HOME Review รีวิว Xiaomi Redmi Note 8 Pro สเปคแรง กล้องหลัง 4 เลนส์ 64MP ราคาจ่ายหมื่นมีทอนเยอะ

รีวิว Xiaomi Redmi Note 8 Pro สเปคแรง กล้องหลัง 4 เลนส์ 64MP ราคาจ่ายหมื่นมีทอนเยอะ

Xiaomi Redmi Note 8 Pro สมาร์ทโฟนสุดคุ้มในราคาไม่ถึงหมื่น กับสเปคไม่ใช่ย่อย ชูจุดเด่นด้วยกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล บนจอขนาดใหญ่แบบ Dot Drop กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Helio G90T มีระบบระบายความร้อน LiquidCool และแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W ในราคาเพียง 8,999 บาท

ดีไซน์รอบตัวเครื่อง

Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความสวยงามโดดเด่น ทำจากวัสดุ Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ขอบโค้ง ฝาหลังไล่เฉดสีสว่างและเข้ม มีความลื่นและเกิดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย

หน้าจอแสดงผลยังคงเป็นแบบหยดน้ำ หรือเรียกว่า Dot Drop กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล โดยรอยบากด้านบนเป็นพื้นที่ของกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ถัดขึ้นไปขอบเครื่องมีช่องลำโพงเสียงสนทนา

ส่วนด้านล่างหน้าจอยังมีขอบดำอยู่ แต่เรียกว่ากินพื้นที่น้อยมาก และปุ่มโฮม ปุ่มเมนู และย้อนกลับจะอยู่บนจอในรูปแบบซอร์ฟแวร์

ตัวเครื่องด้านบนมี IR Interface และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

Redmi Note 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C โดยมีช่องหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงเสียงอยู่ด้านล่างของเครื่อง

ส่วนตัวเครื่องด้านซ้ายใรช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง โดยอีก 1 ช่องต้องเลือกใส่ซิม หรือ MicroSD

ตัวเครื่องด้านขวามีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง

ฝาหลังของ Redmi Note 8 Pro มีความเงาสะท้อนเล่นแสงสวยงาม เป็นการไล่เฉดสีเข้มตรงกลางออกไปหาสีสว่างด้านข้างเครื่อง โดยที่ตรงกลางจะมีเลนส์กล้อง 3 ตัวเรียงกันในแนวตั้ง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วอยู่ด้วย นอกจากนี้ กล้องตัวที่ 4 และไฟแฟลช LED จะอยู่ถัดไปทางด้านขวา

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • Xiaomi Redmi Note 8 Pro
  • สายชาร์จพอร์ต USB Type-C
  • อแดปเตอร์
  • เคสพลาสติกแบบใส
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือ-ใบรับประกัน

หน่วยความจำภายใน/ระบบปฎิบัติการ

Redmi Note 8 Pro มาพร้อมหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128GB ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร สามารถเก็บรูปถ่าย ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ได้แบบไม่ต้องพึ่ง MicroSD ซึ่งเปิดใช้งานมีพื้นที่เหลือประมาณ 115GB โดยรันบนระบบปฎิบัติการ MIUI 10 based on Android 9 ออกแบบ UI เรียบๆ มีความโค้งมนซ่อนอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม และมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ เช่น

พื้นที่ทับซ้อน

สร้างความเป็นส่วนตัวไม่ให้ใครเข้าถึงได้ง่าย เก็บความลับไม่ให้ใครเห็น โดยที่เราเข้าได้จากรหัสที่ตั้งไว้

ตอบด่วน

สามารถตอบกลับข้อความได้จากหน้าแจ้งเตือนทันที โดยไม่ต้องเปิดหรือเข้าไปในแอพฯ นั้น

Game Turbo

ผู้ช่วยในการเล่นเกมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเร่งความเร็ว กำหนดทิศทางของหน้าจอ เลือกตั้งค่าการโทร รับสาบไม่ให้เข้ามารบกวนขณะเล่นเกม ทำให้ช่วยดึงการใช้งานของฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ออกมาได้เต็มที่

ทดสอบประสิทธิภาพ

  • ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 224,240 คะแนน
  • การทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme – OpenGL ES 3.1 ได้ 1,088 คะแนน และ Sling Shot Extreme – Vulkan 1,167 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 510 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,648 คะแนน

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นของ Xiaomi Redmi Note 8 Pro

ดีไซน์โค้งมนแบบ 3D

ตัวเครื่องเรียกว่ามีความสวยงามมาก ยิ่งเป็นด้านหลังไล่เฉดแบบ 3 มิติ มีความสว่างไล่ไปหาสีเข้ม เมื่อกระทบกับแสงยังมีโดดเด่น เงาสะท้อนสวยงาม นอกจากนี้ ขอบข้างและปุ่มต่างๆ ก็ออกแบบเป็นสีและผิวสัมผัสเหมือนกัน

ระบบความปลอดภัย

ส่วนของระบบในการปลดล็อกตัวเครื่องก็ให้มาเต็ม ทั้งการใส่รหัสผ่าน สแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือที่มีเซ็นเซอร์อยู่ด้านหลังเครื่อง วางไว้ด้านล่างกล้องตัวที่ 3 หากไม่สังเกตดีๆ ก็นึกว่าเป็นกล้องเหมือนด้านบน ทำให้จุดนี้เครื่องมีความสวยงาม และการใช้งานสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อกก็ทำได้เร็วแค่แตะเบาๆ

หน่วยประมวลผล Helio G90T พร้อมเทคโนโลยี LiquidCool

Redmi Note 8 Pro ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Mediatek Helio G90T (12nm) Octa-core ความเร็ว 2.05 ซึ่งเรียกว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปบน สามารถเล่นเกมแรงๆ กราฟิคเยอะได้เต็มที่ อย่างเกม ROV สามารถเปิดเฟรมเรตสูง วิ่งอยู่ที่ราวๆ 59-60fps ไม่ว่าจะเดินหรือต่อสู้ก็ไม่มีอาการสะดุดให้เห็น

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี LiquidCool เข้ามาช่วยเวลาเล่นเกมนานๆ ไม่ทำให้เครื่องร้อน ช่วยทำให้เครื่องเย็นเครื่อง จึงไม่เป็นอุปสรรคหากถือนานๆ

แบตเตอรี่ความจุสูง 4500mAh ชาร์จเร็ว 18W

ส่วนของแบตเตอรี่เรียกว่าน่าพอในอย่างมาก ให้มาถึง 4500 mAh หากเปิดถึงไว้อยู่ได้สบายๆ 2 วัน โดยที่แบตฯ เหลือ 65% ยังใช้งานได่ต่ออีก 25 ชั่วโมง หรือประมาณ 1 วันแบบไม่ต้องชาร์จ และที่สำคัญคือรองรับชาร์จเร็ว 18W อีกด้วย

กล้องถ่ายรูป AI 4 เลนส์

กล้องถ่ายรูปด้านหลังใส่มาถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ยังมีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้การถ่ายรูปออกมาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเลนส์ที่ใช้งานได้ในประจำวันใส่มาให้ ทั้งมุมปกติ มุมกว้าง หรือจะโฟกัสใกล้ๆ แบบมาโคร ซึ่งกล้องหลังประกอบไปด้วย

  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล, f/1.9
  • เลนส์ Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล, f/2.4

ตัวอย่างรูปถ่าย 64MP

ตัวอย่างรูปถ่ายโหมดปกติ

ตัวอย่างรูปถ่ายมุมกว้าง

ตัวอย่างรูปถ่ายมาโคร

กล้องหน้ายังมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มี AI เข้มาช่วยปรับแต่งหน้าสวย ทั้งยังมีโหมดบุคคลแบบหน้าชัด-หลังเบลอมาให้ใช้งาน

จุดเด่นของ Xiaomi Redmi Note 8 Pro

  • ดีไซน์สวยงาม จอใหญ่
  • กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูง 64MP
  • มีเทคโนโลยีระบายความร้อน เล่นเกมได้ต่อเนื่อง
  • แบตฯ อึด 4500 mAh ชาร์จเร็ว
  • มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต Type-C

ข้อควรพิจารณา

  • ช่องใส่ซิมแบบ Hybrid
  • ตัวเครื่องหนัก

สเปค Xiaomi Redmi Note 8 Pro

  • หน้าจอแสดงผล IPS LCD กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
  • หน่วยประมวลผล :Mediatek Helio G90T (12nm) Octa-core ความเร็ว 2.05GHz
  • RAM 6GB, ROM 128GB รองรับ Micro SD สูงสุด 256GB
  • ระบบปฎิบัติการ MIUI 10 based on Android 9
  • กล้องถ่ายรูป 4 เลนส์
  • – กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล, f/1.9
  • – เลนส์ Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • – เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • – Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล, f/2.0
  • ระบบความปลอดภัย : รหัสผ่าน, สแกนใบหน้า, สแกนนิ้ว
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม แบบ Hybrid
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, OTG และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.4 × 76.4 × 8.8 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 199.8 กรัม
  • สี : Deep Sea Blue, Dark Blue, White, Black
  • ราคา : 8,999 บาท

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version