HOME Review รีวิว OPPO K3 สเปกแรง ไม่ทิ้งดีไซน์สวยงาม จอเต็ม ความบันเทิงครบ ระบบเสียง Dolby Atmos

รีวิว OPPO K3 สเปกแรง ไม่ทิ้งดีไซน์สวยงาม จอเต็ม ความบันเทิงครบ ระบบเสียง Dolby Atmos

OPPO K3 สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในเรื่องของสเปกแรง ไม่ทิ้งการออกแบบที่สวยอย่างลงตัว ทำให้ได้หน้าจอไร้ติ่งขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว กล้องหน้าแบบ Rising Camera ในส่วนของหน่วยประมวลผลเรียกว่าทำงานแบบเหลือๆ กับ Qualcomm Snapdragon 710, RAM 8GB, ROM 128GB รองรับการปลดล็อกบนหน้าจอ และแบตเตอรี่อาจจะไม่ใหญ่เพียง 3765mAh แต่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 เท่านี้ชีวิตก็สบายแล้ว เหมาะกับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลาง ในราคา 9,990 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่อง

OPPO K3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบอย่างสวยงาม ด้วยตัวเครื่องไม่หนาจนเกินไป ฝาหลังโอบรับกับมือด้วยการออกแบบ 3 มิติไร้รอยรอยต่อ กับสี Jade Black ให้อารณ์เหมือนสีของน้ำทะเลลึก มีความสวยงามน่าค้นหา เมื่อสัมผัสให้ความรู้สึกกระชับ สบายมือ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงกว้าง ไร้ติ่ง ไร้รอยบาก แบบ Panoramic Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล จึงมีพื้นที่การใช้งานกว่า 91.1%

ส่วนด้านล่างของหน้าจอ ยังถูกใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วใต้หน้าจอมาให้ด้วย รองรับการใช้งานสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ซึ่งมีความพิเศษคือใส่ AI เข้ามาช่วยเรียนรู้ความแม่นยำ ทำให้ปลดล็อกได้เร็วขึ้นเพียงสัมผัส หรือเร็วกว่าเดิมถึง 28.5%

กล้องถ่ายรูปด้านหน้าถูกออกแบบมาใหม่ เรียกว่า Rising Camera วางตำแหน่งไว้อยู่ตรงกลางตัวเครื่องด้านบน ซึ่งได้รับการทดสอบเรื่องความแข็งแรงทนทานมาแล้วมากกว่า 200,000 ครั้ง เฉลี่ยการใช้งาน 100 ต่อวัน เรียกว่าใช้ได้นานถึง 5 ปี จึงไม่ต้องห่วงว่ากล้องจะพังง่ายๆ นอกจากนี้ กล้องยังเลื่อนขึ้นทำงานได้รวดเร็วเพียง 0.74 วินาที

OPPO K3 ยังเป็นอีกรุ่นที่ให้ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาด้วย โดยจะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง พร้อมกับเป็นรุ่นที่มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 และลำโพงที่มากับเครื่องเป็น ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงมีมิติ สมจริง ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็เต็มที่ทุกถ่วงอารมณ์

ส่วนช่องใส่ซิมการ์ดจะรองรับ Nano SIM 2 ช่องเท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD ได้ เพราะตัวเครื่องที่ให้มาก็มีความจุ 128GB แล้ว

ระบบปฎิบัติการ

OPPO K3 รันบนระบบปฎิบัติการ ColorOS 6 based on Android 9 Pie ซึ่งเป็น UI ที่มีความทันสมัยและเรียบง่าย พร้อมโหมดต่างๆ ที่รองรับการใช้งานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ

  • ผู้ช่วยอัฉริยะ : อยู่ทางหน้าจอด้านซ้ายสุด เป็นเหมือนหน้าที่รวบรวมการใช้งานของผู้ใช้เป็นประจำ ให้ค้นหาและเข้าถึงง่าย เช่น เลือกแอพฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ มาไว้, โปรแกรมนับก้าว, รายชื่อติดต่อ, ปฎิทิน เป็นต้น
  • Smart Bar : แถบผู้ช่วยใช้งานที่อยู่ข้างหน้าจอ ซึ่งสามารถตั้งค่าด่วน การใช้งานแอพฯ หรือฟังก์ชั่นที่ ที่ใช้บ่อย เมื่อต้องการก็เลือกใช้ง่าย เช่น บันทึกหน้าจอ, จับภาพหน้าจอ เป็นต้น
  • บริการ Smart : ผู้ช่วยในการขับขี่เพื่อความปลอดภัย ซึ่งเมื่อใช้งานยานพาหนะสามารถตั้งค่าไม่ให้รบกวน ปิดเสียง เชื่อมต่อเป็นบลูทูธในรถ ได้เมื่อมีการใช้รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซต์
  • ตัวช่วยเพิ่มความสะดวก : จะเป็นฟังก์ชั่นที่รวมรวมการใช้งานแบบท่าทาง หรือปุ่มบนเครื่อง เช่น ปุ่มนำทางที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ย้ายจากปุ่มย้อนกลับที่เดิมอยู่ด้านขวาไปไว้ด้านซ้าย
  • Game Space : ฟังก์ชั่นสำหรับการจัดการเมื่อเล่นเกม ทำให้ตัวเครื่องสามารถใช้ทรัพยากรเพื่อเกมได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการปิดแจ้งเตือน หรือเลือกวิธีรับสายโทนศัพท์ผ่านลำโพง เพื่อไม่ให้รบกวนในขณะเล่นเกม

ประสิทธิภาพตัวเครื่อง

OPPO K3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้หน่วยประมวลผลระดับบน Qualcomm Snapdragon 710 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz ขนาด 10 นาโนเมตร ช่วยเรื่องของการประหยัดพลังงาน ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และมี Game Boost 2.0 เข้ามาช่วยเรื่องของการเล่นเกมได้ดีขึ้น ซึ่งจะทำงานคู่กันระหว่าง Frame Boost ที่จัดการระบบให้ทำงานลื่นไหล และ Touch Boost ช่วยเรื่องระบบสัมผัส ทำให้การเล่นเกมแรงๆไม่มีปัญหา

ทดสอบประสิทธิภาพ

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 156,790 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 315 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,470 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme – OpenGL ES 3.1 ได้ 1,828 คะแนน และ Sling Shot Extreme – Vulkan 1,753 คะแนน

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ทดสอบการเล่นเกม

สำหรับ OPPO K3 ในการเล่นเกมที่มีกราฟิกเยอะๆ หรือเกมหนักๆ ทำได้ดี แทบไม่เห็นว่าเครื่องมีอาการกระตุก หรือสะดุด อย่างเกม ROV ก็สามารถปรับเฟรมเรตได้ที่ระดับสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 59-60fps ส่วนเกมอื่นๆ เรียกว่าสบายหายห่วง เล่นลื่น เครื่องไม่ร้อน เพราะเครื่อง OPPO K3 มีระบบระบายความร้อน 5 ขั้นตอน เข้ามาจัดการพลังงานต่างๆ ภายในเครื่อง

จุดเด่นอื่นๆ

รองรับชาร์จเร็ว

OPPO K3 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 ทำให้การชาร์จบนแบตเตอรี่ความจุ 3,750 mAh เร็วขึ้น 25% ตัวเครื่องไม่ร้อนขณะชาร์จ เพราะทาง OPPO มีระบบความปลอดภัยถึง 5 ขั้นตอน ในการออกแบบทั้งตัวอแดปเตอร์ชาร์จเร็ว และระบบภายในตัวเครื่อง สามารถชาร์จและเล่นเกมไปได้พร้อมกัน

ลำโพง Dolby Atmos

รุ่นนี้ถือว่าให้มาจัดเต็ม เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่น แต่ได้ระบบเสียง Dolby Atmos ที่มีพลังกระหึ่ม ให้เสียงมีมิติสมจริงกับการใช้งาน ทั้งเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง เรียกว่าลำโพงไม่มีเบาอีกต่อไป

กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปด้านหลังคู่ ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับ AI และมีค่ารูรับแสง f/1.7 และมีโหมด HDR ช่วยในการถ่ายภาพที่มีแสงจ้าให้ออกมาเห็นวัตถุได้ชัด พร้อมกับยังมีพื้นหลังอยู่ และกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มี AI Beautification ปรับหน้าสวยได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงโหมด Portrait ที่ถ่ายหน้าชัด-หลังเบลอได้สวยงาม เนียนๆ ด้วยการทำงานของกล้องคู่ และยังมีโหมดการใช้งานหลากหลายให้มาค่อนข้างครบ โดยจะมีเด่นๆ ดังนี้

โหมดปกติ

สำหรับการใช้งานโหมดปกติเรียกว่าถ่ายสวยใช้ได้เลย หากเป็นที่แสงจ้าก็เปิด HDR ช่วย แต่ถ้าแสงปกติก็ใช้โหมดอัตโนมัติ ภาพที่ออกมามีความคมชัด ทั้งยังได้ AI เข้ามาช่วย ทำให้สามารถวิเคราะห์ฉากหรือซีนที่กำลังถ่ายและปรับสีภาพออกมาอย่างเหมาะสม

Ultra Night Mode 2.0

อีกหนึ่งจุดเด่นของ OPPO ที่มีมาหลายรุ่น ด้วยการทำงานของกล้องที่มีประสิทธิภาพ และความฉลาดของ AI ทำให้สามารถ่ายภาพกลางคืนในที่ที่มีแสงน้อยได้แบบสบาย ช่วยลด Noise เก็บสี แสง และรายละเอียดได้ครบถ่วย และยังลดการสั่นไหวขณะถ่ายโดยไม่มีขาตั้งกล้องได้ง่ายๆ

Dazzle Color Mode 2.0

โหมดปรับสีให้สดใส ซึ่งเป็นการใช้ AI เข้ามาช่วยดึงสีของภาพถ่ายให้ดูสดใส มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น รวมถึงการช่วยปรับแสงสว่างให้รูปไม่ดูหมอง

เปรียบเทียบรูป ปิด และ เปิด Dazzle Color

OPPO K3 เป็นอีกรุ่นที่ครบครัน ในราคากลางๆ ไม่ถูก หรือแพง เพราะวางขายเพียง 9,990 บาท แต่สเปกที่ให้มาจัดเต็ม ซึ่งจะเห็นข้อดี และข้อควรพิจารณา ดังนี้

ข้อดี

  • จอใหญ่แบบ Panoramic Screen กว้าง 6.5 นิ้ว
  • ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710
  • RAM 8GB, ROM 128GB
  • กล้องหลังคู่ ถ่ายกลางคืนสวย
  • สแกนนิ้วบนหน้าจอ
  • ระบบเสียง Dolby Atmos
  • รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีช่องใส่ MicroSD
  • ไม่มีหูฟังมาให้ในกล่อง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • OPPO K3
  • สายชาร์จหัว USB Type-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว
  • เคสพลาสติกแบบแข็ง
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือการใช้งาน

สเปกตัวเครื่อง

  • หน้าจอแสดงผล Panoramic Screen เทคโนโลยี AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอ 93.1% และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 710 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz
  • RAM 8GB, ROM 128GB
  • ระบบปฎิบัติการ ColorOS 6 based on Android 9 Pie
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 2 เลนส์ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 + กล้องรอง 2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beautification, Bokeh
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, OTG และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,765 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.2 × 76 × 9.4 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 191 กรัม

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version