HUAWEI Mate 30 Pro เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่จับครั้งแรกรู้สึกได้เลยถึงการออกแบบที่สวยงาม พร้อมสเปกจัดเต็ม โดดเด่นในเรื่องของหน่วยประมวลผลแรง Kirin 990 หน้าจอโค้งทำมุม 88 องศา มาพร้อมกล้องดีไซน์ HUAWEI SuperSensing Cine Camera 4 เลนส์ และมอบประสบการณ์ใหมจาก Huawei Mobile Services (HMS)แต่สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือการไม่มี Google Service ทำให้การใช้งานต่างๆ ยังไม่เต็มที่เท่าที่ควรจะเป็น
HUAWEI Mate 30 Pro สมกับเป็นรุ่นท๊อป การออกแบบที่ปราณีต ด้วยหน้าจอที่มีขอบโค้งทำมุม 88 องศา ทำให้จับกระชับมือ และด้านหลังที่เป็นวัสดุคุณภาพจับสบายมือ มีหน้าจอแสดงผลบคมชัดเรียกว่า HUAWEI Horizon Display แบบ Flex OLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1176 พิกเซล อัตราส่วน 18.5:9 รองรับการแสดงผล DCI-P3 และ HDR 10 ให้ภาพสมจริง โดยที่หน้าจอยังรองรับการใช้งานปากกา M-Pen ขีดเขียนสมจริงด้วยแรงกดได้ 4,096 ระดับ
ด้านบนหน้าจอยังมีรอยบากทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่เป็นกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล และมีเซ็นเซอร์ 3D Depth Sensing Camera ช่วยให้การถ่ายรูปบุคคลหน้าชัด-หลังเบลอได้สวยงาม นอกจากนี้ ยังรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ (HUAWEI 3D Face Unlock) และมี AI gesture control ควบคุมการทำงานบนหน้าด้วยท่าทางแบบที่ไม่ต้องสัมผัสจอ
หน้าจอด้านล่างไม่มีปุ่มใดๆ แต่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ใช้งานง่ายเพียงสัมผัส
ส่วนปุ่ม Power ถูกวางไว้ที่ด้านขวาของเครื่อง ซึ่งตัวเครื่องด้านซ้ายไม่มีปุ่มใดๆ แล้วถามว่าปุ่มปรับเสียงอยู่ไหน จะอยู่ในรูปแบบ Innovative Side-Touch Interaction เพียงเคาะ 2 ครั้งติดกันบนหน้า แถบปรับระดับเสียงจะแสดงขึ้นมา ไม่ว่าจะถนัดซ้าย หรือขวาก็ใช้งานได้ทั้ง 2 ด้าน
ส่วนด้านบนตัวเครื่องจะมีเพียงอินฟราเรด และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
HUAWEI Mate 30 Pro ไม่มีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. แล้ว โดยด้านล่างของเครื่องจะมีลำโพงเสียง พอร์ตเชื่อมต่อ UAB Type-C, ไมโฟน และช่องใส่ซิมการ์ด
ส่วนของตัวเครื่องด้านหลังมีความโดดเด่นไม่เบา มีการออกแบบกล้อง 4 ตัวอยู่ในวงกลมที่เรียกว่า Futuristic Halo Ring Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์กล้องใหญ่ ด้านในมีกล้อง SuperSensing Cine Camera ประกอบไปด้วย
- กล้อง SuperSensing ความละเอียด 40MP (27มม.) f/1.6 (OIS)
- กล้อง Cine ความละเอียด 40MP (18มม.) f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (27มม.) f/2.4 (OIS)
- 3D Depth Sensing
หน่วยความจำภายใน/ระบบปฎิบัติการ
HUAWEI Mate 30 Pro มาพร้อมระบบปฎิบัติการ EMUI 10 based on Android 10 ปรับเปลี่ยนหน้าตา UI ทันสมัยขึ้น ใช้งานลื่นสุดๆ ตอบสนองนิ้วรวดเร็ว ไม่ว่าจะเปิดเข้า หรือออกแอพฯ รวมถึงมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ อาทิ
Always on Display ที่ไม่ใช่แสดงผลธรรมดา สามารถปรับโทนสีได้ รวมถึงตัวอักษรที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีรูปแบบน่าใช้งานมากขึ้น
Dark Mode หรือโหมดมืด ช่วยให้การทำงานบนสมาร์ทโฟนประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ ยังใช้งานสบายตาได้ยิ่งขึ้น
HUAWEI Mate 30 Pro ในวันที่ไร้ Google
อย่างที่ทราบกันว่า HUAWEI Mate 30 Pro เป็นรุ่นที่ไม่รองรับ Google Sevice ในขณะนี้ ทำให้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, YouTube, Google Map ไม่รองรับการใช้งาน แต่ทั้งนี้มีวิธีนำมาลงได้ แต่ในรีวิวนี้ไม่ได้พูดถึงหรือสอนการลง เพราะจริงๆ คือถ้าซื้อรุ่นนี้มาก็จะได้เครื่องที่เป็นแบบนี้ เมื่อลงข้างนอกอาจจะโดนบล็อคได้
ทางหัวเหว่ยได้พัฒนา Huawei Mobile Services หรือ HMS ขึ้นมาใช้งานแทน โดยเป็นแหล่ง ศูนย์รวมของแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ จากหัวเหว่ย ที่จะถูกใส่มาในสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น
- HUAWEI AppGallery
- HUAWEI Browser
- HUAWEI Mobile Cloud
- HUAWEI Themes
- HUAWEI Music
- HUAWEI Video
- HUAWEI Reader
- HUAWEI Assistant และอื่นๆ
หัวใจหลักของการโหลดแอพพลิเคชั่นคือ HUAWEI AppGallery ซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมแอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนของ HUAWEI ถ้าหากถามว่าความครบครันเหมือนตอนที่ใช้ Google หรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าไม่ แต่ก็มีแอพฯ ที่รองรับการใช้งานในไทยเยอะ และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ถ้าถามว่าใช้งาน Facebook, LINE ได้ไหม ในตัว AppGallery ไม่มีให้ดาวน์โหลด แต่สามารถติดตั้งไฟล์ APK ได้จากการดาวน์โหลดข้างนอกมาติดตั้ง
สำหรับแอพฯ ที่รองรับการใช้งานไทยก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบ่งออกเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน ค้นหาง่าย เช่น เกม, การเงิน, การเดินทางและการนำทาง เป็นต้น
การเล่นเกมที่เคยล็อกอินไว้กับบัญชี Google จะไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ เหมือนเป็นการเริ่มเล่นใหม่ นอกจากนี้ บางแอพฯ ที่ต้องล็อกอินผ่าน Gmail หรือถ้าไม่ได้โหลด Facebook ก็ใช้งานไม่ได้
จุดเด่น HUAWEI Mate 30 Pro
ดีไซน์สมเป็นตัวท๊อป จอโค้ง 88 องศา
เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบได้อย่างสวยงามสมกับเป็นตัวท๊อป สัมผัสได้ถึงความปราณีตในการออกแบบ ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ดูดีไม่ใช่น้อย ทั้งยัง มีหน้าจอทำมุมโค้งถึง 88 องศา ไปจนถึงฝาหลัง เวลาถือจับกระชับมากขึ้น โดยที่ไม่ส่งผลต้อการสัมผัสหรือทำให้จอติด ซึ่งเวลาใช้งานจะเห็นว่ารูปหรือตัวอักษรครอบคุมไปถึงขอบจอ
หน่วยประมวลผล Kirin 990
HUAWEI Mate 30 Pro ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Kirin 990 (7 nm+) ความเร็ว 2.86 GHz ทำงานคู่กับ RAM 8GB, ROM 256GB สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่าลื่นมาก ตอบสนองเร็ว รวมถึงการเล่นเกมก็เรียกได้ว่าเร็ว แรง ลื่นไหลไม่มีสะดุด
Air Gestures
เป็นอีกฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ เป็นการใช้ท่าทางเพื่อควบคุมการสั่งงานบนหน้าจอโดยที่ไม่ต้องสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนขึ้น-ลง หรือแคปเจอร์หน้าจอ เพียงใช้ฝ่ามือกางบนหน้าจอ ซึ่งจะทำงานด้วยเซ็นเซอร์ปลดล็อกใบหน้าในการตรวจจับฝ่ามือ
หากต้องการเลื่อนลงเพียงปัดมือลงด้านล่าง หรือปัดขึ้นด้านบนเมื่อต้องการเลื่อนขึ้น นอกจากนี้ แคปเจอร์หน้าจอง่ายๆ เพียงกางฝามือและกำมือ
ระบบปลดล็อกตัวเครื่อง
สำหรับการปลดล็อกเครื่องเรียกว่าใส่มาให้ครบ ทั้งรหัส สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และปลดล็อกด้วยใบหน้า โดยที่การสแกนนิ้วใต้หน้าจอทำได้รวดเร็วเพียงสัมผัสเบาๆ สามารถปปลดล็อกได้แม้นิ้วจะมันหรือมีเหงื่อออกเล็กน้อย รองรับการใช้งานทั้งหมด 5 ลายนิ้วมือ และการใช้งานสแกนหน้าก็เร็วไม่แพ้กัน หากตั้งไว้ถ้ามีแจ้งเตือนเข้ามา เมื่อกดปลุกหน้าจอแทบจะดูไม่ทัน ปลดล็อกเข้าสู่หน้าจอได้ทันที
แบตอึด 4500 mAh ชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge
สำหรับการใช้งานทั่วไปบนแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ใช้งานได้สบายทั้งวัน หรือหากแบตฯ หมดไม่ต้องรอนาน รองรับการชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 40W (บนอุปกรณ์ HUAWEI) ชาร์จ 0 – 70% ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ เจ้าหนึ่ง ทั้งยังรองรับชาร์จเร็วแบบไร้สาย Wireless HUAWEI SuperCharge 27W และรองรับ HUAWEIReverse Charge แค่นำเครื่องมาแตะกันก็ชาร์จได้ทันที
สำหรับเรื่องการถ่ายรูปนั้น HUAWEI Mate 30 Pro ยังได้รับความร่วมมือจาก Leica ทำให้คะแนนกล้องทำได้ดี การันตีจาก DXO Mark ได้คะแนนถึง 121 คะแนน รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS โดยที่ดึง ISO ได้สูงถึง 51200 ทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายสโลว์โมชั่นที่ระดับ 7680 FPS และในส่วนของภาพนิ่งก็มีทั้งมุมปกติความละเอียดสูง รับแสงได้ดีขึ้น รองรับการถ่ายรูปมุมกว้าง นอกจากนี้ กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ยังใช้งานซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า และ Hybrid Zoom ได้ถึง 5 เท่า ซึ่งได้ภาพที่คมไม่สั่นไหวด้วยระบบลดการสั่นไหว ทั้งแบบ Optical Image Stabilization (OIS) และ AI Stabilization (AIS)
กล้องหลัก SuperSensing ความละเอียด 40MP
กล้องถ่ายรูปหลักคราวนี้เรียกว่ากล้องหลัก Cine ที่ให้ความละเอียดมาถึง 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 ทำให้การถ่ายภาพที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วของ HUAWEI ทำได้ดีมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมี Master AI เข้ามาช่วยกำหนดฉากต่างๆ เพื่อการปรับแต่งให้เหมาะสม เรียกว่าถ่ายอะไรก็ออกมาสวย
กล้อง Cine Camera ความละเอียด 40 MP
กล้อง Cine Camera เป็นเลนส์มุมกว้างที่ให้มาเท่าเลนส์หลัก ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ได้มุมมองที่ประมาณ 110 องศา ถือว่าไม่กว้างมากเกินไป ได้มุมเกือบเหมือนเลนส์หลัก ซึ่งถ้าใครที่คาดหวังให้ได้รูปมุมกว้างพิเศษอาจจะไม่ใช่ทาง แต่ก็ได้เก็บรายละเอียดจากมุมปกติได้เยอะขึ้น
กล้อง Telephoto
กล้อง Telephoto มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน optical zoom 3 เท่า Hybrid Zoom 5 เท่า และ Digital Zoom สูงสุด 30 เท่า ซึ่งไม่เน้นการซูมเท่ากับซีรี่ย์ P ซึ่งเป็นระยะที่ใช้งานได้ ภาพยังคงมีคมชัดอยู่
กล้องตรวจจับความลึก 3D
กล้องวัดระยะชัดลึก-ชัดตื้น เข้าช่วยเรื่องการถ่ายเอฟเฟกต์โบเก้ได้สวย หน้าชัดหลังละลายได้เนียนมากยิ่งขึ้น
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์ 3D TOF camera สามารถ่ายหน้าชัด หลังเบลอได้ โดยที่กล้องหน้า HUAWEI ยังออกสีซี๊ดๆ อยู่เหมือนกันทุกรุ่น แต่รุ่นนี้ความละเอียดให้มาเยอะขึ้น เอาเป็นว่าโทนสีแล้วแต่มุมมองที่ชอบ
วิดีโอสโลว์โมชั่น
เรื่องของวิดีโอบน HUAWEI Mate 30 Pro ถือว่าโดดเด่นพอสมควร รองรับความละเอียด 4K 60 FPS โดยที่ดึง ISO ได้สูงถึง 51200 และยังมีวิดีโอ Slow Motion ระดับ 7680 FPS หยุดภาพเคลื่อนไหวให้ช้ามากกว่าที่ตามองเห็นกันเลยทีเดียว
ข้อดี
- หน้าจอใหญ่ โค้ง 88 องศา
- หน่วยประมวลผลตัวท๊อป Kirin 990
- กลังหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 40MP ถึง 2 ตัว
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับ Google Sevice
สเปคตัวเครื่อง Huawei Mate 30 Pro
• หน้าจอแสดงผลวัสดุ Corning Gorilla Glass 6 แบบ HUAWEI Horizon Display ขอบข้างโค้ง 88 องศา เทคโนโลยี Flex OLED กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1176 พิกเซล
• อัตราส่วน 19.5:9 (406 ppi), รองรับ HDR 10, DCI-P3
• CPU HiSilicon Kirin 990 (7 nm+) ความเร็ว 2.86 GHz
• GPU Mali-G76 MP16
• RAM 8GB, ROM 256GB, UFS3.0
• สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Face ID
• กล้องหลัง
– กล้อง Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40MP (18มม.) f/1.8
– กล้อง SuperSensing Wide ความละเอียด 40MP (27มม.) f/1.6 (OIS)
– กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (27มม.) f/2.4 (OIS)3x optical zoom
– 3D Depth Sensing
• กล้องหน้า
– กล้อง Wide 32MP
– 3D TOF camera
• รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Standby (Nano SIM + Nano SIM หรือ NM (Nano Memory) สูงสุด 256GB
• ระบบปฎิบัติการ EMUI 10 based on Android 10
• แบตเตอรี่ 4500 mAh ชาร์จเร็ว SuperCharge 40W, รองรับชาร์จไร้สาย 27W
• กันน้ำ-กันฝุ่น IP68
• ขนาด 158.1 x 73.1 x 8.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 198 กรัม
• สี : Black, Space Silver
• ราคา 28,990 บาท
