HOME Review รีวิว OPPO Pad Air แท็บเล็ตดีไซน์บางเฉียบ และ OPPO Enco Air2 Pro หูฟังไดร์เวอร์ใหญ่ ตัดเสียงรบกวน

รีวิว OPPO Pad Air แท็บเล็ตดีไซน์บางเฉียบ และ OPPO Enco Air2 Pro หูฟังไดร์เวอร์ใหญ่ ตัดเสียงรบกวน

OPPO ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ลุยตลาดในเมืองไทยพร้อมกัน 2 ตัว ทั้ง OPPO Pad Air แท็บเล็ตรุ่นแรกที่มีตัวเครื่องดีไซน์โดดเด่น มาพร้อม OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds หูฟังบลูทูธไร้สาย พลังเสียงคุณภาพด้วยไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม. มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (ANC) และใช้งานต่อเนื่องนานถึง 28 ชั่วโมง

ทั้งคู่เรียกว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ใช้แค่สมาร์ทโฟน แต่ OPPO ยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายรุ่นที่เข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ลองไปดูกันว่ามีความโดดเด่นน่าสนใจเพียงใด

เริ่มกันที่ OPPO Pad Air แท็บเล็ตรุ่นแรกของทาง OPPO มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ตัวเครื่องบางและน้ำหนักเบา ทั้งยังให้หน้าจอถนอมสายตาคมชัดระดับ 2K Eye-care Display ขนาด 10.36 นิ้ว ให้คุณได้เพลิดเพลินกับความบันเทิงเต็มที่ด้วยลำโพง Dolby Atmos 4 ตัว ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องกับแบตเตอรี่ความจุ 7100mAh วางจำหน่ายแล้วในราคา 9,999 บาท

ดีไซน์บางเฉียบ

OPPO Pad Air มาพร้อมตัวเครื่องที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเครื่อง จะเห็นได้ว่าเครื่องมีความบางเท่ากันทุกด้าน โดยใช้เทคโนโลยี 3D finishing ครั้งแรกในอุตสาหกรรม ทำให้ได้ตัวเครื่องที่มีความโดดเด่น และสวยงาม โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 6.94 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 440 กรัม ทำให้ถือใช้งานสะดวกและพกพาง่าย

ด้านหลังของเครื่องในส่วนด้านบนได้แรงบันดาลใจจากความงามของเนินทรายยามพระอาทิตย์ตก ผสานกับเทคนิคการตกแต่งพื้นผิวด้วย OPPO Glow ยิ่งทำให้เครื่องมีความเปร่งประกาย จับถือสบายและลดการเกิดรอยนิ้วมือที่ฝาหลังได้เป็นอย่างดี

OPPO Pad Air มีตัวเลือกเพียงสีเดียวคือ สีเทา Fog Gray ซึ่งให้ความดูดีพรีเมียม แบ่งการออกแบบด้านหลังเป็น 2 โซนที่มีผิวสัมผัสต่างกัน โดยที่ส่วนล่างใช้กระบวนการ Sandblast คล้ายกับทรายละเอียด ทำให้พื้นผิวดูมีเลเยอร์และโดดเด่น

หน้าจอใหญ่ ถนอมสายตา

หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 10.36 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล โดยมีขอบหน้าจอขนาด 8 มม. เท่ากันทั้ง 4 ด้าน ทำให้มีพื้นที่ใช้งานกว่า 83.5% สามารถแสดงสีสันกว่า 1 พันล้านเฉดสี และยังเป็นจอถนอมสายตา

การใช้งานบนหน้าจอ OPPO Pad Air ไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิง ใช้งานทั่วไปในแต่ละวันก็มั่นใจได้ว่าจะช่วยถนอมสายตา ทั้งยังปรับความสว่างได้อัตโนมัติถึง 2,048 ระดับ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสดล้อมที่มีแสงน้อยก็ใช้งานได้สบายตา และยังเป็นจอที่ได้มาตราฐาน Tüv Rheinland สามารถตัดแสงสีฟ้า เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา

ไม่ว่าจะดู YouTube, หนัง หรือทำงานบนหน้าจอ OPPO Pad Air ก็ทำได้เต็มที่ และยังเป็นจอที่รองรับการใช้งานกับปากกา Smart Stylus ซึ่งวางจำหน่ายแยก โดยช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานยิ่งขึ้น

พลังเสียงกระหึ่มด้วยลำโพง 4 ตัว

เมื่อได้แท็บเล็ตที่มีหหน้าจอขนาดใหญ่แล้ว ด้านเสียงก็ไม่เบา ให้ลำโพงมาถึง 4 ตัว โดยวางไว้ที่มุมตัวเครื่องทุกด้าน ไม่ว่าจะถือหรือเล่นแท็บเล็ตแนวไหนก็ยังได้เสียงที่ดังและคมชัด และยังให้ sound chamber ขนาดใหญ่ถึง 0.8cc และกำลังไฟ 1W ทำให้เสียงที่ได้คมชัดทุกย่านความถี่ ให้เสียงสมจริงและรายละเอียดครบ

OPPO Pad Air ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos และรองรับ Dolby Audio decoding เมื่อใช้ร่วมกับคอนเทนต์ที่รองรับอฟเฟกต์เสียง Dolby ยิ่งทำให้ได้พลังเสียงแบบมีมิติ สมจริง ยิ่งเป็นหนังที่รองรับ ทำให้เพลิดเพลินและได้อรรถรสยิ่งขึ้น

ชิปเซ็ตทรงพลัง

OPPO Pad Air ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 Octa Core ขนาด 6nm คู่กับ RAM 4GB สามารถเพิ่ม Extended RAM ได้อีก 3GB ซึ่งก็เพียงพอต่อการทำงานของแท็บเล็ต ใช้งานปกติทั่วไปลื่น หรือจะเล่นเกมก็ยังทำได้ แต่ถ้าลดเรื่องกราฟิกหรือเฟรมเรตลงก็จะทำให้เกมเล่นลื่น

รันบน ColorOS สำหรับ OPPO Pad Air

ColorOS for Pad เป็นระบบปฎิบัติการที่นำมาใช้กับ OPPO Pad Air มอบประสบการณ์ทำงานบนหน้าจอใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น

  • เปิดใช้งาน 2 แอปพลิเชั่นพร้อมกัน ด้วยการใช้ 2 นิ้ว ปัดลงตรงกลางหน้าจอ เท่านี้ก็เปิดใช้งาน 2 หน้าจอ เพื่อทำงาน Multitasking ง่ายขึ้น
  • การลากและวางไฟล์ โดยสามารถแตะไฟล์ที่ต้องการใช้งานค้างไว้ จากนั้นลากไปยังแอปฯ อื่น แล้ววางลง เท่านี้ก็ปรับแต่งการทำงานได้ง่ายขึ้น
  • Multi-Screen Connect หรือการเชื่อมต่อหลายหน้าจอ ทำให้คุณควบคุมการทำงาน หรือป้อนข้อความที่อุปกรณ์หลัก แล้วให้ไปแสดงอีกหนึ่งอุปกณ์ได้ง่ายๆ
  • E-ink Screen สำหรับ e-books ใช้สำหรับเปิดโหมด Eye Comfort และเลือกการแสดงผลเป็นขาวดำ เพื่อเปลี่ยนหน้าจอเป็นโหมดการแสดงผลแบบ e-book B/W ช่วยให้อ่านสบายตาขึ้น

แบตฯ ใหญ่ ใช้งานได้ทั้งวัน

OPPO Pad Air แม้ว่าตัวเครื่องที่เห็นจะมีความบาง น้ำหนักเบา แต่ใส่แบตฯ มาให้ถึง 7100mAh ทำให้ใช้งานได้ยาวๆ ต่อเนื่องทั้งวัน ไม่ว่าจะใช้วิดีโอคอลก็ทำงานต่อเนื่องถึง 15 ชม. หรือดูหนังได้ต่อเนื่อง 12 ชม. แบบสบายๆ พกไปข้างนอก หรือเวลาเดินทางไกลก็ใช้งานได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตฯ ทั้งยังรองรับชาร์จไว 18W ผ่าน USB-PD อีกด้วย

สรุปหลังรีวิว

OPPO Pad Air เป็นอีกหนึ่งแท็บเล็ตที่ยอมรับเลยเรื่องดีไซน์ที่สวยงาม บางและเบา พกง่าย สะดวกไปทุกที่โดยไม่รู้สึกหนักหรือเป็นภาระของกระเป๋า ส่วนเรื่องการทำงานก็ตอบโจทย์ จอใหญ่ ใช้งานสบายตา และด้านความบันเทิงนี่ต้องยกให้เลยกับลำโพงกระหึ่มเสียงดังคมชัด เรียกว่าครบทุกการใช้งาน

สเปก OPPO Pad Air

  • หน้าจอ IPS กว้าง 10.36 นิ้ว ความละเอียด 2000×1200 พิกเซล
  • หน้าจอ 2K Eye-care Display
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 ขนาด 6nm
  • GPU Adreno 610
  • RAM 4GB + 3GB RAM Expansion
  • ROM 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1
  • การเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 (802.11ac), 802.11a/b/g/n, Wi-Fi 2.4GHz, Bluetooth 5.1
  • กล้องหลัง 8MP, f/2.0
  • กล้องหน้า 5MP, f/2.2
  • แบตเตอรี่ 7100mAh, ชาร์จไว 18W
  • ขนาดตัวเครื่อง 240.08 x 154.84 x 6.94 มม.
  • น้ำหนัก 440 กรัม
  • สี Fog Gray
  • ราคา 9,999 บาท

OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds

มาต่อกันที่ OPPO Enco Air2 Pro หูฟังบลูทูธรุ่นใหม่มาพร้อมสีใหม่แปลกตาอย่างสีเทา ชูจุดเด่นด้วยไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ ดีไซน์สวย มีระบบตัดเสียงรบกวน และใช้งานได้นานกว่า 28 ชม.

ดีไซน์

OPPO Enco Air2 Pro หูฟังไร้สายแบบ Ear Buds มาพร้อมเคสเก็บหูฟังแบบ Refractive Bubble คล้ายรูปทรงไข่ โดยจะมีไฟแสดงสถานะอยู่ด้านหน้า และโลโก้ OPPO ที่ด้านหลังเคส

เปิดออกจะเห็นหูฟังสองข้างวางชาร์จอยู่ในแนวตั้งและยึดติดกับเคสด้วยแม่เหล็ก ไม่ทำให้ร่วงหล่นออกจากเคสง่าย

ตัวหูฟังมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.3 กรัม ทำให้ใส่ต่อเนื่องได้นานและสบายไม่เจ็บหู ทั้งยังได้ยางรองที่มีให้เลือกเหมาะกับช่องหูของแต่ละคนถึง 3 ขนาด

ตัวหูฟังมีสัญญาลักษณ์ R และ L ติดอยู่ชัดเจนสำหรับใส่หูข้างไหน โดยบริเวณก้านของหูฟังมีไมโครโฟน 2 ตัว และยังรองรับการควบคุมการทำงานแบบสัมผัส
พลังเสียง สามารถตั้งค่าได้ดังนี้

  • แตะครั้งเดียว – หยุด/เล่นเพลง
  • แตะสองครั้ง – เปิดเพลงถัดไป หรือวางสาย/ปฏิเสธการรับสาย
  • แตะสามครั้ง – ระบบสั่งการด้วยเสียง
  • แตะค้าง 1 วินาที – เปลี่ยนเป็นระบบตัดเสียงภายนอก
  • แตะค้าง 4 วินาที – เพิ่ม/ลดเสียง หรือสลับอุปกรณ์

การเชื่อมต่อ

OPPO Enco Air2 Pro เชื่อมต่อง่ายด้วยบลูทูธ 5.2 หรือหากเป็นสมาร์ทโฟนของ OPPO เมื่อเปิดบลูทูธและฝาเคสหูฟังขึ้น จะมีหน้าจอป๊อบอัพถามการเชื่อมต่อทันที

จุดเด่นของหูฟัง OPPO Enco Air2 Pro

ไดรเวอร์ขนาด 12.4 มม.

OPPO Enco Air2 Pro เป็นหูฟัง Ear Buds ทีพัฒนาไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น Titanized diaphragm drivers ขนาด 12.4 มม. ทำให้ในตัวหูฟังมีพื้นที่เยอะขึ้น สั่นสะเทือนได้ถึง 89% จึงได้เสียงที่กว้าง เบสทุ้มและลึก ให้เสียงมีมิติในการใช้ฟังเพลง หรือขณะที่ดูหนังจะรูสึกว่าเสียงมีความสมจริงเหมือนเราไปยืนอยู่ในฉาก

นอกจาก ไดอะแฟรมขนาดใหญ่แล้ว ยังเคลื่อบด้วย Ultra-Rigid Titanium Coatings เพิ่มความแข็งแรงทนทานและยังช่วยเรื่องการเก็บรายละเอียดของเพลงที่ฟัง ให้เสียงครบทุกช่วง

ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (ANC)

ดื่มด่ำกับเสียงเพลงที่ฟังแบบไม่ต้องการได้ยินเสียงภายนอกได้เพียงเปิดโหมด ANC ก็ไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง เหมาะกับเวลาที่ต้องการสมาธิ หรืออย่างอยู่เงียบๆ ฟังเพลงคนเดียว

นอกจากนี้ ยังมีโหมดฟังเสียงภายนอก โดยการแตะค้างที่ก้านหูฟังไว้เพื่อสลับโหมด เหมาะกับการใช้ขณะที่อยู่กับคนอื่นหรือเวลาเดินทาง แม้ว่าจะฟังเพลงแต่ก็ยังได้ยินเสียงรอบข้าง เสียงประกาศ แตรรถ เป็นต้น

ความหน่วงต่ำ Latency เพียง 94 ms

สำหรับคนที่ใช้หูฟังเพื่อเล่นเกมต้องมองคุณสมบัติไว้เป็นอันดับต้นๆ เรื่องของค่าความหน่วง โดยที่ OPPO Enco Air2 Pro มีความหน่วงต่ำ Latency เพียง 94 ms ทำให้เวลาเล่นเกมเสียงไม่ดีเลย์ ตอบสนองตามที่ต้องการ ไม่ทำให้พลาดเสียงจากฝั่งตรงข้าง เท่านี้เก็ใช้เล่นเกมสบาย

กันฝุ่น และน้ำระดับ IP54

สำหรับสายออกกำลังกายก็ยังใช้งาน OPPO Enco Air2 Pro เพราะมีมาตราฐานกันฝุ่น – กันน้ำที่ระดับ IP54 คือโดนเหงื่อ น้ำกระเซ็น ได้ แต่ไม่รองรับการใส่โดนน้ำโดยตรง หรือใส่ไปว่ายน้ำไม่ได้ จะทำให้หูฟังเสียหาย

ใช้งานเพลินต่อเนื่อง 28 ชั่วโมง

สำหรับการฟังเพลงต่อเนื่องแบบไม่ชาร์จเลยตะอยู่ได้ 7 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่านานพอสมควร ใช้เดินทางได้สบาย หรือหากใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 28 ชม. เพลิดเพลินได้ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม

นอกจากนี้ หากมีเวลาชาร์จไม่นาน หรือแค่ 10 นาที ก็สามารถใช้งาน OPPO Enco Air2 Pro เพื่อฟังเพลงได้ต่อ 2 ชม. เลยทีเดียว

สรุปหลังรีวิว

OPPO Enco Air2 Pro เป็นหูฟังบลูทูธที่ใส่สบาย ด้วยขนาดเล็ก ทำให้น้ำหนักเบา สามารถใส่ต้อเนื่องได้ไม่เจ็บหู มียางรองอีกชั้นด้านในและช่วยให้ใส่กระชับไม่หล่นง่าย ส่วนเรื่องเสียงอาจจะต้องทดลองกาอน เพราะแต่ละคนชอบเสียงไม่เหมือนกัน แต่สำหรับการใช้งานในรีวิวครั้งนี้ ส่วนตัวชอบเรื่องเสียงที่ครบมิติ และการตัดเสียงรบกวนภายนอกทำได้ดี คุยสายโทรศัพท์ชัดด้วยไมโครโฟน 2 ตัว และมี AI อัจฉริยะตัดเสียงรบกวนขณะโทร ทำให้ทั้งเราและปลายสายได้ยินเสียงชัด ไม่มีเสียงรบกวน

OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Canceling Earbuds มีตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีเทา วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 2,499 บาท

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ OPPO Pad Air และ OPPO Enco Air2 Pro สามารถกหาซื้อ หรือทดลองเล่นได้ที่ OPPO Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

แสดงความคิดเห็น

Exit mobile version