OnePlus Nord สมาร์ทโฟนที่เรียกว่าจะเป็นตัวตนของ OnePlus เลยก็ว่า จากจุดเริ่มต้นที่อยากทำสมาร์ทโฟนสเปคดีในราคาเข้าถึงได้ ตัวนี้กลับมาตามคอนเซปต์แล้ว แถมได้ชื่อสโลแกนว่าเป็น “Lite Flagship for New Gen” ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเป็นสมาร์ทโฟนสเปคระดับกลาง แต่ให้การใช้งานไหลลื่น มาพร้อมดีไซน์สวยดูดี กล้องใช้งานได้ในระดับที่น่าพอใจ รวมถึงเรื่องของการเล่นเกมก็ไม่ได้เบา และยังรองรับชาร์จเร็วในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 14,990 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
OnePlus Nord มาพร้อมตัวเครื่องจับถนัดมือ ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ส่วนขอบข้างก็โค้งรับกับฝ่ามือเป็นอย่างดี ตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบาเพียง 184 กรัม ฝาหลังได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาตินำมาใส่ไว้บนผิวของตัวเครื่องด้านหลังด้วยความเรียบหรูแบบ Metallic บนกระจก Matte AG Glass กึ่งด้านแต่มีเงาเล็กน้อย เกิดรอยนิ้วมือยากและมองไม่ค่อยเห็น โดยตัวเครื่องที่ได้มารีวิวจะเป็นสี Gray Onyx สีเทาเข้ม ฝาหลังเป็นกระจกผิวสัมผัสลื่นมันเงา และอีกสีที่เด่นจะชื่อ Blue Marble เป็นสีฟ้าสว่างสดใส
มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Dual Punch Hole Display เทคโนโลยี Fluid AMOLED ซึ่งใส่กล้องหน้าเจาะรู 2 เลนส์ที่มุมซ้าย จอมีสีสันสดใสขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9 รองรับการใช้งาน HDR10+ และรีเฟรชเรท 90Hz
เหนือหน้าจอที่มุมซ้ายจะเป็นกล้องหน้าคู่ โดยมีเลนส์หลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 ส่วนอีกเลนส์เป็นกล้องมุมกว้าง Ultra Wide ความละเอียด 8 พิกเซล f/2.45 มุมกว้าง 105 องศา
ด้านล่างหน้าจอไม่มีปุ่มใดๆ แต่ยังคงเหลือแถบสีดำเล็กน้อยซึ่งถือว่าน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับรุ่นอื่น ส่วนปุ่มควบคุมการทำงานจะอยู่ในรูปแบบซอร์ฟแวร์บนจอ และถัดขึ้นไปเล็กน้อยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรองรับทั้งหมด 5 ลายนิ้วมือ ซึ่งรุ่นนี้จะอยู่ค่อนมาทางด้านล่างไม่สูงเหมือนที่อยู่บน OnePlus 8/8 Pro การใช้งานปลดล็อคถือว่าทำได้เร็ว ตอบสนองได้ทันทีที่สัมผัสเบาๆ นอกจากนี้ บริเวณเซ็นเซอร์ยังมีเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวเห็นได้เด่นชัด สามารถปรับเปลี่ยนได้ในแบบที่ต้องการมีให้เลือกกว่า 4 แบบ
ตัวเครื่องด้านบนมีเพียงไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนตัวเดียว
ส่วนใหญ่พอร์ตต่างๆ จะอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง ใส่ได้บน-ล่าง ไม่สามารถใส่หน่วยความจำภายนอกเพิ่มได้ ถัดไปทางขวาจะมีรูไมโครโฟนอีก 1 ตัว พอร์จชาร์จที่เป็น USB Type-C และลำโพงเสียงของตัวเครื่อง ซึ่งเป็นลำโพงเดี่ยว
ฝาหลังตัวเครื่องสี Gray Onyx เป็นสีเทาผิวมันวาว มองด้านข้างจะเห็นเป็นสีเหลือบดำเล็กน้อย ให้ความหรูหราและสวยงามดูดีเลยทีเดียว ทั้งยังมีเลนส์กล้องวางเรียงกันแนวตั้ง 4 เลนส์ที่มุมซ้ายของเครื่องเป็นครั้งแรก จากด้านบนสุดเป็นเลนส์ Ultra Wide Angle 8 ล้านพิกเซล f/2.25 มุมกว้าง 119 องศา ถัดลงมาเป็นเลนส์หลัก Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.75, Depth Sensor 5 ล้านพิกเซล, f/2.4 และสุดท้ายเป็นเลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 ซึ่งไฟแฟลช LED จะอยู่ถัดไปด้านข้าง นอกจากนี้ ตรงกลางจะมีโลโก้ OnePlus และค่อนมาด้านล่างเป็นชื่อแบรนด์ฟอนต์ใหม่พร้อมข้อมูลตัวเครื่อง
กล้องถ่ายรูป
กล้อง OnePlus Nord ก็เรียกว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน ให้มาถึง 4 เลนส์ โดยที่เลนส์หลักสามารถถ่ายรูปได้สวยงามคมชัด สีสันสมจริงในมาตรฐานของ OnePlus นอกจากนี้ ยังรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีฟังก์ชั่นถ่ายมุมกว้าง กลางคืน ภาพหน้าชัด-หลังเบลอ และระยะใกล้ได้ ซึ่งค่อนข้างครบเลยทีเดียว ลองมาดูว่าแต่ละกล้องมีความสามารถมากน้อยเพียงใด
กล้องหลัก
OnePlus Nord มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 มีกันสั่น OIS โดยรูปถ่ายที่ได้จะเป็นสไตล์ OnePlus มีสีสันสวยงามคมชัด แต่จะไมม่สดใสจนเกินจริง สามารถนำเอาไปปรับแต่งเร่งสีให้สดยิ่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดของรูปถ่ายที่ได้มีความคมชัดสูง ส่วนใครคิดว่าไม่ได้ใช้ความละเอียดสูงๆ ค่าเริ่มต้นของกล้องจะตั้งมาที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอในการนำไปใช้ ลงโซเชียลแน่นอน
เลนส์มุมกว้าง
เลนส์มุมกว้างที่ให้มาจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล โดยรายละเอียดจะลดลงจากเลนส์หลักและสีจะออกเหลืองนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับเยอะจนดูแล้วไม่สวยงาม แต่ได้เปรียบเรื่องมุมกว้าง 119 องศา ทำให้รูปที่ถ่ายออกมาไม่โค้งเว้าจนบิดเบี้ยวเกินไป
Nightscape
โหมดถ่ายรูปกลางคืนของ OnePlus Nord ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจ ด้วยความสามารถของรูรับแสงขนาด f/1.75 และความสามารถของโหมด Nightscape ทำให้รูปถ่ายตอนกลางมีสีสด รูปมีความคมชัด รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ลดการเกิดจุดรบกวนในที่แสงน้อย ไม่ทำใหรูปที่ถ่ายออกมาเป็นวุ้น เรียกว่าทำได้ดีมากในโหมดนี้
Portrait
โหมดถ่ายรูปบุคคลของ OnePlus Nord สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยที่กล้องหลังใช้งานได้ทั้งมุมปกติและมุมกว้าง สามารถเปิดหน้าสวยไปได้พร้อมกัน ซึ่งโหมดนี้ไม่สามารถกำหนดความเบลอได้ แต่ระบบจะจัดและประมวลผลออกมาให้ ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง ตัดขอบได้เนียนสวยระหว่างบุคคลและฉากหลัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแสงในขณะนั้นด้วย
Portrait กล้องหลัง
Portrait กล้องหลังมุมกว้าง
กล้อหลังยังมีเอฟเฟ็กต์สีมาให้เเพิ่มความแปลกของสีภาพให้ดูน่าสนใจอีกด้วย
โหมด Macro
โหมดมาโคร หรือโหมดถ่ายรูประยะใกล้ที่มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถือว่าไม่ค่อยจำเป็นหรือใช้งานได้จริงสักเท่าไหร่ ซึ่งใส่มาให้ใช้งานได้แต่ต้องเข้าใกล้ในระยะ 1.15 นิ้ว ถึงจะได้รูปที่ค่อนข้างสมบูรณ์
กล้องหน้า
กล้องถ่ายรูปด้านหน้าคราวนี้ให้มามถึง 2 เลนส์เป็นครั้งแรก มาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นกล้องหลักที่ถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งยังใส่กล้องมุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาให้ด้วย ช่วยเก็บรายละเอียดหรือกลุ่มเพื่อนได้มากขึ้น
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
กล้องหน้ามุมกว้าง
ส่วนการปรับแต่งหน้าสวยก็ยังคงเป็นสไตล์ของ OnePlus มีมาให้ปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งก็ไม่ได้เนียนใสมากจนโอเวอร์ แต่ใช้งานได้จริงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
หน้าสวยระดับ 1 หน้าสวยระดับ 2 หน้าสวยระดับ 3
นอกจากนี้ ยังมีเอฟเฟ็กต์สีมาให้ใช้งานกับกล้องหน้าถึง 15 แบบ ทำให้รูปเซลฟี่ดูมีลูกเล่นเพิ่มขึ้น
กล้องหน้าโหมดบุคคลก็มีให้พร้อมกับปรับแต่งหน้าสวยได้ 3 ระดับ ทำให้ได้รูปที่มีความหน้าชัด-หลังเบลอ เน้นที่ตัวบุคคลโดดเด่น แต่โหมดนี้จะไม่มีเอฟเฟ็กต์สีมาให้ใช้งาน
กล้องหน้าสามารถถ่ายรูปตอนแสงน้อยหรือกลางคืนได้อีกด้วย โดยโหมกกลางคืนจะช่วยปรับแสงสว่างให้การเซลฟี่ทำได้ง่ายขึ้น
ระบบปฎิบัติการ
OnePlus Nord มาพร้อมระบบปฎิบัติการ OxygenOS based on Android 10 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของความลื่นแบบคลีนๆ การันตีการได้อัปเดตซอร์ฟแวร์และระบบความปลอดภัย ใช้งานง่ายไม่ต้องปรับแต่งอะไรเยอะ มีฟังก์ชั่นและลูกเล่นใส่มาให้ค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็น
โหมดมืด หรือ DarK Mode ที่ช่วยลดให้การใช้งานบนหน้าจอได้สบายตาขึ้น ลดความเมื่อยล้าของดวงตาหากใช้เป็นเวลานาน ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย
Navigation Gesture ปุ่มควบคุมการทำงานปรับให้เหมาะกับความถนัดไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา หรือจะเลือกใช้เป็นท่าทางการนำทางก็จะทำให้พื้นที่บนหน้าจอกว้างขึ้น
ชุดไอคอน รูปแบบไอคอนบนจอแสดงผลปรับแต่งได้ ทั้งแบบโค่งมน สี่เหลี่ยม และอื่นๆ เลือกใช้ได้ไม่มีเบื่อ
ทดสอบประสิทธิภาพ
- ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 324,807 คะแนน
- การทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Sling Shot Exterme – OpenGLES 3.1 Overall – 3,285 คะแนน และ Sling Shot Exterme – Vulkan – 3,077 คะแนน
จุดเด่น
ดีไซน์สวยเด่นพรีเมียม
การดีไซน์ตัวเครื่องของ OnePlus Nord ถือเป็นครั้งแรกของซีรีย์นี้ แต่ทำตัวเครื่องออกมาได้สวยงามน่าประทับใจเลยทีเดียว ทั้งขนาดที่สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม กระชับมือ ขอบข้างตัวเครื่องแม้ว่าจะเป็นพลาสติกแต่ถูกเคลือบด้วยสีโครเมี่ยมสวยงาม ฝาหลังออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เลือกใช้วัสดุการออกแบบ Metallic บนกระจก Matte AG Glass กึ่งด้านมีความเงาเล็กน้อย ทำให้เมื่อถือแล้วมีความพรีเมี่ยมสมกับที่เรียกว่าเป็น Flagship Design
หน้าจอกว้างเต็มขอบ
หน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ถือว่าใหญ่พอสมควรกับการใช้งานทั่วไป ดูหนังหรือเล่นเกม มีอัตราส่วนถึง 20:9 ซึ่งคราวนี้เป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูด้วย ทำให้ใช้งานบนจอได้มากขึ้น
ความโดดเด่นของจอ OnePlus Nord คือยังรองรับรีเฟรชเรท 90Hz อาจจะไม่เยอะเท่ารุ่นที่ 120Hz แต่การันตีได้ว่าลื่นจริงๆ ใช้งานสบายทั้งเลื่อนฟีด เล่นเกมทำได้หมดแบบไม่สะดุดให้หงุดหงิด และยังรองรับ HDR 10+ ทำให้ดูหนังบน Netflix หรือ YouTube ได้อรรถรส ภาพสวยสมจริงไปอีก
ชิปเซ็ตตัวเก่ง
ชิปเซ็ตที่ใส่มาบน OnePlus Nord เป็น Snapdragon 765GOcta-core ความเร็ว 2.84 GHz เรียกว่าเป็นระดับกลางค่อนไปทางด้านบน สามารถเล่นเกมทั้งหนักเบาได้สบายหายห่วง นอกจากนี้ยังได้ Game Mode กับ Fnatic Mode บนเครื่องใส่มาให้เล่นได้เต็มที่ไม่มีอะไรมากวนใจ
เมื่อได้ลองทดสอบเล่นเกม Asphalt 9 สามารถเปิดกราฟิกสูง เล่นได้ลื่น ภาพ ความเร็วเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่อาการกระตุกให้ได้เห็น ส่วน ROV ก้สามารถเปิดเฟรมเรตที่ระดับสูง เมื่อเล่นไปเฟรมเรตไม่นิ่งๆ อยู่ที่ 59-60 fps ไม่มีตกไปกว่านี้ ช่วงจังหวะเดิน ต่อสู้ภาพสมูทไม่สะดุดให้เห็นเลย
ชาร์จเร็วทันใจ
แบตเตอรี่มาพร้อมความจุ 4,115 mAh รองรับ Warp Charge 30T ซึ่งชาร์จเร็วได้ทันใจไม่ต้องรอ ถือว่าเป้นรุ่นกลางที่ให้ชาร์จเร็วเหมือนรุ่นใหญ่มาด้วย ซึ่งถ้าหากแบตฯ เหลือน้อยชาร์จเพียง 30 นาทีก็ได้แบตฯ เพิ่มขึ้นมาถึง 70% ไม่ต้องนั่งรอนานหรือชาร์จแบตฯ ทิ้งไว้ข้ามคืนกันแล้ว
อุปกรณ์ในกล่อง
- OnePlus Nord
- สายชาร์จ USB Type-C
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 30W
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มซิม
- คู่มือการใช้งาน
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ ลื่น 90Hz รองรับ HDR 10+
- Snapdragon 765G รองรับ 5G (700, 3500 MHz)
- กล้อง 4 เลนส์ ความละเอียดสูง 48MP
- ชาร์จเร็ว Warp Charge 30T
ข้อควรพิจารณา
- ลำโพงตัวเดี่ยว
- ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD
สเปค OnePlus Nord
- จอ Fluid AMOLED 6.44” (2400×1080) รีเฟรชเรท90Hz อัตราส่วน 20:9, HDR10+
- ชิปเซ็ต Snapdragon 765G รองรับ 5G (700, 3500 MHz)
- RAM 8/12GB
- ROM 128/256GB, UFS 3.0
- ระบบปฎิบัติการ OxygenOS based on Android 10
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.75, OIS, EIS
- เลนส์ Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, f/2.25, มุมกว้าง 119 องศา
- เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
- Depth Sensor 5 ล้านพิกเซล, f/2.4
- กล้องหน้า 2 เลนส์
- เลนส์หลัก 32 ล้านพิกเซล, f/2.45, HDR
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, f/2.45
- รองรับการเชื่อมต่อ 5G, Bluetooth 5.1, NFC, Wi-Fi 6 (2.4GHz และ 5GHz), USB-C 3.1
- แบตเตอรี่ 4,115 mAh รองรับ Warp Charge 30T
- อื่น : สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- ขนาดตัวเครื่อง 158.3 × 73.3 × 8.2 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 184 กรัม
- สี Blue Marble, Gray Onyx
สรุป
OnePlus Nord เป็นสมาร์ทโฟฟนอีกรุ่นที่มีความเป็นรุ่นกลางแต่ให้สเปคมาครบ เน้นการใช้งานที่ลื่น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ยืนยันไม่มีการลอยแพแน่นอน การันตีได้อัปเดต Android อย่างน้อย 2 ปี และ Security Patch อีก 3 ปี เรียกว่าใช้งานได้ยาวๆ รวมถึงชิปเซ็ตตัวนี้เป็นระดับกลางที่เกือบจะแตะเป็นตัวท๊อป ใช้งานทั้วไปดี เล่นเกมลื่นไม่มีสะดุด และรองรับ 5G ได้ในอนาคต (คลื่น 700 MHz และ 3500 MHz) ทั้งยังให้กล้องถ่ายรูปความละเอียดคมชัดครบทุกเลนส์ ถือว่าเป็นรุ่นกลางที่ครบถ้วนมากในราคาที่น่าสนใจ
ราคา
OnePlus Nord วางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่
- รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 14,990 บาท (สี Blue Marble, Gray Onyx)
- รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 17,990 บาท (สี Blue Marble)