realme 5 และ realme 5 Pro พี่น้องคู่หูที่ได้เปิดตัวไปแล้วในต่างประเทศ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ วันที่ 3 กันยายนนี้ ซึ่งทั้งคู่ชูจุดเด่นของกล้องถ่ายรูปด้านหลังที่มีมาให้ถึง 4 เลนส์แบบจัดเต็ม พร้อมใช้งานด้วยแบตฯ อึด จอใหญ่ ทั้งยังคงความสวยงามของด้านหลังตัวเครื่องแบบไล่เฉดสี ดีไซน์ไดมอนด์คัท ส่องแสงสะดุดตากับสี “Crystal Green” และสี “Sparkling Blue” ซึ่งแต่ละรุ่นมีสเปกดังนี้
realme 5 Pro
- หน้าจอ : หน้าจอแสดงผล IPS LCD กว้าง 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล อัตราส่วน19.5:9
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 712 octa-core ความเร็ว 2.2 GHz
- GPU : Adreno 616
- RAM/ROM : 4/64GB, 6/64GB และ 8/128GB
- ระบบปฎิบัติการ : Color OS 6.0 based on Android 9.0
- กล้องหลัง : กล้องหลัก 48MP รูรับแสง f/1.8, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ ultra wide-angle ความละเอียด 8MP มุมกว้าง 119°, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth sensor ความละเอียด 2MP มีไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า : ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.0
- แบตเตอรี่ : 4,035mAh กำลังไฟ 20W รองรับชาร์จเร็ว VOOC 3.0
- การเชื่อมต่อ : Dual SIM (4G), Bluetooth 5.0, Wi-Fi a/b/g/n, USB-C
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีช่องใส่ MicroSD ได้สูงสุด 256 GB
- สแกนลายนิ้วมือหลังตัวเครื่อง
- สี : Crystal Green, Crystal Blue
- ตัวเครื่องขนาด : 157 x 74.2 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 184 กรัม
realme 5
- หน้าจอ : หน้าจอแสดงผล IPS LCD กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1600×720 พิกเซล อัตราส่วน19.5:9
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 655 octa-core ความเร็ว 1.8 GHz
- GPU : Adreno 610
- RAM/ROM : 3/32GB, 4/64GB และ 4/128GB
- ระบบปฎิบัติการ : Color OS 6.0 based on Android 9.0
- กล้องหลัง : กล้องหลัก 12MP รูรับแสง f/1.8, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ ultra wide-angle ความละเอียด 8MP มุมกว้าง 119°, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth sensor ความละเอียด 2MP มีไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า : ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.0
- แบตเตอรี่ : 5,000mAh กำลังไฟ 10W
- การเชื่อมต่อ : Dual SIM (4G), Bluetooth 5.0, Wi-Fi a/b/g/n, USB-C
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีช่องใส่ MicroSD ได้สูงสุด 256 GB
- สแกนลายนิ้วมือหลังตัวเครื่อง
- สี : Crystal Green, Crystal Blue
- ตัวเครื่องขนาด : 164.4 x 75.6 x 9.3 มม.
- น้ำหนัก : 198 กรัม
สำหรับราคาเปิดตัวคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาท ซึ่งจะต้องประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในวันที่ 3 ก.ย. นี้