ไปได้นาน โดยที่เครื่องและระบบภายในยังคงทำงานเต็มที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการการันตีได้อัปเดตอยู่เป็นประจำแน่นอน

แบตเตอรี่ใหญ่ ชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC

OnePlus 11 5G แม้จะเห็นว่าตัวเครื่องมีขนาดที่บาง แต่ก็ยังให้แบตฯ มาถึงความจุ 5000mAh แบบ dual-cell ซึ่งรองรับการทำงานที่ยาวนานต่อเนื่องได้ถึง 24 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็มในหนึ่งครั้ง และยังใช้โครงสร้างแบบ Multi-Pole Lug Parallel ช่วยลดความต้านทานภายในเซลล์และความร้อนที่จะเกิดขึ้นกับแบตฯ ในขณะชาร์จ

โดยรวมได้ทดสอบการใช้งานหลังชาร์จเต็มก็พบว่าแบตฯ อยู่ได้ทั้งวันและยังมีเหลือให้ใช้งานอีกกว่า 30% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานมาก-น้อยของแต่ละคนด้วย แต่สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันถือว่าเพียงพอแน่นอน

ชาร์จเร็วสุดกับ 100W SUPERVOOC

แบตฯ ที่ใหญ่แล้ว ยังให้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC ที่มีอะแดปเตอร์แบบ USB-A – USB-C มาให้ในกล่อง โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 25 นาที ได้แบตฯ เต็ม 100% โดยที่ไม่ต้องรอนานหรือหากไม่มีเวลาก็ชาร์จไม่กี่นาทีก็ได้แบตฯ มาใช้งาน นอกจากนี้ อะแดปเตอร์ชาร์ไฟยังรองรับโปรโตคอลการชาร์จ PD3.0, QC3.0 ทำให้เอาไปใช้ชาร์จแล็บท๊อป แท็บเล็ต หรือเกมคอนโซลได้อีกด้วย

Battery Health Engine ยืดอายุแบตฯ นานขึ้น

สมาร์ทโฟน OnePlus 11 5G ยังมาพร้อมกับ Battery Health Engine กับเทคโนโลยีหลัก 2 อย่าง ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตฯ และรักษาความจุแบตฯ ได้แก่

  • Smart Battery Health Algorithm เป็นอัลกอริธึมของแบตฯ ที่สามารถติดตามขั้วไฟฟ้าที่มีประจุลบภายใน เพื่อความควบคุมความเหมาะสม ลดการพังของเซลล์แบตฯ และเป็นการขยายอายุการใช้งานให้นานขึ้น
  • Battery Healing Technology เทคโนโลยีในการรักษาแบตฯ โดยโดยเทคโนโลยีอิเล็กโทรไลต์ Bionic ช่วยให้เซลล์แบตเตอรี่ของอุปกรณ์สามารถแสดงฟังก์ชั่นการรักษาตัวเองได้ สามารถซ่อมแซมอิเล็กโทรดได้อย่างต่อเนื่องในระหว่างรอบการชาร์จ

ได้ใบรับรอง TÜV Rheinland

แบตฯ ใหญ่และรองรับชาร์จเร็วของ OnePlus 11 5G ยังผ่านการรับรองมาตราฐานการชาร์จที่ปลอดภัย ผ่านการตรวจสอบอุณหภูมิขณะชาร์จ รวมถึงสายชาร์จ และสมาร์ทโฟนต่ออุณหภูมิสูงต่ำตามความผันผวน เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยในเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

นอกจากนี้ ยังมี อัลกอริธึม AI เรียนรู้ตารางการชาร์จของคุณ ช่วยปรับการชาร์จแบตฯ ให้เหมาะสมแต่ละสถานการณ์ เช่น

Repaid Mode – เพิ่มความเร็วของการชาร์จในตอนเช้าก่อนที่จะออกไปข้างนอก
Game Mode – ปรับความเร็วในการชาร์จที่ดีที่สุดขณะเล่นเกม
Entertainment mode – ปรับความเร็วในการชาร์จที่ดีที่สุดขณะหน้าจอเปิดอยู่
Cold mode – สามารถชาร์จไวได้แม้อุณหภูมิจะต่ำกว่า -20º C โดยการใช้ความร้อนของ CPU เข้ามาช่วย

ถ่ายภาพอย่างมืออาชีพด้วย Hasselblad Camera

OnePlus 11 5G มีกล้องหลัง 3 เลนส์ ที่ยังคงพัฒนาร่วมกับแบรนด์ระดับมือชีพอย่าง Hasselblad พร้อมเทคโนโลยีใหม่ Accu-spectrum Light-color Identifier ช่วยปรับแต่งสีของภาพให้มีความเป็นธรรมชาติ สมจริง และยังช่วยลดความผิดเพี้ยนของสีได้อย่างมาก รวมถึง UI บนเมนูถ่ายภาพก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนการใช้งานบนกล้อง Hasselblad ไม่ว่าจะเป็นปุ่มชัตเตอร์ที่มีสีส้ม รวมถึงเสียงกดชัดเตอร์ โหมดถ่ายภาพ และฟิลเตอร์เฉพาะที่ใส่มาให้ใช้งาน

การปรับเทียบสีธรรมชาติ Natural Color Calibration with Hasselblad

อย่างที่ทราบว่ากล้องของ Hasselblad จะถ่ายภาพออกมาในแนวทางที่เป็นธรรม หรือสีไม่ได้จัดจ้านเกินไป โดยบนกล้องของ OnePlus 11 5G ยังได้ใช้เทคโนโลยี Color Calibration with Hasselblad หรือการปรับเทียบสีธรรมชาติ ช่วยให้ภาพที่แสดงผลออกมามีความสมจริงบนหน้าจอที่รองรับสีแบบ 10-Bit รวมถึงการวัดแสง ระบุเฉดสี ปรับสมดุลแสงสีขาวใหห้มีความแม่นยำ หรือแม้แต่การเพิ่มรายละเอียกที่ซับซ้อนบนภาพให้ออกมาสวยแบบมีสีสันสื่อถึงอารมณ์ต่างๆ อย่างเช่นภาพตัวอย่างสีขาว-ดำ จะเห็นชัดว่ามีการปรับจูนสีขาวดำ แสดงสีได้ตรง ให้ภาพออกมาเสมือนจริง

ฟิลเตอร์พิเศษ Hasselblad Master Mode

OnePlus 11 5G มาพร้อม Hasselblad Master Mode กับฟิลเตอร์ 3 สไตล์ซึ่งทางพัฒนาร่วมกันโดย OnePlus และ Hasselblad Ambassadors ทำให้ได้โทนสีที่ไม่เหมือนใคร และยังเป็นโทนสีซิกเนเจอร์ของภาพถ่ายจากช่างภาพมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น

Serenity (ประกาย) : โดย Yin Chao สำหรับการถ่ายภาพบุคคล
Radiance (ละมุน) : โดย Ben Thomas เชี่ยวชาญในการดึงความโดดเด่นของบุคคลและวัฒนธรรม
Emerald (มรกต): โดย David Pesken สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์

สำหรับกล้องถ่ายภาพด้านหลังจะมีทั้งหมด 3 เลนส์ แบ่งออกเป็น

  • กล้องหลัก IMX890 Image Sensor ความละเอียด 50MP, รูรับแสง f/1.88, OIS
  • กล้อง Sony IMX581 Ultra-wide 48MP มุมกว้าง 115 องศา
  • กล้อง Portrait Tele lens ความละเอียด 32MP

กล้องหลักมีความละเอียด 50MP, รูรับแสง f/1.8 รองรับกันสั่นแบบออฟติคอล OIS สามารถถ่ายภาพได้ทุกสภาพแสง ไม่ว่จะเป็นกลางวัน แสงน้อย หรือกลางคืน ภาพที่ถ่ายออกมายังมีความคมชัด แสดงสีและรายละเอียดชัดเจน ทั้งยังมี TurboRAW HDR แม้ถ่ายภาพย้อนแสงก็ยังเก็บรายละเอียดพื้นหลังได้ครบถ้วน และยังจับโฟกัสได้เร็ว ประมวลผลภาพถ่ายออกมาได้รวดเร็ว

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัก

ภาพที่ได้จากกล้องหลัก OnePlus 11 5G จะมีสีสันเป็นธรรมชาติ สังเกตได้จากท้องฟ้าก็ยังคงเป็นสีฟ้าแบบที่ตาเห็น ไม่ได้มีการเร่งสีให้เข้มขึ้น และรูปตอนแสงน้อยก็มีรายละเอียดชัดเจน สีและแสงก็ยังแสดงครบถ้วน

กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-wide 48MP มุมกว้าง 115 องศา มีความละเอียดสูง ทั้งยังใช้ถ่ายภาพมาโครระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. โดยที่มุมกว้าง 115 องศา ยังเป็นมุมกว้างที่มีความสมจริง ช่วยลดความโค้งของภาพไม่ให้บิดเบี้ยวจนเกินไป และยังเป็นครั้งแรกของ OnePlus ที่ใช้อัลกอริทึม HDR มาอยู่ในกล้องตัวนี้ เพื่อช่วยเก็บรายละเอียดของวัตถุและฉากหลัง ให้ภาพออกมามีรายละเอียดคมชัด

กล้องตัวที่สามเป็น Portrait Tele lens ความละเอียด 32MP สำหรับถ่ายภาพบุคคล รองรับโหมดพอร์ตเทรตของ Hasselblad ที่ถ่ายภาพออกมาเหมือนมืออาชีพทั้งยังช่วยให้ภาพบุคคลออกมาเหมือนถ่ายจากกล้องใหญ่ DSLR ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาตัดขอบระหว่างคนและพื้นหลังได้คมชัด มีการปรับโทนสีให้เป็นธรรมชาติ หรือจะเลือกใช้ฟิลเตอร์เฉพาะก็ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกได้มากขึ้น

โหมดถ่ายภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กล้องหน้า 16MP มีโหมดปรับแต่งหน้าสวยด้วย AI ที่ไม่ใช่การปรับแค่ 3 ระดับแบบที่เคยมีในรุ่นก่อน สามารถปรับได้อัตโนมัติ หรือจะเลือกปรับเองตามที่ต้องการ และยังใช้งานร่วมกับฟิลเตอร์ได้อีกด้วย

TILT-SHIFT โหมดถ่ายภาพที่โฟกันตรงกลางและปรับขอบด้านข้างให้เบลอ ช่วยเน้นจุดโฟกัสระดับสายตา โดยสามารถปรับความเบลอได้ตามที่ต้องการตั้งแต่ 0-100% ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูแปลกใหม่โดยที่ไม่ต้องใช้แอปฯ อื่นเลย

XPAN จำลองโหมดถ่ายภาพที่มีบนกล้อง Hasselblad มาไว้ในสมาร์ทโฟน ทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีสัดส่วน 65:24 ให้อารณ์เหมือนเป็นกล้องฟิล์ม สามารถถ่ายได้แบบสีและขาวดำ โดยที่สัดส่วนภาพจะมีความยาวพิเศษ เปลี่ยนการถ่ายภาพไปอีกนิยาม

โหมดกลางคืน

โหมดกลางคืนก็มีให้เลือกใช้งาน โดยใช้งานได้ถึง 3 ระยะ ทั้งมุมกว้าง ภาพถ่ายปกติ และ 2x ซึ่งกล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้คมชัด สีสัน ดวงไฟก็ถ่ายได้ออกมาอย่างที่ตาเห็น และมีฟิลเตอร์ให้ใช้งานกับภาพกลางคืนกว่า 6 แบบ

ดีไซน์ตัวเครื่องพรีเมียม

OnePlus 11 5G มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์พรีเมียมด้วยขอบโค้งทั้งหน้าจอและหลังตัวเครื่อง ออกแบบให้จับถนัดมือ โดยตัวเครื่องยังบางเพียง 8.53 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 205 กรัม โดยมีตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Eternal Green และ สีดำ Titan Black

สำหรับดีไซน์เรียกว่ามีความทันสมัยแฝงความหรูหราของตัวเครื่องด้านหลังที่มีผิวสัมผัสมันเงา ออกแบบโมดูลกล้องเป็นลักษณะวงกลมเข้ากับฝาหลัง มองแล้วมีความหรูหราเหมือนนาฬิกาสวิสที่มีความสง่างามในตัว ทั้งยังตกแต่งรอบเลนส์ด้วยสแตนเลสที่เข้ากันและดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างมาก

ตัวเครื่องสีดำเป็นการผสมผสานระหว่างความดุดัน ทันสมัย และสง่างาม โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก black hole ที่มีความสงบแต่ทรงพลัง และตัวเครื่องสีเขียว Eternal Green ที่รีวิวอยู่นี้ เป็นโทนสีพลังแห่งธรรมชาติสร้างแรงบันดาลใจให้น่าหลงใหล

หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ Fluid AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 3216 x 1440 พิกเซล (525 ppi) ใช้งานลื่นด้วยรีเฟรชเรท 120Hz และยังแสดงผลสีแบบ 10 บิต รองรับ HDR10+ ทำให้การใช้งานบนจอได้สีสันสดใส ภาพที่แสดงมีความสมูทสมจริง เต็มอรรถรสกับความบันเทิงทั้งดูภาพยนตร์หรือเล่นเกม

ภาพที่แสดงผลบนหน้าจอ OnePlus 11 5G จะให้สีสันที่คมชัดสมจริง แสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน และการใช้งานบนจอรีเฟรชเรท 120Hz ต้องบอกว่าลื่นแบบไม่มีสะดุด หรือจะใช้เล่นเกมก็ไม่พลาดช็อตสำคัญ

กล้องหน้าแบบเจาะรูความละเอียด 16MP ถูกวางไว้ที่ตำแหน่งด้านซ้าย ทำให้ได้จอที่กว้าง ใช้งานบนจอหรือดูคอนเทนต์ไม่รู้สึกว่ามีกล้องมาบัง

ปุ่ม Alert Slider ที่ใช้สำหรับเปิด-ปิดเสียง ตั้งสั่น ถูกนำกลับมาใช้อีกในรุ่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของ OnePlus ที่มีในรุ่นท็อปมาอย่างยาวนาน โดยจัดวางไว้ทางด้านขวาของเครื่อง พร้อมปุ่ม Power

ส่วนปุ่มปรับลดเสียงถูกวางไว้ที่ตัวเครื่องด้านซ้าย มีสีเดียวกับขอบข้างและขนาดเล็ก

ด้านบนมีเพียงไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน พร้อมเซ็นเซอร์อินฟราเรด

ช่องใส่ซิมการ์ด รวมถึงพอร์ตชาร์จแบตฯ และช่องลำโพงจะวางอยู่ในแนวเดียวกันที่ตัวเครื่องด้านล่าง

ความบันเทิงครบครัน

รองรับ Dolby Vision

OnePlus 11 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายที่รองรับ Dolby Vision ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ภาพ HDR ที่นำสีสันสดใส คอนทราสต์ ความส่าง รวมถึงความลึกของสี การแสงผลที่คมชัดสมจริงมาไว้บนจอสมาร์ทโฟน ทำให้เพลิดเพลินกับความบันเทิงเสมือนชมบนจอภาพยนตร์ โดยที่ภาพ ฉาก และตัวละครมีความสมจริง รายละเอียดต่างๆ ครบ ช่วยให้เต็มอิ่มทุกอรรถรสกับการใช้งานบนนี้นี้

นอกจากนี้ ยังรองรับ HDR 10+ รองรับความลึกของสีแบบ 10 บิต ที่เป็นการแสดงผลภาพสมจริง ความสมูทที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ หรือการเคลื่อนไหวของวัตถุก็มีความสมจริงเหมือนที่ตามองเห็น

รองรับ Dolby Atmos

เพลิดเพลินกับระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงทรงพลังแบบมีมิติ ไม่ว่าจะเป็นตอนเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ เสียงที่ได้มีความชัด เก็บรายละเอียดได้รอบด้านทุกเสียง

การอัปเดตซอร์ฟแวร์

เรื่องการอัปเดทซอร์ฟแวร์สำหรับ OnePlus ถือเป็นแบรนด์หลักๆ ของระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ที่การันตีการได้อัปเดตอยู่เสมอ โดยรุ่นนี้ก็เช่นกันจะได้รับการอัปเดต Android ถึง 4 เวอร์ชั่น และการอัปเดตความปลอดภัยทั้งหมด 5 ปี ทำให้สมาร์ทโฟนที่ใช้มีความลื่น เสถียร และเหมือนผู้ใช้ได้ใช้เครื่องใหม่ตลอดเวลา

จุดเด่น

  • ชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุด Snapdragon 8 Gen 2
  • RAMสูงสุด 16GB + 256GB (UFS 4.0)
  • กล้อง Hasselblad
  • แบตฯ 5000 mAh ชาร์จไว 100W SUPERVOOC

จุดที่ควรพิจารณา

ไม่รองรับชาร์จไร้สาย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • สมาร์ทโฟน OnePlus 11 5G
  • สายชาร์จ USB-C to USB-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จไว
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกัน
  • สติ๊กเกอร์

สเปค OnePlus 11 5G

  • จอ Fluid AMOLED 6.7 นิ้ว – 3216 x 1440 พิกเซล, 120Hz, HDR10+, 10 Bit, DCI-P3
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Octa-core ความเร็ว 3.2 GHz
  • GPU Adreno 740
  • RAM 8GB + 128GB (UFS 3.1)
  • RAM 16GB + 256GB (UFS 4.0)
  • ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 13 based on Android 13
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
  • กล้องหลัก IMX890 Image Sensor ความละเอียด 50MP, รูรับแสง f/1.88, OIS
  • กล้อง Sony IMX581 Ultra-wide 48MP มุมกว้าง 115 องศา
  • กล้อง Portrait Tele lens ความละเอียด 32MP
  • กล้องหน้า 16MP, f/2.4
  • การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/, dual-band, Wi-Fi Direct
  • แบตฯ 5000 mAh ชาร์จไว 100W SUPERVOOC
  • ขนาดตัวเครื่อง 163.1 x 74.1 x 8.5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 205 กรัม
  • สี สีเขียว Eternal Green และ สีดำ Titan Black

สรุปท้ายรีวิว

OnePlus 11 5G เป็นอีกรุ่นที่เรียกความสนใจให้กับแฟน OnePlus และผู้ที่กำลังต้องการสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมสเปคครบแบบจบในเครื่องเดียว ทั้งการใช้งานที่ลื่น การรันตีการได้อัปเดต รวมถึงกล้องที่มีเสน่ห์ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad และแบตฯ ความจุขนาดใหญ่ ใช้งานทั้งวันไม่ต้องพกที่ชาร์จ และยังรองรับชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC ที่ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จข้ามวันข้ามคืน เรียกว่ามาครบในรุ่นนี้แล้ว

เปิดตัวมาพร้อม OnePlus Buds Pro 2

OnePlus 11 5G ยังเปิดตัวมาพร้อม OnePlus Buds Pro 2 หูฟังสเตอริโอไร้สาย (TWS) รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมไดร์เวอร์คู่ที่ร่วมกันพัฒนากับ Dynaudio ผู้ผลิตลำโพงสัญชาติเดนมาร์ก เพื่อให้ได้เสียงที่พรีเมียม พลังเสียงคมชัด เสียงเบสหนัก และนุ่มลึกขึ้น ทั้งยังปรับเสียงรบกวนอัฉริยะได้สูงสุด 48dB ใช้งานได้ยาวนานกว่า 39 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง

ดีไซน์สวยพรีเมียม

OnePlus Buds Pro 2 ออกแบบได้อย่างสวยงาม ซึ่งอาจจะดูคล้ายรุ่นเดิม แต่ตัวเคสเคลือบด้วย NCL แบบด้าน และอินเดียมแบบขัดเงา เข้ากันอย่างลงตัว มาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Obsidian Black และสีเขียว Arbor Green ซึ่งออกแบบให้มีสีเดียวกับตัวสมาร์ทโฟน OnePlus 11 5G ใช้งานคู่กันเท่สุดๆ

เมื่อเปิดเคสชาร์จหูฟังขึ้น ด้านในจะมีหูฟัง 2 ข้าง โดยออกแบบให้มีก้านยาวลงมาเล็กน้อย ด้านในตัวหูฟังมีไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวแต่ละข้าง โดยรองรับการสนทนา ตัดเสียงรบกวน และทำงานร่วมร่วมกับ AI อัลกอริทึม Anti-wind เพื่อกรองเสียงรอบข้างไม่ให้รบกวนขณะใช้งานสนทนา

นอกจากนี้ ยังจับคู่ได้ง่ายกับสมาร์ทโฟนของ OnePlus เพียงเปิดบลูทูธและเปิดเคสขึ้น จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้จับคู่ทันที และยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์

OnePlus Buds Pro 2 จะมีขนาดเล็กกะทัดรัดลง สามารถสวมใส่ได้ยาวนานต่อเนื่องทั้งวัน เพราะที่จุกหูฟังจะมียางรองแบบนิ่ม ใส่สบายไม่เจ็บหู และมีให้เลือกที่เหมาะกับผู้ใช้ถึง 3 ขนาด

จุดเด่นของหูฟัง OnePlus Buds Pro 2

เสียงคมชัดสมจริง

OnePlus Buds Pro 2 เป็นหูฟังเอียร์บัดที่มีไดร์เวอร์สองตัวขนาดใหญ่ ทำงานร่วมกับผู้นำด้านเสียงอย่าง Dynaudio เพื่อให้ได้เสียงและเทคโนโลยี MelodyBoost ขั้นสูง เป็นการปรับแต่งมาเฉพาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง เสียงเบสหนัก และนุ่มลึก ทั้งยังมีการออกแบบไดอะแฟรมขนาดใหญ่ 11 มม. + 6 มม. ด้วยโพลิเมอร์คริสตัลเหลว ที่มีการแยกขอบและความโค้งออกจากกัน ทำให้ได้เสียงที่สมดุลขึ้น

เสียงทรงพลัง BassWave

สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงต้องถูกใจกับ BassWave ซึ่งเป็นอัลกอริธึมในการควบคุมเสียงเบส ให้ความนุ่มทรงพลัง ดื่มด่ำความสุนทรีไปกับทุกเสียงเพลง

เสียงความละเอียดสูง LHDC 4.0 Lossless High-Res Audio

OnePlus Buds Pro 2 มาพร้อมตัวแปลงเสียงสัญญาณ LHDC 4.0 ที่ช่วยให้การสตรีมผ่านบลูทูธราบรื่น ให้เสียงชัดเจน ไม่แตก และยังเตรียมอัปเดตเป็น เป็น LHDC 5.0 เร็วๆ นี้ เพื่อประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีกว่าเดิม

OnePlus Audio ID 2.0

หนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่ช่วยให้สามารถปรับแต่ง หรือออกแบบเสียงที่รับฟังได้เองและละเอียดขึ้น ด้วยการสแกนหูและทดสอบการฟัง เพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

Spatial Audio

นอกจากนี้ ยังออกแบบมาพิเศษเมื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน OnePlus 11 ให้ได้สัมผัสเสียงเซอร์ราวรอบทิศทางแบบไดนามิก เสมือนการรับฟังในโรงภาพยนตร์ โดยเป็นการพัฒนาร่วมกับ กับ Google และ Dolby ด้วย Head Tracking, Dolby Atmos และอัลกอริธึมการเรนเดอร์แบบพิเศษ เพื่อขอบเขตที่กว้างขึ้น ให้เสียงเป็นธรรมชาติ และใสบริสุทธิ์ ทำให้เพลิดเพลินไปกับ เพลงโปรดบน YouTube และ Disney+ ได้ดียิ่งขึ้น

มาพร้อม 3 โหมดตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ

OnePlus Buds Pro 2 มาพร้อมโหมดตัดเสียงรบกวนอัฮริยะ 3 โหมด แบบ Faint, Smart และ Extreme รวมถึง โหมด Transparency เมื่อต้องการรับฟังเสียงจากภายนอก ซึ่งแต่ละโหมดช่วยตัดเสียงรบกวนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้องต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 48dB เมื่อต้องการอยู่ในความเงียบ โดยการแตะที่ก้านหูฟัง 2-3 ครั้งเร็วๆ เพื่อสแกนสภาพแวดล้องของเสียงในขณะนั้นก็ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

ความหน่วงต่ำ

OnePlus Buds Pro 2 สามารถใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนเพื่อเล่นเกม ได้ด้วยความหน่วงที่ต่ำพิเศษ 54ms ผ่านบลูทูธ เพื่อให้การเล่นเกมของภาพและเสียงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ดีเลย์

กันน้ำ IP55

หูฟังรองรับมาตราฐานกันน้ำระดับ IP55 คือใช้งานได้ทั่วไป กันน้ำกระเซ็นใส่ หรือเหงื่อออก แต่ไม่รองรับการใช้งานที่สัมผัสน้ำโดยตรง

เพลินเพลินได้ยาวนาน 39 ชั่วโมง

OnePlus Buds Pro 2 รองรับการใช้งานได้นานถึง 39 ชม. เมื่อใช้งานร่วมกับเคสและปิด AC หรือถ้าเฉพาะตัวหูฟังใช้ได้ 9 ชม. ซึ่งถ้ามีเคสก็ไม่ต้องกังวลว่าแบตฯ จะไม่พอ เดินทางไกลๆ หรือใช้งานระหว่างวันได้สบาย นอกจากนี้ ยังรองรับชาร์จเร็ว เพียงใช้เวลา 10 นาที สามารถใช้งานต่อได้ 10 ชม. และยังใช้กับแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับ Qi ได้อีกด้วย

สเปคหูฟัง OnePlus Buds Pro 2

  • ขนาด 24.30 x 20.85 x 32:18 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก หูฟัง 4.9 กรัม / เคส 47.3 กรัม
  • ไดรเวอร์11mm woofer + 6mm tweeter dual drivers
  • ตอบสนองความถี่ 10 Hz-40K Hz
  • ไมโครโฟน 3 ตัว
  • ความไวในการรับเสียงของไมโครโฟน -38dB
  • โหมดตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะปรับได้สูงสุด 48dB3
  • ช่วงความถี่: 4kHz
  • Bluetooth Version5.3
  • Latency 54ms7
  • แบตฯ : หูฟัง 60mAh / เคสชาร์จ 520mAh

ราคาและการวางจำหน่าย

OnePlus 11 5G

OnePlus 11 5G วางจำหน่าย สีดำ Titan Black รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 29,990 บาท
OnePlus 11 5G วางจำหน่าย สีเขียว Eternal Green รุ่น RAM 16GB + 256GB ราคา 32,990 บาท

OnePlus Buds Pro 2

OnePlus Buds Pro 2 มีตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Arbor Green และ สีดำ Obsidian Black ราคา 6,490 บาท

สามารถหาซื้อได้ที่  OnePlus Experience Zone, AIS, Shopee, Lazada และ OPPO Brand shop

รายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสั่งซื้อ : https://www.oneplus.com/th
โปรโมชั่น

● เมื่อซื้อ OnePlus 11 5G ผ่านช่องทางใดก็ได้ รับทันที OnePlus 11 5G Sandstone Bumper Case มูลค่า 790.- พร้อมบัตรประกันจอแตก E-VIP card 

● และรับเพิ่ม OnePlus Buds Pro 2 มูลค่า 6,490.- เมื่อไปร่วมงาน Thailand mobile expo 2023 จำนวน 200 ท่านแรก

และเตรียมพบกับโปรโมชั่นพิเศษมากมายในงาน Thailand Mobile Expo 2023 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์5 บูธ L20,L21 วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ 

OnePlus 11 5G เริ่มต้นเพียง 26,990 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจตามที่กำหนด พร้อมรับของสมนาคุณ ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 10,000 บาท และ OnePlus sandstone bumper case black มูลค่า 790 บาท และของแถมพิเศษเพิ่ม OnePlus gaming tricker 1 คู่ มูลค่า 599 บาท สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อรุ่น OnePlus 11 5G พร้อมแพ็กเกจรายเดือนที่เปิดเบอร์ใหม่และย้ายค่ายเบอร์เดิมผ่านช่องทาง AIS Online Store รวมของแถมมูลค่า 11,389 บาท

ผ่อนสบาย 0% นานสูงสุด 36 เดือน

เก่าแลกใหม่ พิเศษ 2 ต่อ สำหรับลูกค้า AIS นำเครื่องเก่าแลกซื้อ OnePlus 11 5G รับส่วนลดเพิ่ม

• ต่อที่ 1 : มูลค่าเครื่องเก่าใช้เป็นส่วนลด

• ต่อที่ 2 : รับส่วนลดเพิ่มอีก

เงื่อนไข

แลกซื้อเครื่องเปล่า ไม่ติดสัญญา หรือ เครื่องราคาพิเศษ ติดสัญญา รับส่วนลดเพิ่ม 6,000.-

เมื่อนำสมาร์ตโฟนทุกแบรนด์ที่ราคาเปิดตัวภายในปี 2564-2565 มากกว่า 12,000.-

โปรโมชันนี้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2566

สามารถสั่งซื้อรุ่น OnePlus 11 5G ได้ที่เอไอเอสช้อปและร้านเทเลวิซทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ของเอไอเอส AIS Online Store รายละเอียดเพิ่มเติม : https://m.ais.co.th/KYHGd8Etx

ดีลสุดพิเศษผ่านช่องออนไลน์ เมื่อช้อปตั้งแต่วันนี้ – ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ OnePlus Flagship Store รับฟรี! E-VIP Card ประกันหน้าจอแตก และ OnePlus 11 5G Sandstone Bumper Case มูลค่ารวมกว่า 10,790 บาท

Lazada: http://bit.ly/3wWvooX

Shopee: http://bit.ly/3JJ7fd1

Tiktok: http://bit.ly/3YlcTH6

Thisshop https://bit.ly/3YoQTL0

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version