HOME Review รีวิว OPPO Reno2 สวยทุกมุมมองสมชื่อ กล้องถ่ายรูปดีงามทั้งภาพนิ่งและวิดีโอมีกันสั่น

รีวิว OPPO Reno2 สวยทุกมุมมองสมชื่อ กล้องถ่ายรูปดีงามทั้งภาพนิ่งและวิดีโอมีกันสั่น

OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนที่มีคอนเซปต์ “4 กล้องหลัง ชัดทุกระยะ สวยทุกมุมมอง” กับจุดเด่นของกล้องที่ต้องยกให้ มาพร้อมกันถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล เก็บได้ทั้งกลางวันกลางคืน ใช้งาน Hybrid Zoom ได้ 5 เท่า ยังเด่นเรื่องของการถ่ายวิดีโอที่มีกันสั่นด้วยโหมด Ultra Steady และกล้องหน้ารองรับการถ่ายวิดีโอปรับพื้นหลังให้เป็นแบบหน้าชัดหลังเบลอ จัดเต็มหน่วยประมวลผล Snapdragon 730G, RAM 8GB, ROM 256GB แบตฯ ใหญ่ ชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 ในราคาเพียง 17,990 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่องเรียกว่าสวยทุกมองจริงๆ ตั้งแต่จับครั้งแรกสะดุดตากับสี Luminous Black ที่ผสมผลานระหว่างสีน้ำเงินและสีดำ โดยที่ตัวเครื่องมีฝาหลังและขอบข้างโค้งมน มีหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล แบบ Sunlight AMOLED Screen ใช้งานได้ชัดในที่แสงจ้า ทั้งยังมีหน้าจอกว้างเต็มขอบไร้ติ่ง แถมขอบข้างยังบางเพียง 3.35 มม.

ด้าบนหน้าจอไม่กล้องหน้า หรือเซ็นเซอร์ใดๆ จะมีก็แต่ขอบเครื่องที่เป็นลำโพงเสียงสนทนา

ถัดมาด้านล่างประทับใจกับของสุดบาง ปุ่มต่างๆ อยู่บนหน้าจอแบบซอร์ฟแวร์ และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ เรียกว่าใช้งานได้รวดเร็วแค่แตะเบาๆ ก็ปลดล็อกทันที รองรับการใช้งานสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

ตัวเครื่องด้านบนจะเห็นว่ามีร่องเป็นแถบยาวๆ พร้อมกัยรูไมโครโฟน ซึ่งเป็นกล้องหน้าแบบครีบฉลาม หรือ Shark Fin Pop-up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล จะโผล่ขึ้นมาเมื่อเรียกใช้งานเซลฟี่ หรือปลดล็อกด้วยใบหน้า

ส่วนพอร์ตต่างๆ ยังให้มาครบ ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และ ลำโพงเสียง ถูกวางเรียงไว้ที่ด้านล่างตัวเครื่อง

นอกจากนี้ ตัวเครื่องด้านซ้ายจะมีเพียงปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

ส่วนด้านขวาของเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM (Hybrid Slot) พร้อมกับปุ่มเปิดเครื่องที่มีลูกเล่นเพิ่มแถบสีเขียวใส่มาด้วย

ตัวเครื่องด้านหลังทำจากกระจก Corning Gorilla Glass 5 ดีไซน์โค้ง 3 มิติ มีการเล่นเงาสะท้อนของสีดำ-สีน้ำเงินที่ขอบข้างและตรงกลางเครื่อง ออกแบบให้มีเลนส์กล้องหลังอยู่ในแนวสมมาตรเรียงอยู่ใต้กระจกที่เคลือบเงาระดับนาโน 95 มม. ถึง 3 ชั้น ทำให้สัมผัสเหมาะกับฝ่ามืออย่างสวยงาม โดยเห็นได้ไว่าเป็นการออกแบบอย่างใส่ใจ กล้องไม่นูนออกมาเรียบเป็นแนวเดียวกัน แต่จะมีปุ่มนูนๆ ขึ้นมาที่เรียกว่า O-Dot ช่วยป้องกันเลนส์กล้องเป็นรอย

สำหรับกล้องถ่ายรูปด้านหลังให้มา 4 เลนส์ ประกอบด้วย

  • เลนส์หลัก Ultra-clear 48 ล้านพิกเซล f/1.7 (GM1+EIS)
  • เลนส์ Telephoto 13 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • มุมกว้าง 116 องศา, เลนส์ wide angle lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • สมาร์ทโฟน OPPO Reno2
  • สายชาร์จพอร์ต USB Type-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว VOOC 3.0
  • หูฟังสมอลทอร์ค
  • เคสพลาสติกลายหนัง
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือการใช้งาน

หน่วยความจำภายใน/ระบบปฎิบัติการ

OPPO Reno2 มาพร้อมหน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB ซึ่งแกะกล่องออกมามีเหลือใช้งานมากกว่า 220GB แต่หากไม่พอก็มีช่องใส่ MicroSD ได้สูงสุด 256GB ทั้งยังรันบนระบบปฎิบัติการ ColorOS 6 based on Android 9 Pie

ทดสอบประสิทธิภาพ

  • ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 460,746 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 756 และคะแนน Multi-Core ที่ 2,446 คะแนน
  • การทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme – OpenGL ES 3.1 ได้ 6,033 คะแนน และ Sling Shot Extreme – Vulkan 5,087 คะแนน

จุดเด่น OPPO Reno2

หน้าจอกว้างไร้ติ่ง

หน้าจอแสดงผลของ OPPO Reno2 นอกจากจะมีขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ทำให้มีพื้นที่ใช้งานกว่า 93.1% จอยังมีคุณสมบัติ Sunlight AMOLED Screen ซึ่งหากเคยใช้งานใสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในที่กลางแจ้งจะเห็นว่ามองจอไม่ค่อยชัด แต่สำหรับ OPPO Reno2 จะทำให้การใช้งานในที่แสงจ้าได้ดี สีสันสดใส จอสู้แสงในโหมด outdoor สูงสุด 800nits

หน่วยประมวลผล

หน่วยประมวผล Snapdragon 730G Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz ทำงานร่วมกับ RAM 8GB, ROM 256GB เมื่อพูดถึงการเล่นเกมก็ไม่เบา ลื่นไม่มีกระตุก อย่าง ROV เฟรมเลตอยู่ที่ 59-60ไม่มีสะดุดให้เห็น นอกจากนี้เกมแรงๆ อย่าง Call of Duty สามารถเล่นได้สบาย ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือยิง เกมก็ลื่นไม่สะดุด

แบตฯ จุถึง 4000 mAh รองรับชาร์จเร็ว

แบตเตอรี่บน OPPO Reno2 มีความจุ 4000 mAh สำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวันถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าใครเล่นเกม ดูหนัง ก็อยู่ได้ที่ 8-13 ชม. แต่ไม่ต้องห่วงเพราะรุ่นนี้รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 โดยการชาร์จเพียง 30 นาที ได้แบตฯ เพิ่มมากถึง 51% ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอชาร์จนานๆ ทั้งยังชาร์จได้บ่อยๆ เพราะมีความปลอดภัยถึง 5 ขั้นตอน ทั้งตัวอุปกรณ์และระบบชาร์จภายใน

กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปด้านหลังถือว่าใส่มาค่อนข้างครบ ทั้งความละเอียดสูง มุมกว้าง หรือจะใช้งานซูม พกสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวถ่ายได้ครบจบทุกมอง โดยโหมดกล้องหลักๆ จะมีดังนี้

กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล

กล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล f/1.7 สามารถเก็บรายละเอียด สีสันของภาพได้คมชัดครบถ้วน ทั้งยังเอาไปใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะปริ้นท์หรือขยายก็ไม่ทำให้ไฟล์แตก

พลังซูมจัดเต็ม

กล้องหลังมาพร้อมเลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รองรับ Hybrid Zoom ได้ 5 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียด และยังซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 20 เท่า ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ใกล้

โหมด Ultra Dark

ช่วยให้การถ่ายรูปในที่แสงน้อยหมดปัญหาไป เพราะมีเทคโนโลยี NPU เข้ามาช่วย ปรับเปลี่ยนจากความมืดให้สว่างขึ้น รวมถึงมี AI Noise Reduction ช่วยลดนอยซ์ทำให้รูปถ่ายออกมาคมชัด

โหมด AI Beauty

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มี AI เข้ามาช่วยปรับแต่งหน้าสวย สามารถตั้งค่าอัตโนมัติ หรือเลือกปรับแต่งก็ทำได้ ทั้งหน้าเรียว คางเล็ก ตาโต เป็นต้น

วิดีโอ

โหมด Ultra Steady Video มีระบบกันสั่นไหวเข้ามาช่วยให้การถ่ายวิดีโอนิ่งขึ้น ทำงานร่วมกันระหว่าง OIS+EIS สามารถใช้งานได้ที่ความละเอียด 1080p@60fps ซึ่งจะได้วิดีโอที่นิ่งและสมูทมากยิ่งขึ้น เทียบจากการปิดและเปิดจะเห็นระบบกันสั่นทำงานชัดเจน เอาในคนชอบถ่ายวิดีโอไม่ว่าจะวิ่ง เดิน หรือกระโดดไปด้วย

Test : โหมด Ultra Steady Video บน OPPO Reno2

โหมด Bokeh Effect Video สำหรับกล้องหน้าและกล้องหลัง คือการถ่ายวิดีโอไปพร้อมกับการปรับ Bokeh แบบหน้าชัด-หลังเบลอ ทำพื้นหลังละลายแต่โฟกัสที่หน้ามากขึ้น เป็นลูกเล่นอีกอย่างที่น่าสนใจ โดยต้องเปิดใช้งาน Bokeh ก่อนบันทึกวิดีโอ

Test : Bokeh Effect Video บน OPPO Reno2

ข้อดี

  • จอใหญ่ขอบเหลือน้อย ใช้งานได้เต็มจอ
  • RAM 8Gb, ROM 256GB
  • กล้องหลัง 4 เลนส์ ครบทุกระยะ
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 ยังมีมาให้ใช้งาน

ข้อควรพิจารณา

  • รองรับ 2 ซิม แต่ช่องซิม 2 ต้องเลือกใส่ซิม หรือ MicroSD

สเปก OPPO Reno2

  • หน้าจอแสดงผล Panoramic Screen เทคโนโลยี AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอ 93.1% วัสดุ Gorilla Glass 6
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 730G Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz
  • RAM 8GB, ROM 256GB
  • GPU: Adreno 618
  • ระบบปฎิบัติการ ColorOS 6 based on Android 9 Pie
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ รองรับการซูม Hybrid Zoom 5 เท่า และ Digital Zoom 20 เท่า ประกอบด้วย
  • – เลนส์หลัก Ultra-clear เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.7 (OIS)
  • – เลนส์ Telephoto 13 ล้านพิกเซล f/2.4
  • – เลนส์ wide angle lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 116 องศา
  • – เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่าย Portrait
  • กล้องหน้า Pivot Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beautification,ถ่ายวิดีโอด้วย Bokeh Effect ได้
  • สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Fingerprint Unlock 3.0
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม แบบ Hybrid Slot
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, OTG และพอร์ต USB Type-C
  • พลังเสียงเทคโนโลยี Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาดตัวเครื่อง : 160 × 74.3 × 9.5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 189 กรัม
  • สี : Luminous Black, Sunset Pink

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version