หน้าแรก Review เล่าประสบการณ์หลังใช้ OPPO Find X8 Pro ครั้งแรก นานกว่า 2 เดือน

เล่าประสบการณ์หลังใช้ OPPO Find X8 Pro ครั้งแรก นานกว่า 2 เดือน

เกริ่นก่อนว่านี่เป็น OPPO สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ได้ทดลองการใช้งานนานกว่า 2 เดือนแบบจริงจัง เรียกว่าเป็นการใช้งานแทนเครื่องหลักเลยก็ว่าได้ ซึ่งก่อนหน้าก็จะใช้เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เป็นประจำแต่ไม่เคยใช้ OPPO เลย

ครั้งนี้เราเลือกใช้สมาร์ทโฟนตัวท็อปของค่ายอย่าง OPPO Find X8 Pro ที่เรียกว่ามีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และกล้องถ่ายภาพ ทำให้เราหยิบเครื่องนี้มาใช้เป็นเครื่องหลักและจะมาบอกเล่าให้ฟังในรีวิวนี้

เริ่มต้นจากเรื่องดีไซน์

ครั้งแรกที่เห็น OPPO Find X8 Pro ก็สะดุดตาตรงเลนส์กล้องวงกลมขนาดใหญ่แต่การันตีว่าบางลงกว่า 40% โดยที่ตัวเครื่องยังออกแบบได้สวยงาม เลนส์กล้องมีความบางและแน่นอนว่าระบบกล้องถ่ายภาพที่ร่วมกันพัฒนากับ Hasselblad ทำให้มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพ

ตัวเครื่อง OPPO Find X8 Pro มาพร้อมกับดีไซน์ขอบโค้งทำให้การจับถือได้กระชับเข้ามือ มีการออกแบบรอบตัวเครื่องอย่างปราณีตสวยงาม และยังรู้สึกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปที่มีน้ำหนักเบา โดยจากที่ดูสเปคแค่ 215 กรัม

ตัวเครื่องที่ใช้เป็นสีขาว Pearl White ที่ทำให้สะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น มีการออกแบบคล้ายกับลายหินอ่อนสีขาวประกายมุก ซึ่งแต่ละเครื่องจะออกแบบไม่เหมือนกันเพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ของลวดลาย

OPPO Find X8 Pro ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 สามารถจมน้ำลึกได้ 1.5 เมตร นาน 30 นาที และยังมีมาตรฐานกันน้ำ IP69 ทนต่อการฉีดน้ำแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียสได้ ไม่ว่าจะพกไปไหนก็อุ่นใจ

หน้าจอใหญ่ สีสวย แถมยังเล่นลื่น

เรื่องของหน้าจอก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ตอบโจทย์การใช้งานทุกด้าน สำหรับตัว Find X8 Pro จะมาพร้อมกับหน้าจอโค้ง 6.78 นิ้ว ที่มีขอบบางมากๆ เท่ากันทั้ง 4 ด้านเพียงแค่ 1.9 มิลลิเมตร และยังใช้งานลื่นด้วยรีเฟรชเรทปรับได้อัตโนมัติ 1-120Hz ทำให้การเล่นเกมหรือดูวิดีโอมีความลื่นและสมูท นอกจากนี้เวลาที่ใช้งานกลางแจ้งหน้าจอก็ยังเห็นตัวหนังสือและภาพอย่างคมชัดเพราะให้ความสว่างสูงสุดถึง 4500nits

กล้องถ่ายภาพระดับ Hasselblad Master

OPPO Find X8 Pro เรียกว่ามีความโดดเด่นเรื่องกล้องถ่ายภาพด้านหลัง เพราะมาพร้อมกล้อง Periscope Telephoto คู่ ทำงานร่วมกับ AI Telescope Zoom ไม่ว่าจะถ่ายภาพทั่วไปหรือสำหรับใครที่ชอบถ่ายคอนเสิร์ตรุ่นนี้ตอบโจทย์ เขามีการเอาไปทดสอบใช้งานจริงสำหรับการถ่ายคอนเสิร์ตในระยะไกลที่ต้องอาศัยการซูม ทั้งภาพและวีดีโอที่ได้ออกมาเรียกว่าประทับใจ

กล้องหลังทั้ง 4 ตัวเป็นระบบกล้อง Hasselblad Master ที่มีความละเอียดสูง 50MP 4 ตัว ไม่ว่าจะถ่ายระยะไหนก็ได้ความละเอียดคมชัด โดยแบ่งออกเป็น

  • เลนส์ Ultra Wide 15mm ความละเอียด 50MP, f/2.0, AF
  • เลนส์ Wide 23mm ความละเอียด 50MP, f/1.6, OIS
  • เลนส์ Periscope 73mm ความละเอียด 50MP, f/2.6, OIS
  • เลนส์ Periscope 135mm ความละเอียด 50MP, f/4.3, OIS

ด้วยความสามารถของกล้อง Periscope Telephoto คู่ ความละเอียด 50MP ที่ระย 73mm (3x) และ 135mm (6x) ทำให้การใช้งานซูมมีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานระยะโฟกัสตั้งแต่ 15mm ถึง 300mm ได้แบบไม่สูญเสียความละเอียด

โดยที่เราได้เอากล้องไปซูมคอนเสิร์ตในรูปแบบต่างๆ เนื่องจากในสถานะการจริงเราไม่ได้อยู่ใกล้เวที แต่เมื่อได้ใช้สมาร์ทโฟน OPPO Find X8 Pro ก็จะทำให้ได้ภาพบนเวทีที่ใกล้และคมชัดขึ้น ซึ่งระยะที่ใช้งานและประทับใจก็จะเป็นระยะ 3x และ 6x โดยที่ยังเก็บรายละเอียดต่างๆ ครบถ้วน สามารถดูได้จากรูปตัวอย่าง

นอกจากนี้หากเป็นการใช้งานระยะซูมที่ไกลกว่า 6x จะเป็นการทำงานร่วมกับ AI Telescope Zoom ที่เปิดใช้งานอัตโนมัติตั้งแต่ 10x ขึ้นไปเพื่อเข้ามาช่วยประมวลผลรายละเอียดให้ภาพที่ได้อย่างมีความคมชัด เรียกว่าถือเครื่องนี้ไปเครื่องเดียวก็ได้ภาพซูมเหมือนเข้าไปใกล้สิ่งที่ต้องการถ่ายในขณะนั้น และยังมีฟีเจอร์ Stage Mode ช่วยให้การถ่ายบนเวทีง่ายขึ้น เก็บสีสันและรายละะเอียดได้ครบถ้วน

อีกหนึ่งความสามารถคือระบบ AI Edittor ที่ใช้งานได้จริงสภาพที่ถ่ายออกมาและต้องการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น

  • AI Entrance Clarity ที่สามารถเพิ่มความละเอียดภาพให้คมชัดแบบ 4K UHD
  • AI Eraser สำหรับใช้งานลบสิ่งที่ไม่ต้องการบนภาพถ่ายหรือคนที่เราไม่ต้องการให้อยู่ในภาพออกไป เป็นฟีเจอร์ที่ได้ใช้งานจริงในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความเป็นมืออาชีพในแบบที่เราต้องการ
  • AI Unblur นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เอามาใช้หลังจากการถ่ายภาพในสถานการณ์รีบๆหรือเราไม่ได้เช็ดภาพ เพราะบางครั้งภาพที่ได้ออกมาจะมีความเบลอ แต่ฟีเจอร์นี้สามารถช่วยปรับให้ภาพคมชัดมากขึ้น
  • AI Remove Reflection เป็นฟีเจอร์ใช้ลบเงา หรือภาพถ่ายที่บางครั้งเราถ่ายผ่านกระจก ทำให้ภาพออกมาคมชัดเหมือนเราถ่ายในสถานการณ์นั้นจริงๆ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ดีมากๆ

ในส่วนของเรื่องกล้องถ่ายภาพยังไม่หมดเท่านี้ ความสามารถของโหมด Hasselblad Portrait ที่ให้มาถึง 6 ระยะ ตั้งแต่ 23mm, 35mm, 48mm, 73mm, 85mm และ 135mm เรียกว่าเป็นการจำลองเลนส์จากกล้องถ่ายภาพแบบมืออาชีพมาเลย ทำให้สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้หลายระยะ และภาพมีความสมจริงตัดขอบได้อย่างชัดเจน ทำให้ตัวแบบดูมีชีวิตชีวาและพื้นหลังเบอร์สวยงาม

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโทนสีภาพที่เป็นกล้อง Hasselblad ที่จะได้ภาพในโทนสีมีความเป็นธรรมชาติสมจริง ไม่เน้นสีสันจัดจ้าน และครั้งนี้ยังได้เอฟเฟคฟิล์มอนาล็อก 3 รูปแบบมาใช้บนกล้องถ่ายภาพ ชวนให้นึกถึงภาพย้อนยุค สื่อถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น

  • CC Film เอฟเฟกต์ฟิล์มบวกแบบคลาสสิคมีความเท่ห์และสวยงาม
  • NC Film เอฟเฟกต์ฟิล์มลบแบบคลาสสิค ให้โทนสีนุ่มนวลขอบฟ้าอมเขียว
  • NH Film เอฟเฟกต์สีฟิล์มที่มีสีคอนทราสต์สูง ใช้ถ่ายกับภาพบุคคลที่แสดงถึงอารมณ์ความนุ่มนวล ละเอียดอ่อน

สำหรับการบันทึกวีดีโอบน OPPO Find X8 Pro ก็อยู่ในระดับมืออาชีพ รองรับความละเอียด 4K/60fps Dolly Vision ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทำให้วีดีโอที่ถ่ายออกมามีความคมชัด และในระยะซูม 6x สามารถใช้งานครอปกับเซ็นเซอร์ 50MP ก็ยังได้ภาพที่มีความละเอียดคมชัดแบบ 4K ดั้งเดิม

อีกหนึ่งอย่างที่เห็นได้คือการถ่ายวีดีโอบน Story IG แล้วอัพโหลดลง วีดีโอที่ได้ยังรักษาความละเอียดได้เหมือนต้นฉบับ ไม่เบลอและยังได้เสียงที่คมชัด

ประสิทธิภาพจัดเต็ม

สำหรับประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไปเรียกว่าสมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับท๊อป ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล เปิดแอปพลิเคชั่นพร้อมกันหลายๆแอปฯ เครื่องก็ยังทำงานได้เร็วไม่เจออาการสะดุด เพราะด้วยประสิทธิภาพของ ชิปเซ็ต Dimensity 9400 คู่กับ RAM 16GB ทำให้ CPU ทำงานเร็วขึ้น 35% และ GPU เร็วขึ้น 41% และยังตอบโจทย์การใช้งาน AI เร็วขึ้น +35%

อีกหนึ่งอย่างที่อยากพูดถึงคือ AI LinkBoost การออกแบบให้มีเสาอากาศรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยให้เวลาขณะที่เราอยู่ในลิฟท์สัญญาณไม่ขาดหาย จากการทดลองใช้งานจริงด้วยการใช้งานวิเีโอคอล ขณะอยู่ในลิฟท์ ก็ยังสามารถพูดคุยได้ปกติ

แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็ว

OPPO Find X8 Pro เห็นตัวเครื่องที่ที่บางแต่แบตที่ให้มาความจุสูงถึง 5910mAh ตั้งแต่ใช้งานมาเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งที่ใช้งานได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นโดยไม่ต้องชาร์จ เพราะด้วยการใช้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นหลัก ทำให้การใช้งานทุกอย่างก็จะอยู่บนเครื่องนี้ ตั้งแต่การเช็คเมล ใช้งานโซเชียลเพื่อทำงาน ดูวีดีโอ ฟังเพลง และเวลาที่ออกไปข้างนอกก็ต้องใช้ดูแผนที่เวลาขับรถ ก็ไม่ต้องกังวลเพราะใช้งานได้จนถึงกลับบ้านจริงๆ

นอกจากนี้เวลาที่แบตๆ ใกล้หมดอีกหนึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์ก็คือการชาร์จเร็ว เพราะประหยัดเวลาชาร์จได้เยอะและไม่ต้องเสียเวลาชาร์จข้ามคืน ด้วยความสามารถในการรองรับชาร์จเร็ว 80W SUPERVIOCTM ด้วยสาย หรือแม้แต่การชาร์จไร้สายก็รองรับที่ความเร็ว 50W AIRVOOCTM ทำให้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่เต็มเร็วขึ้น

สรุปหลังการใช้งานจริง

หากใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนตัวท็อปไว้ใช้สักเครื่องบอกเลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังกับ OPPO Find X8 Pro ที่สามารถลบคำว่าสมาร์ทโฟนจีนไปได้เลย เพราะด้วยการออกแบบ เทคโนโลยี ประสิทธิภาพ เรียกว่าอัดแน่นไม่แพ้ใครเมื่อเทียบกับรุ่นท๊อปด้วยกัน ตอบโจทย์ทุกฟังชั่นก์ ซึ่งตอนแรกกลัวว่าเครื่องจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพหรือมีอาการสะดุด เครื่องอืด ช้า แต่หลังจากใช้มา 2 เดือนเต็ม เรียกว่าลบความคิดที่ไม่ไว้ใจสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนออกไปได้จากหัว เพราะนี่คือสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริงทุกด้าน

ราคาและการวางจำหน่าย

OPPO Find X8 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Pearl White และสีดำ Space Black ในความจุ RAM 16GB + ROM 512GB ราคา 39,999 บาท

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version