OPPO Reno12 F 5G หนึ่งในสมาชิกซีรีส์ Reno12 5G ที่ออกมาตอบโจทย์สำหรับใครที่กำลังมองหา AI Phone ที่ให้เป็นเจ้าของง่ายขึ้นในราคาหมื่นต้น มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่มีความเพรียวบาง หรูหราแบบ Cosmos Ring คล้ายกรอบนาฬิกา และยังคงโดดเด่นด้วยการถ่ายรูป AI Portrait ที่อัดแน่นฟีเจอร์ ยางลบ AI 2.0 เพื่อสร้างภาพถ่ายได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึง AI LinkBoost และ BeaconLink เพื่อการเชื่อมต่อที่เสถียร และยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกมากมายที่จะมาบอกเล่าในรีวิวเต็มนี้
ดีไซน์สวยสุดเทรนดี้
OPPO Reno12 F 5G มาพร้อมดีไซน์เพรียวบางและหรูหรา ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของนาฬิกาข้อมือสุดคลาสสิก เรียกการออกแบบว่า Cosmos Ring และมาพร้อม Halo Light ที่เลนส์กล้องด้านหลัง เพิ่มความความโฉบเฉี่ยวให้กับสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ได้อย่างมีระดับ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังบางเพียง 7.69 มม. และน้ำหนักเพียง 187 กรัม ทำให้จับถือสบายไม่รู้สึกหนัก
มาพร้อม 2 สี ให้เลือกใช้งานในแต่ละสไตล์ โดยสีที่เราได้มารีวิวจะเป็น สีส้ม Amber Orange เป็นการออกแบบจากแรงบันดาลใจของสีแห่งอย่าง Peach Fuzz เข้ากับแฟชั่นและเทคโนโลยี และเคลือบด้วยผิวที่มีลายเส้นเหมือนไฟที่ลุกโชน ทำให้ตัวเครื่องดูมีพลัง และน่าหลงใหล และอีกสีเป็น สีเขียว Olive Green เป็นพื้นผิวคอลัมน์แสงโค้งบนฝาหลัง มีความเข้มเป็นเอกลักษณ์
ส่วนรอบตัวเครื่องของ OPPO Reno12 F 5G ก็ออกแบบตำแหน่งของพอร์ตต่างๆ ได้อย่างลงตัวและวางไว้บนกรอบเหลี่ยมที่มีความโค้งมนด้านข้าง ทำให้จับแล้วไม่คมบาดมือ โดยที่ตัวเครื่องด้านบนจะมีลำโพงเสียงและไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนเท่านั้น
ด้านล่างตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด พร้อมทั้งไมโครโฟน พอร์ตชาร์จแบบ USB Type- C และลำโพงเสียงที่ออกแบบเป็นช่องเรียงกัน เรีกยกว่ามีความลงตัวและสวยงาม
ส่วนตัวเครื่องด้านซ้ายไม่มีพอร์ตใดๆ นอกจากด้านขวาที่มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง
ด้านหลังตัวเครื่องบริเวณเลนส์กล้องเป็นการออกแบบด้วยวงกลมขนาดใหญ่ หรือดีไซน์คล้ายกับหน้าปัดนาฬิกา โดยวางเลนส์กล้องไว้ด้านในทั้งหมด มาพร้อม Halo Light ที่เป็นดวงไฟล้อมรอบ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Reno โดยจะแสดงเมื่อชาร์จแบตเตอรี่ การแจ้งเตือน เล่นเกม หรือแม้แต่ซิงค์กับเพลงเพื่อแสดงจังหวะความหนักหน่วงเมื่อเปิดเพลง
หน้าจอสว่าง ตอบสนองลื่น 120Hz
OPPO Reno12 F 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลคมชัดกว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080p ใช้งานลื่นด้วยรีเฟรชเรท 120Hz Smart Adaptive และยังให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,100 nits หรือใช้งานทั่วไปสว่างสูงสุด 1,200 nits สามารถใช้งานได้ทุกสภาพแสง และยังคงเห็นคอนเทนต์หรือตัวหนังสือคมชัด นอกจากนี้ ยังมี AI Brightness เข้ามาช่วยเรื่องบการปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในขณะใช้งาน ไม่ว่าจะอยู่กลางแจ้งหรือในที่แสงน้อยก็ยังเห้นหน้าจอได้ชัดเจน
หน้าจอแสดงผลยังมาพร้อมฟีเจอร์ปกป้องดวงตาอัจฉริยะที่ใส่มาทั้งบนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ช่วยป้องกันแสงสีน้ำเงินที่จะถูกปล่อยออกมา และยังช่วยลดปริมาณแสงสีน้ำเงินที่เข้าสู่ดวงตา โดยที่เส้นโค้งอุณหภูมิหน้าจอจะถูกปรับตามเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ทำให้การใช้งานบนจอเป็นเวลานานมีความสบายตา และนอนได้สบายในตอนกลางคืน
Splash Touch มือเปียกก็สัมผัสได้
OPPO Reno12 F 5G ยังมีฟีเจอร์ Splash Touch ที่ช่วยให้การสัมผัสหรือแตะบนหน้าขณะที่มือมัน มีเหงื่อ หรือหน้าจอเปียกก็ทำได้อย่างแม่นยำ และยังมีมาตราฐานกันน้ำและฝุ่น IP64 ปลอดภัยใช้งานได้ทุกสถานการณ์
ตัวเครื่องแข็งแกร่งรอบด้าน
OPPO Reno12 F 5G เรียกว่าเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นที่มีความแข็งแรงทนทานรอบด้าน ด้วยการออกแบบหน้าจอกระจกขั้นสูง และมีกรอบโลหะผสมที่ทนทาน ด้านในมีการออกแบบด้วยฟองน้ำไบโอนิคกันกระแทก ช่วยปกป้องเครื่องจากการกระแทก เช่น หล่นออกจากกระเป๋ากางเกง หรือตกในอ่างล้างมือ ก็มั่นใจได้ว่าเครื่องจะไม่เกิดความเสียหาย
ใช้งานลื่นไหล ยาวนานกว่า 50 เดือน
OPPO Reno12 F 5G ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการขับเคลื่อนของชิปเซ็ต MediaTek Dimesnity 6300 เทคโนโลยี 6nm มีประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้น 10% และเพิ่มความสามารถด้านกราฟิก (GPU) ได้เพิ่มขึ้น 13% รวมถึงการประหยัดพลังงานทำได้มากขึ้น 10% ทำให้การใช้งานทั่วไประหว่างวัน หรือเล่นเกมทำได้ลื่นไหลยาวนาน
ทั้งยังได้ RAM สูงสุด 12GB และหน่วยความจำภายใน ROM 256GB มีเทคโนโลยี RAM Expansion จากการใช้พื้นที่ว่าง ROM เพื่อมาขยายเป็น RAM ชั่วคราว ทำให้การใช้งานไม่ว่าจะสลับแอปพลิเคชั่น หรือเล่นเกมที่ก็มีความลื่นไม่สะดุด อย่าง ROV สามารถเปิดเฟรมเรทได้ที่สูงสุดและเกมยังทำงานสมูท ตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวและการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
ตัวเครื่อง OPPO Reno12 F 5G ยังได้รับการทดสอบ 50-Month Fluency Protection ของ OPPO มาแล้วว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า 4 ปี โดยที่เครื่องยังทำงานปกติ ลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ
เชื่อมต่อราบรื่นด้วย AI Communication
เรื่องของการเชื่อมต่อหรือสัญญาณที่ขาดหายจะไม่เกิดขึ้นกับ OPPO Reno12 F 5G เพราะมีเสาอากาศเซอร์ราวด์ 360 องศา มาพร้อมอัลกอริธึม AI ที่ช่วยสลับเสาอากาศเพื่อหาสัญญาณที่ดีที่สุด เพื่่อให้ใช้งานได้ราบลื่น นอกจากนี้ ยังมี AI LinkBoost ที่เป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสื่อสารที่เป็นกรรมสิทธิ์ของทาง OPPO ที่เข้ามาช่วยเพิ่มการรับสัญญาณและการเลือกเครือข่ายโดยใช้โมเดล AI ระดับระบบ สามารถรับรู้สภาพเครือข่ายและสลับไปสัญญาญที่ดีที่สุด ซึ่งจะมีประโยชน์ในการใช้งานเชื่อมต่อ เช่น
- ขณะที่สัญญาณอ่อนหรือติดขัด AI LinkBoost สามารถเพิ่มความเร็วในการแชร์วิดีโอได้ 12% และลดเวลาบัฟเฟอร์วิดีโอลง 17% ในขณะที่กำลังใช้งานสตรีมหรือวิดีโอคอลอยู่ เพื่อยังให้ทำงานได้ต่อเนื่อง
- AI LinkBoost ยังช่วยจับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วเมื่อออกจากลิฟท์ หรือพื้นที่อับสัญญาณ เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ราบรื่น โดยระบุว่าสัญญาณจะกลับมาเต็มเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 36%
- AI LinkBoost สามาช่วยปรับปรุงสัญญาณในขณะที่ดูแผนที่ด้วย Google Maps ได้อย่างแม่นยำ ไม่ทำให้หลงทาง
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี BeaconLink ที่ทำมาใช้งานเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือในพื้นที่ไม่สัญญาณเลย โดยที่ BeaconLink สามารถเพิ่มวามสามารถในการใช้พลังงานฮาร์ตแวร์ของบลูทูธในระยะทางกลางแจ้งได้สูงสุด 200 เมตร ทำให้สามารถโทนด้วยเสียงผ่านบลูทูธ ทำให้ติดต่อเพื่อนที่ไปด้วยกันได้หากมีการพลัดหลง
ถ่ายภาพคมชัดด้วยกล้องหลัก 50MP
สมาร์ตโฟน Reno Series ยังมีความโดดเด่นเด่นในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตอย่างต่อเนื่อง และ OPPO Reno12 F 5G ก็ยังมาพร้อมกล้อง 3 เลนส์ คมชัด รองรับการถ่ายพอร์ตเทรตที่มีความคมชัดสูงพิเศษ รวมถึงโหมดอื่นๆ และรอบนี้มาพร้อมฟีเจอร์ AI ในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด โดยมาพร้อมกล้องหลัง ได้แก่
- กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8
- เลนส์มาโคร 2MP, รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Ultra-Wide-Angle 8MP, รูรับแสง f/2.2
โหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจ
กล้องหลักคมชัด 50MP
กล้องถ่ายภาพหลักให้มาที่ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8 สามารถเก็บภาพถ่ายได้ที่ความละเอียดสูง ภาพที่ได้มีสีสันสวยงาม คมชัด และยังรองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยรูรับแสงที่กว้าง f/1.8 สามารถเก็บสีและแสงได้เหมือนที่ตามองเห็น
ภาพถ่าย AI Portrait Expert คมชัดพิเศษ
OPPO Reno12 F 5G มีกล้องถ่ายภาพหลักคมชัด 50MP และมีเลนส์มาโคร 2MP เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่มีความคมชัดสูง ยังช่วยเรื่องการตัดขอบของตัวบุคคลและฉากหลัง เพื่อทำให้ได้ภาพถ่ายหน้าชัด – หลังเบลอ เพิ่มเอฟเฟกต์โบเก้ให้ภาพได้อย่างสวยงามและมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยฟิลเตอร์สีต่างๆ ที่มีมาให้เครื่อง และใช้งานร่วมกับการปรับแต่งหน้าสวยได้ ทำให้ภาพพอร์ตเทรตที่ถ่ายออกมาตัดขอบได้คมชัด ทำให้คนโดดเด่น ให้สีผิวเป็นธรรมชาติ
กล้อง Ultra-Wide-Angle 8MP มุมกว้าง 112 องศา ก็ให้มาในรุ่นนี้ เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือกลุ่มคนที่ต้องการเก็บให้ครบในเฟรมเดียวโดยที่ไม่ต้องเดินถอยออกมา เรียกว่ามีไว้ใช้ไม่เสียหาย แม้ว่าความละเอียดจะลดลงแต่ก็ยังได้ภาพที่สวยงาม
กล้องเซลฟี่ชัด 32MP
กล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพได้ถึง 2 ระยะ (0.8x และ 1x) สามารถเก็บได้ทั้งแบบกว้างหรือโฟกัสหน้าชัด ทั้งยังมี AI Portrait Retouching ให้ปรับแต่งใบหน้าได้อัตโนมัติ รวมถึงการปรับเฉพาะจุด ไม่ว่าจะเป็นแก้ม จมูก คาง ขนาดตา และอื่นๆ ได้ในแบบที่ต้องการ แต่ยังให้โทนสีที่มีความเป็นธรรมชาติ โดยฟีเจอร์การจดจำการมองเห็นในภาพและแสงดดยรอบ ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่กี่คนก็ได้สีผิวสมจริง และสวยงาม
ถ่ายคนอย่างโปร ด้วยความสามารถ AI Portrait
นอกจากกล้องถ่ายภาพที่ให้มาคมชัดพิเศษแล้ว สำหรับโหมดพอร์ตเทรตที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นของซีรีย์ รอบนี้ทาง OPPO ได้เพิ่มความสามารถในการแต่งภาพด้วย AI Portrait ที่เข้ามาช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมาสมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
ยางลบ AI 2.0
ฟีเจอร์ที่ช่วยลบสิ่งที่เราไม่ต้องการในภาพได้เนียนยิ่งขึ้น สามารถลบได้ทั้งหมดในครั้งเดียว และยังเพิ่มส่วนที่ขาดหายไปให้เป็นภาพถ่ายที่ดีที่สุดได้อีกด้วย โดยสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ แก้ไข จากนั้นเลือก ยางลบ AI หรือ AI Eraser ซึ่งเลือกเครื่องมือลบได้ 3 แบบ ได้แก่ วงกลมวัตถุที่ต้องการลบ ทาสีทับวัสถุที่ต้องการลบ และสุดท้ายเป็นเลือกลบบุคคล
การใช้ ยางลบ AI 2.0 เรียกว่าสามารถลบสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่สามารถลบทั้งหมดในภาพได้ในครั้งเดียว หรือจะลบถังขยะ ต้นไม้ ฝาท่อ และยังมีความสามารถในการจดจำฉากและภาพในชีวิตประจำวันได้แม่นยำถึง 98% เพื่อช่วยให้ลบสิ่งนั้น หรือเติมให้เพิ่มก็ยังมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ได้ภาพความทรงจำที่ดีที่สุด
AI Studio
เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพธรรมดาให้มีสีสันด้วยฟีเจอร์ AI Studio ด้วยเทคโนโลยี GenAI ที่สามารถสร้างภาพใหม่ในแบบบุคคลดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครให้กับคุณโดยเฉพาะ เรียกว่าเปลี่ยนความจำเจ เพิ่มความน่าสนใจและสามารถแชร์ให้เพื่อนๆ มาชมได้ที่ AI Studio ของคุณได้อีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์นี้จะมีแอปพลิเคชั่นแยกมาให้ในเครื่อง สามารถล็อคอินและสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้ในแบบที่คุณต้องการและแชร์ไปให้คนอื่นชมได้เช่นกัน
AI Smart Image Matting 2.0
ความสามารถในการตัดวัตถุเพื่อให้ได้ภาพในมุมมองแปลกใหม่ได้อย่างแม่นยำ สามารถแยกวัตถุที่มีความซับซ้อนออกจากกันได้ และนำภาพที่ได้มาสร้างเป็นมีมหรือสติ๊กเกอร์ไว้ใช้งาน
ประสิทธิภาพการทำงานด้วย GenAI
นอกจานี้ OPPO Reno12 F 5G ยังรองรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย GenAI ในรูปแบบต่างๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็น
- AI Recording Summary สรุปข้อมูลที่สำคัญจากการบันทึกเสียงออกไปยัง Notes เพื่อให้เข้าใจง่าย และยังรองรับการแปลจากเสียงเป็นข้อความได้ในภาษาจีน อังกฤษ และฮินดี
- AI Toolbox ฟีเจอร์ที่สร้างขึ้นบน Google Gemini และ Microsoft Azure ที่จะแสดงในแถบแนะนะฟังก์ชั่น AI เช่น AI Writer ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการโพสต์ข้อความ หรือ AI Speak ให้ AI อ่านออกเสียงคอนเทนต์ที่เรากำลังสนใจให้ฟัง
แบตฯ ใหญ่ รองรับชาร์จเร็ว
OPPO Reno12 F 5G มีแบตฯ ขนาดใหญ่ 5000mAh ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยไม่ต้องเสียเวลาชาร์จหรือพกที่ชาร์จไปด้วย และยังมีโครงสร้างที่ถูกปรับแต่งมาให้แบตฯ ใช้งานได้งานได้ยาวนานกว่า 4 ปี ในสถานการณ์ปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตฯ เสื่อมเร็ว และยังเป็นรุ่นหมื่นต้น แต่ให้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC Flash Charge มาใช้งาน เพียงชาร์จ 5 นาที ก็ได้แบตฯ มาใช้งาน 14% หรือชาร์จเต็ม 100% ได้ภายใน 71 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จนานทั้งวันทั้งคืน เป็นอีกหนึ่งความสะดวกที่คู่กับแบตฯ ขนาดใหญ่ที่ให้มา
สรุปท้ายรีวิว
OPPO Reno12 F 5G เป็นอีกรุ่นที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการ AI Phone ราคาสบายกระเป๋าไว้ใช้งาน ทั้งยังได้ตัวเครื่องที่ออกแบบสวยงาม พรีเมียมและตอบโจทย์การใช้งานครบทุกด้าน ทั้งเรื่องจอใหญ่ สีคมชัดสวยงาม กล้องถ่ายภาพสวย 50MP รวมถึงเรื่องแบตฯ ที่ทีมงานลองใช้งานจริงใน 1 วันยังเหลือๆ ใช้งานได้ต่อเนื่องอีกวัน กับราคาหมื่นต้นถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- OPPO Reno12 F 5G
- สายชาร์จ USB Type-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 45W SUPERVOOC Flash Charge
- อุปกรณ์ถอดซิม
- เคสซิลิโคน
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
สเปก OPPO Reno12 F 5G
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080p
- เทคโนโลยีหน้าจอ รีเฟรชเรท 60/120Hz, ความสว่างสูงสุด 2100nits
- ชิป MediaTek Dimensity 6300 5G
- RAM 12GB + ROM256GB รองรับ MicroSD สูงสุด 2TB
- กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8
- เลนส์มาโคร 2MP, รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Ultra-Wide-Angle 8MP, รูรับแสง f/2.2
- กล้องหน้า 32MP, f/2.4
- ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วใต้หน้าจอ, สแกนใบหน้า, รหัสผ่าน
- รองรับการเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 5GHz, Bluetooth 5.3, NFC และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.0.1 based on Android 14
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC Flash Charge
- ขนาดตัวเครื่อง 163.05 × 75.75 × 7.76 มม. (สีส้ม Amber Orange)
- ขนาดตัวเครื่อง 163.05 × 75.75 × 7.69 มม. (สีเขียว Olive Green)
- น้ำหนัก 187 กรัม
- กันน้ำ – กันฝุ่น IP64
- สี : สีส้ม Amber Orange, สีเขียว Olive Green
ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Reno12 F 5G วางจำหน่ายในรุ่นความจุ RAM 12GB + ROM 256GB มาพร้อมตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีส้ม Amber Orange และสีเขียว Olive Green วางจำหน่ายในราคา 11,999 บาท
