HOME Review รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G ดีไซน์พิเศษ Xiaomi Fan Festival Special Edition

รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G ดีไซน์พิเศษ Xiaomi Fan Festival Special Edition

Redmi ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition เพื่อเฉลิมฉลองความพิเศษให้กับ Xiaomi Fan Festival 2024 กับตัวเครื่องสี Mystic Silver ที่ออกแบบมาพิเศษตั้งแต่โลโก้ที่ติดบนกล่อง วอลเปเปอร์ ดีไซน์หลังตัวเครื่อง และอื่นๆ แต่ยังคงอัดแน่นสเปคที่ใช้งานได้โดดเด่นทุกสถาณการณ์กับกล้องคมชัด 200MP มีกันสั่น OIS และหน้าจอโค้งรุ่นแรกใน Redmi Note เรียกว่ารุ่นนี้ทำออกมาเพื่อเอาใจแฟนๆ หรือใครที่ชื่นชอบความพิเศษไม่ควรพลาด

ดีไซน์โดดเด่น สำหรับ Xiaomi Fan Festival 2024

Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่น Xiaomi Fan Festival Special Edition ชื่อรุ่นก็บอกแล้วว่าพิเศษ ตั้งแต่กล่องที่มีรูปเครื่องสี Mystic Silver และมีโลโก้ Xiaomi Fan Festival 2024 สกรีนติดมาที่ด้านบนของกล่อง นอกจากนี้ ในกล่องยังมีสติ๊กเกอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการเฉลิมฉลองในปีนี้ให้มาอีกด้วย

ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องของ Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่น Xiaomi Fan Festival Special Edition ก็จะเหมือนรุ่นที่วางขายไปก่อนหน้า ต่างกันที่ตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมสี Mystic Silver ซึ่งเป็นสีเทาเงิน ด้านหลังมีโลโก้ Xiaomi Fan Festival 2024

นอกจากนี้ ยังมีวอลเปเปอร์ Xiaomi Fan Festival มาพร้อมกับเครื่อง หรือสามารถเลือกตั้งค่าใช้งานได้ที่วอลเปเปอร์ แล้วเลือกวอลเปเปอร์ของระบบ ก็จะเห็นวอลฯ สีเทาพร้อมโลโก้

ส่วนสเปคของ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ก็ยังอัดแน่นมาให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในทุกด้าน โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจโดยเราจะมาบอกเล่าในรีวิวนี้

กล้องคมชัด 200MP มี OIS

Redmi Note 13 Pro+ 5G ให้กล้องหลักมาที่ความละเอียด 200MP รองรับ Super QPD ที่ช่วยโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงเทคโนโลยี OIS และ EIS ช่วยป้องกันภาพสั่นไหว ไม่ว่าจะถ่ายในสภาพแสงแบบไหนก็เอาอยู่และได้ภาพถ่ายที่มีความคมชัด นอกจากนี้ ฮาร์ดแวร์กล้องที่ดีแล้ว ยังทำงานร่วมกับระบบประมวลผลภาพ Xiaomi Imaging Engine ที่เข้ามามีส่วนร่วมจัดการระบบเร่งความเร็วของ CPU, GPU, DSP, ISP หรือจะเป็นเรื่องของแสงไฟ สภาพแวดล้อม ระบบสี และอื่นๆ เพื่อการประมวลผลภาพถ่ายให้ออกมาดีที่สุด โดยกล้องหลังให้มาทั้งหมด 3 เลนส์ แบ่งออกเป็น

  • กล้องหลัก 200MP เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4, รูรับแสง f/1.65
  • กล้องเลนส์กว้างพิเศษ 8MP
  • กล้องมาโคร 2MP

กล้องถ่ายภาพของคมชัดพิเศษ 200MP หรือมีความละเอียดที่ 16,320 x 12,240 พิกเซล พร้อมกันสั่นที่ให้มาทั้ง OIS และ EIS ทำให้ภาพถ่ายคมชัดสูง ซึ่งเมื่อซูมเข้าไปดูวัสถุที่อยู่ไกลๆ ก็ยังคมชัด รายละเอียดในภาพครบถ้วน และยังรองรับการใช้งาน 4X Lossless Zoom หรือเทียบเท่ากับออปติคัลซูมแบบดั้งเดิม สามารถเข้าใกล้วัตถุได้สูงสุด 4x แต่ภาพยังคมชัดเหมือนเดิม

ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียด 200MP

กล้องถ่ายภาพของ Redmi Note 13 Pro+ 5G ยังขับเคลื่อนด้วยเซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 ทีมีขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว มาพร้อมรูรับแสง f/1.65 เทคโนโลยี Pixel-binning ช่วยถ่ายภาพกลางคืนและที่แสงน้อยให้ออกมาคมชัด ทั้งยังได้เลนส์ 7P และ Atomic Layer Deposition (ALD) ที่ช่วยลดแสงสะท้อน และแสงแฟลร์ในขณะถ่ายภาพในที่มืด ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความคมชัด และรายละเอียดสีสันที่ครบสมบูรณ์

ตัวอย่างภาพถ่ายแสงน้อย

Redmi Note 13 Pro+ 5G ยังเป็นสมาร์ตโฟนที่มีช่วงสีกว้าง DCI-P3 ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีการไล่เฉดสีสันสวยสมจริงเหมือนกับที่ตามองเห็น และยังมีลูกเล่นให้เลือกใช้กับภาพถ่ายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

กล้องมุมกว้าง 8MP

กล้องมุมกว้างให้มาที่ความละเอียด 8MP สามารถใช้งานได้หากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถถอยออกมาหรือต้องการเก็บภาพให้ครบไม่ตกเฟรม โดยที่ความละเอียดอยู่ในระดับดี ลงโซเชียลหรือส่งให้เพื่อนได้

ลูกเล่นบนกล้อง Redmi Note 13 Pro+ 5G

  • ฟิลเตอร์กล้องฟิล์มที่มีให้เลือกใช้งานมากกว่า 12 แบบ ช่วยเพิ่มหลากหลายและสื่อถึงอารมณ์นั้นๆ ในภาพถ่ายให้ออกมาน่าสนใจ
  • filmFrame สามารถเพิ่มกรอบให้กับภาพถ่ายได้ถึง 11 แบบที่แตกต่าง เหมือนกับการเปลี่ยนภาพถ่ายให้กลายเป็นงานศิลปะ
  • เอฟเฟกต์ AI bokeh สามารถปรับภาพถ่าย Portrait หน้าชัด หลังเบลอ พร้อมโบเก้ได้อย่างสวยงาม

หน้าจอโค้ง เทคโนโลยี AMOLED

Redmi Note 13 Pro+ 5G เป็นรุ่นแรกของซีรีย์ที่ใช้หน้าจอแบบโค้ง พร้อมเทคโนโลยี AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ความสว่างสูงสุด 1800nits ทั้งยังใช้งานไหลลื่นด้วยอัตรารีเฟรชปรับอัตโนมัติ 120Hz ทำให้การแสดงผลบนหน้าจอมีสีสวยงามคมชัด ใช้งานลื่นและเสถียร

หน้าจอยังเลือกใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus ทีมีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงการออกแบบจอโค้งรับกับเครื่องได้อย่างพรีเมียม และเป็นจอที่มีขอบบางเพียง 2.37 มม. ทำให้การใช้งานบนจอได้กว้างเต็มตา ใช้งานเพื่อความบันเทิง ดูหนัง หรือเล่นเกมได้อย่างมีอรรถรส

ความพิเศษของหน้าจอยังไม่หมด Redmi Note 13 Pro+ 5G มาพร้อมเทคโนโลยีหรี่แสงหน้าจอ PWM 1920Hz และปรับความสว่างได้ถึง 16,000 ระดับ สำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย เพื่อช่วยลดอาการปวดตา หรืออันตรายจากแสงสีฟ้า ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในขณะนั้น ทำให้ช่วยลดการเกร็งของดวงตา ไม่เป็นอันตรายเมื่อต้องใช้งานบนหน้าจอช่วงที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ โดยการันตีการรับรองจาก TÜV Rheinland ประกอบด้วย การปราศจากการกระพริบ (Flicker Free), แสงสีฟ้าต่ำ (Low Blue Light) และการเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน (Circadian Friendly)

ประสิทธิภาพระดับท๊อป

Redmi Note 13 Pro+ 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200-Ultra ขนาด 4 นาโนเมตร ทำงานเร็วและลื่น มาพร้อม RAM 12GB + ROM 512GB ใช้งานได้อย่างราบลื่น ประมวลผลรวดเร็ว ระหว่างการใช้งานหรือสลับแอปพลิเคชั่นก็ไม่พบอาการสะดุด และยังเก็บข้อมูลได้เยอะโดยไม่จำเป็นต้องใช้หน่วยความจำภายนอก

เล่นเกมลื่น ไม่ต้องกลัวร้อน

Redmi Note 13 Pro+ 5G ตอบโจทย์สำหรับคนที่ขอบเล่นเกมได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอตอบสนองการสัมผัสสูงที่ 2160Hz และมีโหมด Game Turbo ที่ช่วยจัดการพลังงานของเครื่องหรือตัดส่วนที่จะมารบกวนขณะเล่นเกมออกไป ทำให้ขณะเล่นเกมจะเห็นว่าเครื่องตอบสนองเร็ว เล่นลื่น ไม่มีอาการกระตุก

นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีแผงระบายความร้อน VC กว้างเกือบ 4,000 ตร.มม. และพื้นที่ระบายความร้อนด้วยแกรไฟต์ 11,000 ตร.มม. ช่วยกระจายความร้อนได้ดี ไม่ทำให้เครื่องร้อนเมื่อเล่นเกมต่อเนื่องหรือขณะที่ต้องชาร์จแบตฯ ไปด้วย ซึ่งเรียกว่าเป็นการออกแบบเพื่อระบายความร้อนที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟน Redmi

หน้าจอและระบบเสียงคุณภาพ

Redmi Note 13 Pro+ 5G เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เกินมาเพื่อความบันเทิงแบบจัดเต็ม ทั้งเรื่องของหน้าจอและการทำงานที่รวดเร็วแล้ว ยังมีหน้าจอรองรับ HDR10+ ระดับภาพยนตร์ สามารถปรับไดนามิกของภาพทั้งเรื่องของแสงและเงาได้เหมือนจริงและดูมีชีวิตชีวา ทั้งยังระบบเสียงระดับมืออาชีพด้วยลำโพงคู่เทคโนโลยี Dolby Atmos รองรับแสงแบบพาโนรามาได้รอบทิศ ให้เสียงสมจริงเหมือนกับดูหนังในโรงภาพยนตร์

แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 120W HyperCharge

Redmi Note 13 Pro+ 5G ให้แบตฯ มาที่ความจุ 5000mAh เรียกว่าเป็นระดับมาตราฐานของแบตฯ ที่ควรจะมีบนสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เพราะการใช้งานทั่วไปในแต่ละวันค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับรุ่นนี้ถือว่าใช้ได้ทั้งวันไม่ต้องกลัวแบตฯ หมด ดูวิดีได้ต่อเนื่องถึง 19 ชั่วโมง หรือเล่นเกมได้นานถึง 12 ชม.

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมชิปชาร์จเร็ว P1 ที่พัฒนาขึ้นเอง เพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จเร็ว เพื่อให้แบตฯ ทนและปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าการรองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge บน Redmi Note 13 Pro+ 5G สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อชาร์จแบตฯ เต็ม 100% ได้เร็วในเวลาเพียง 19 นาที และมีอะแดปเตอร์มาให้ในกล่องโดยที่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

ดีไซน์สวยพรีเมียม

Redmi Note 13 Pro+ 5G ออกแบบหน้าจอให้มีขอบโค้งรับกับกรอบเครื่องที่มีความบาง ทำให้เครื่องมีความพรีเมียมสวยงาม จับกระชับเข้ามือ และน้ำหนักเบา

การออกแบบพอร์ตต่างๆ ก็ทำได้อย่างลงตัว โดยที่ตัวเครื่องด้านบนและด้านล่างเป็นขอบตัด มีไมโครโฟน ลำโพงเสียง และ IR Blaster สำหรับใช้ควบคุมเป็นรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตัวเครื่องด้านบน โดยถาดใส่ซิมการ์ด จะวางไว้ที่ด้านล่างของเครื่อง พร้อมกับพอร์ตชาร์จแบตฯ แบบ USB Type-C และลำโพงเสียงด้านล่าง

ส่วนตัวเครื่องด้านซ้ายไม่มีพอร์ตใดๆ จะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดเครื่องขนาดเล็กอยู่ที่ตัวเครื่องด้านขวา

ด้านหลังตัวเครื่อง Redmi Note 13 Pro+ 5G เป็นดีไซน์ทูโทนระหว่างพื้นที่กล้องกับฝาหลัง ทั้งยังออกแบบกล้องให้มีความกลมกลืนกับตัวเครื่อง ทำให้ฝาหลังสวยงามและลงตัว

กันน้ำและฝุ่นระดับ IP68

Redmi Note 13 Pro+ 5G ยังเป็นซีรีย์แรกที่ใส่คุณสมบัติกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 มาให้เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนแฟกซ์ชิป และมีเทคโนโลยี Wet Touch ที่รับรู้การสัมผัสหน้าจอได้ในขระเปียดน้ำ ป้องกันการสั่งงานโดยไม่ตั้งใจ เรียกว่าปลออดภัยหายห่วงทุกสถานการณ์

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังออกแบบมามีมาตราฐานคุณภาพคงามแข็งแรงทนทาน ได้รับการทดสอบตกพื้น แรงอัดหรือแม้กระทั่งการทดสอบพอร์ต USB เพื่อให้ได้เครื่องที่มีความแข็งแรงทนทาน ให้ผู้ใช้มั่นใจถึงประสิทธิภาพการใช้งานระดับแฟกซ์ชิป

Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่น Xiaomi Fan Festival Special Edition เป็นสมาร์ทโฟนสีใหม่ที่มาใช้ชื่อ Mystic Silver เพื่อเป็นการฉลองช่วงเวลาพิเศษของ Xiaomi Fan Festival 2024 ซึ่งสะท้อนการออกแบบได้สมกับการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และยังมีตัวเลือกอีก 3 สีให้เป็นเจ้าของ ได้แก่ สี Midnight Black, สี Moonlight White และสี Aurora Purple

สเปค Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition

  • หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712×1220, 446PPI
  • เทคโนโลยีหน้าจอ : รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1800 nits, DCI-P3 100%, HDR10+
  • รองรับ Dolby Vision
  • ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200-Ultra Octa-Core (4nm)
  • RAM/ROM : 8+256GB | 12+512GB(LPDDR5 + UFS 3.1)
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
  • กล้องหลัก 200MP เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4, รูรับแสง f/1.65
  • กล้องเลนส์กว้างพิเศษ 8MP
  • กล้องมาโคร 2MP
  • กล้องหน้า 16MP, f/2.4
  • ความปลอดภัย : เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, AI ปลดล็อกด้วยใบหน้า
  • มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
  • แบตเตอรี่ 5000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition
  • สายชาร์จ USB Type-C
  • อะแดปเตอร์ 120W
  • อุปกรณ์ถอดซิม
  • เคสซิลิโคน
  • สติ๊กเกอร์ Xiaomi Fan Festival
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ราคาและการวางจำหน่าย Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition

Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่น Xiaomi Fan Festival Special Edition วางจำหน่ายรุ่นความจุ RAM 12GB + 512GB ในสี Mystic Silver ราคา 15,990 บาท เป็นเจ้าของได้ที่ร้าน Xiaomi Store ทั่วประเทศ

โปรโมชันพิเศษในช่วง 1-30 เม.ย. 67 ลูกค้าที่ซื้อ ‘Redmi Note 13 Pro+ 5G Special Edition’ จะได้รับเคสมือถือ BamBam สุดเอ็กคลูซีฟ พร้อมกระเป๋าเป้ Xiaomi Fan Festival 2024 มูลค่า 1,390 บาท*

(หมายเหตุ* ของแถมมีจำนวนจำกัด / เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version