vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟน vivo V40 Series 5G เอาใจคนชอบถ่ายภาพ กับสโลแกน “พอร์ตเทรตเปิด เกิดทุกคน” มาพร้อมกันทั้งหมด 2 รุ่น ทั้ง vivo V40 5G และ vivo V40 Pro 5G ตอบโจทย์คนที่ชอบถ่ายพอร์ตเทรต มีลูกเล่น ZEISS Portrait Style ปรับพื้นหลังด้วยโบเก้แบบต่างๆ ได้ถึง 7 แบบ และมี Aura Light Portrait อัปเกรดใหม่ให้แสงมีความสว่างมากขึ้น ซึ่งรุ่นที่ทางทีมงานได้มารีวิวจะเป็น vivo V40 5G แต่บอกเลยว่าครบจบได้แบบมืออาชีพ
สำหรับสีของตัวเครื่อง vivo V40 5G จะมีให้เลือกด้วยกันถึง 3 สีในสไตล์ ซึ่งแต่ละสีก็มีความโดดเด่นในมุมของตัวเอง บ่งบอกตัวตนของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น
- สี Sunglow Peach (ซันโกลว์ พีช) ตัวเครื่องสีพีชคล้ายกับแสงแรกของดวงอาทิตย์ในยามเช้า ให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น เป็นสัญญาลักษณ์ของความหวังและการเริ่มต้นใหม่
- สี Stellar Silver (สเตลลาร์ ซิลเวอร์) สีเงินที่มีความคลาสสิดเข้ากับกระจก Fluorite AG มีความหรูหรา ทันสมัย
- สี Nebula Purple (เนบิวลา เพอเพิล) เป็นสีม่วงคล้ายกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปกคลุมไปด้วยดวงดาว ให้ความรู้สึกน่าค้นหา
ดีไซน์สวย กล้องปรับใหม่แบบ Gemini Ring
เริ่มต้นด้วยเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่อง vivo V40 5G ต้องบอกว่าสัมผัสแรกคือบางและมีความพรีเมียม ทั้งวัสดุและการออกแบบรอบเครื่องอย่างลงตัว โดยตัวเครื่องบางเพียง 7.58 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาจับถือสบายมือ
มาพร้อมหน้าจอโค้ง 3D Curved Screen เทคโนโลยี AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล เป็นจอขอบโค้งรับกับตัวเครื่อง ให้ความสว่างสูงสุด 4500nits ใช้งานได้ทุกสภาพแสง รวมถึงในสภาวะแสงจ้าก็ยังเห็นคอนเทนต์ หรือตัวหนังสือได้คมชัด
นอกจากนี้ ยังเป็นจอแสดงผลรองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ทำให้การใช้งานกับคอนเทนต์ที่รองรับมีความสมูท ใช้งานไหลลื่น แสดงผลได้อย่างสวยงาม และยังเป็นจอที่มีขอบเขตสี 100% DCI-P3 ทำให้ได้สีที่มีความเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่ตามองเห็น ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป หรือเพื่อความบันเทิงก็ตอบโจทย์
บริเวณกล้องหน้ามาแบบเจาะรู ไม่กินพื้นที่บนหน้าจอมาก ทำให้ได้จอที่กว้าง และยังเป็นกล้องคมชัดความละเอียด 50MP
ส่วนหน้าจอด้านล่างก็ใส่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอมาให้ สามารถปลดล็อคได้เร็ว แม้แต่ตอนมือเปียกก็ยังใช้งานง่าย ตอบสนองแม่นยำ
รอบตัวเครื่องของ vivo V40 5G เรียกว่ามีขนาดที่บางมาก แต่วางพอร์ตต่างๆ ไว้ได้อย่างสวยงามและลงตัว โดยที่ตัวเครื่องด้านบนมาแบบขอบตัด มีเพียงไมโครโฟนตัวเสียงรบกวน และตัวหนังสือ Professional Portrait ที่บ่งบอกความเป็นมืออาชีพในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต
ถัดมาที่ตัวเครื่องด้านล่างมาพร้อมถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM รองรับการใช้งาน 2 ซิม ถัดมาเป็นไมโครโฟน พอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C และสุดท้ายเป็นลำโพงเสียงตัวเครื่อง
ส่วนตัวเครื่องด้านขวามีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด-เครื่อง ที่ออกแบบให้มีขนาดเล็กมาก และเป็นสีเดียวกับขอบเครื่องทำให้ตัวเครื่อง vivo V40 5G มีความสวยงามลงตัวในทุกๆ มุมที่มองเห็น
ส่วนตัวเครื่องด้านหลังมีเลนส์กล้องดีไซน์ใหม่เรียกว่า Gemini Ring เป็นลักษณะวงแหวนแนวยาว ด้านบนแบ่งเป็นกล้อง 2 เลนส์ พร้อมโลโก้ ZEISS ที่เรียกว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างยาวนานในการพัฒนาเรื่องของการถ่ายภาพให้ออกมาสวยและมีความเป็นมืออาชีพ ถัดลงมาด้านล่างดีไซน์ให้มีสีเหมือนตัวเครื่อง สำหรับวาง Aura Light หรือวงแหวนไฟออร่าสำหรับช่วยทำให้ภาพถ่ายดูมีมิติมากขึ้น
กล้องถ่ายภาพ ZEISS
vivo V40 5G มาพร้อมกล้องถ่ายภาพ ZEISS ทุกเลนส์ โดยกล้องหลักด้านหลังให้มา 2 เลนส์ แบ่งเป็น
- กล้องหลัก ZEISS OIS 50MP เซนเซอร์ ISOCELL GNJ ใหม่ ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.88
- กล้องมุมกว้าง ZEISS มุมกว้างพิเศษ 50MP, รูรับแสง f/2.0
เรียกว่ากล้องถ่ายภาพด้านหลังรอบนี้ให้มาเป็นเลนส์ ZEISS ที่มีความละเอียดสูง 50MP ทุกเลนส์ สามารถถ่ายภาพได้คมชัดทุกสภาพแสง มีโหมดถ่ายภาพหลากหลายที่ใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นโหมด High resolution, Pano, Ultra HD Document, Slo-mo, Time-lapse, Supermoon, Astro, Pro, Snapshot, Food, Dual View, Live Photo, Night, Portrait, Photo, Video หรือ Micro Movie และยังรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K@30fps
โหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจ
โหมดถ่ายภาพบุคคล ZEISS Multifocal Portrait
โหมดถ่ายภาพบุคคล หรือพอร์ตเทรต เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ มีการพัฒนาให้สามารถใช้งานถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ถึง 3 ระยะ ในแบบมืออาชีพ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งปรับเอง ซึ่งค่าเริ่มต้นของกล้องที่มีมาให้จะเป็นระยะ 24mm, 35mm และ 50mm ซึ่งในแต่ระยะก็มีความโดดเด่นและเน้นการใช้งานในแบบที่ต่างกัน
- ระยะ 24mm เป็นระยะโฟกัสที่ไกลสุด เหมาะกับการถ่ายภาพคนกับสถานที่ท่องเที่ยว หรือเชิงสร้างสรรค์ ให้ได้ภาพด้านหลังกว้างแต่ก็ไม่ลืมที่โฟกัสให้คนเด่น
- ระยะ 35mm สำหรับถ่ายภาพคนกับบรรยากาศ ซึ่งเป็นระยะที่ทีมงานใช้มากที่สุด โดดเน้นโฟกัสที่ตัวบุคคลให้ชัดและเด่น แต่ก็ยังได้พื้นหลังที่เป็นบรรยากาศรอบข้าง
- ระยะ 50mm เป็นระยะโฟกัสตัวบุคคลแบบใกล้ เน้นการถ่ายภาพครึ่งตัว เก็บรายละเอียดของคนให้ชัด
สำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรทในระยะโฟกัสที่มีมาให้ใน vivo V40 5G ช่วยให้การถ่ายภาพคนง่ายขึ้น ได้ภาพถ่ายที่มีความเป็นมืออาชีพ โฟกัสคนเด่นและฉากหลังเบลอสวยงาม จะเห็นว่าการตัดขอบระหว่างคนและพื้นหลังมีความเนียนและเป็นธรรมชาติ
ลูกเล่น ZEISS Style Portrait
ZEISS Style Portrait เป็นฟีเจอร์ในการปรับแต่งพื้นหลังเบลอให้มีลูกเล่นสไตล์โบเก้แบบต่างๆ ซึ่งครั้งนี้ให้มาถึง 7 สไตล์ เรียกว่าเลือกใช้กันไม่ถูกเลยทีเดียว แต่ละสไตล์ก็มีความเด่นไม่เหมือนกัน แต่รับรองว่าได้ใช้จริงแน่นอน ทำให้ได้ภาพภ่ายพอร์ตเทรตที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แบ่งออกเป็น
- ZEISS Biotar โบเก้ตัดกับฉากหลังที่เบลอเป็นวงกลม
- ZEISS B-speed โบเก้ตัวใหม่ละลายฉากหลังเป็นรูปสามเหลี่ยม
- ZEISS Sonnar โบเก้ละลายฉากหลังแบบเรียบเนียน
- ZEISS Planar โบเก้คลาสิกให้ฉากหลังเป็นวงกลม
- ZEISS Distagon โบเก้ละลายฉากหลังแต่ยังคงเห็นรายละเอียดที่ชัดเจน เน้นที่ตัวบุคคลเด่น
- ZEISS Cine-flare โบเก้แสงแฟลร์สีสัน
- ZEISS Cinematic เป็นการถ่ายพอร์ตเทรตแบบภาพแนวยาวเหมือนภาพยนตร์ เน้นถ่ายได้ทั้งตัว
เพิ่มมิติให้ภาพพอร์ตเทรตด้วย Aura Light Portrait
Aura Light Portrait แสงไฟออร่าที่มีการอัปเกรดใหม่ เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตได้ถึง 33% รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ทำให้ได้แสงที่นุ่มนวล ครอบคลุมการถ่ายภาพทั้งระยะใกล้และแสงที่สว่าง เพิ่มความคมชัดให้ภาพถ่ายระยะไกล หรือจะปรับโทนสีให้เข้ากับช่วงเวลานั้นๆ เองก็ทำได้
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกใน V Series กับ AI 3D Studio Lighting ที่ใช้อัลกอริทึม AI เข้ามาเติมแสงบนใบหน้าด้วยการวิเคราะห์แบบ 3 มิติ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสวยสมจริงและเป็นธรรมชาติ
จากภาพถ่ายที่เปิด Aura Light Portrait จะเห็นว่าใบหน้ามีความสว่างและมีมิติมากขึ้น บางมุมที่แสงเข้าไม่ถึงจะทำให้หน้ามืด แต่เมื่อเปิดใช้งานแสงไฟออร่าหน้าก็จะสว่างขึ้นมา และยังช่วงลบเงาได้อีกด้วย
โหมดภาพถ่ายกล้องหลัก ZEISS OIS 50MP
โหมดการใช้งานถ่ายภาพบนกล้องหลักก็ให้มาที่ความละเอียดสูง รองรับกันสั่น OIS ทั้งยังเพิ่มการรับแสงขึ้น 2.8 เท่า ทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียด คมชัด ลดการสั่นไหวได้เป็นอย่างดี
โหมดกล้องมุมกว้าง ZEISS Ultra Wide-Angle 50MP
โหมดถ่ายภาพมุมกว้างก็ให้ความละเอียดมาถึง 50MP ซึ่งมากกว่ามุมกว้างทั่วไปที่ให้มาเพียง 8MP เรียกว่ามีจำนวนพิกเซลมากกว่าถึง 6.5 เท่า ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด เก็บรายละเอียดได้ครบ และยังใช้งานได้จริง
กล้องหน้า ZEISS Group Selfie 50MP
กล้องหน้าของ vivo V40 5G ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มาพร้อมความละเอียดสูง 50MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 รองรับการใช้งานได้ในมุมกว้าง 92 องศา ไม่ว่าจะถ่ายเดี่ยวหรือกลุ่มก็เก็บได้ครบ และยังใช้งาน ZEISS Style Portrait ปรับโบเก้ให้พื้นหลังได้ถึง 5 แบบ หรือจะเพิ่มสีสันด้วยฟิลเตอร์ที่มีมาให้บนเครื่องก็ไม่ธรรมดา ทำให้ภาพถ่ายเซลฟี่ดูน่าสนใจมากขึ้น
ฟีเจอร์การลบด้วย AI
vivo V40 5G รุ่นนี้เพิ่มลูกเล่นการลบด้วย AI เข้ามาให้ด้วย ไม่ว่าจะถ่ายภาพติดคนแบบไหนก็ลบได้หมด โดยการใช้งานเข้าไปที่แก้ไข > การลบด้วย AI จากนั้นจะมีให้ให้เลือกลบด้วยวงกลมอัจฉริยะ โดยการวงที่ภาพคนหรือสิ่งที่ต้องการจะลบ หรือจะเลือกลบด้วยตนเอง จากนั้นเมื่อกดเลือก AI ก็จะทำการประมวลผลและลบสิ่งที่เราไม่ต้องการออกให้
ประสิทธิภาพเต็มพลัง
vivo V40 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 Octa Core ขนาด 4 นาโนเมตร ทำงานร่วมกับ RAM 12GB ทำให้ตัวเครื่องทำงานไหลลื่น ประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นสลับไปมา หรือจะเข้าแอปฯ ต่างๆ ก็ทำได้เร็ว และยังมีฟีเจอร์ Extended RAM ที่เป็นการนำหน่วยความจำภายในมาใช้ชั่วคราว สามารถเพิ่ม RAM ได้สูงถึง 12GB ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้งานหลายๆ แอปพร้อมกันก็ไม่เป็นปัญหา ตอบสนองเร็ว ใช้งานไม่สะดุด
ความบันเทิงจัดเต็มด้วยลำโพงคู่
vivo V40 5G เป็นครั้งแรกของสมาร์ตโฟนตระกูล V Series ที่มาพร้อมลำโพงคู่ Dual Stereo Speaker พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ทำให้การใช้งานเพื่อความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ก็ได้พลังเสียงดังกระหึ่ม มีมิติของเสียงครบ สามารถเพิ่มเสียงเบสได้ ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับเสียงแบบสมจริงยิ่งขึ้น
ทนน้ำ-ทนฝุ่น IP68
มาตราฐานทนน้ำ – ทนฝุ่น บนสมาร์ตโฟน vivo V40 5G เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่ดีมากๆ มีไว้ไม่เสียหายแน่นอน หากเกินเหตุการณ์ฝนตก น้ำกระเด็นใส่ เครื่องยังรองรับมาตราฐานทนน้ำ – ทนฝุ่น IP68 ได้ หรืออยู่ในน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที ช่วยป้องกันความเสียหาย ใช้งานได้สบายไม่ต้องกังวล
แบตเตอรี่ใหญ่ ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
แม้ว่าตัวเครื่อง vivo V40 5G จะมีขนาดที่บางและเบา แต่ให้แบตฯ มาถึง 5500mAh ด้วยเทคโนโลยี BlueVolt Battery เช่นเดียวกับสมาร์ตโฟนรุ่นใหญ่ ที่ให้พลังงานสูงแต่แบตฯ มีขนาดเล็ก ทำให้นำมาใส่ไว้บนสมาร์ตโฟนและได้เครื่องที่บางและเบา ถือง่ายสบายมือ และยังใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน แต่หากแบตฯ ระหว่างทางก็ไม่ต้องกังวล เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W FlashCharge ไม่ต้องเสียเวลาในการชาร์จนาน
สรุปท้ายรีวิว
vivo V40 5G รอบนี้มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น ทั้งระบบถ่ายภาพที่ให้กล้อง 50MP มาทุกเลนส์ ร่วมถึงจุดเด่นของการถ่ายพอร์ตเทรตที่อัปเกรดขึ้น เพิ่มลูกเล่นโบเก้ให้ใช้งานได้ถึง 7 แบบ รวมถึงไฟออร่ารอบนี้เห็นได้ชัดว่าให้แสงนวลเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังมีประสิทธิของตัวเครื่องที่ทำงานลื่น แบตฯ อึด ชาร์จเร็ว และให้เสียงดังด้วยลำโพงคู่ เรียกว่าครบจบตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- สมาร์ทโฟน vivo V40 5G
- สายชาร์จ USB to USB Type-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มซิม
- คู่มือการรับประกันเบื้องต้น
สเปคตัวเครื่อง vivo V40 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล
- เทคโนโลยีหน้าจอ 120Hz, 100% DCI-P3
- ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 Octa Core ขนาด 4 นาโนเมตร
- GPU Adreno 720
- RAM 12GB (Extended RAM 12GB), ROM 256/512GB
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด Nano SIM
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องหลัก ZEISS OIS 50MP เซนเซอร์ ISOCELL GNJ ใหม่ ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.88
- กล้องมุมกว้าง ZEISS มุมกว้างพิเศษ 50MP, รูรับแสง f/2.0
- กล้องหน้า ZEISS Group Selfie 50MP, รูรับแสง f/2.0
- รองรับการเชื่อมต่อ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi6 / WLAN 2.4GHz / 5GHz, Bluetooth 5.6, USB Type-C
- ระบบความปลอดภัย สแกนนิ้วใต้หน้าจอ, สแกนใบหน้า, รหัสผ่าน
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 based on Android 14
- แบตเตอรี่ 5500mAh ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 164.16 × 74.93 × 7.58 มม.
- น้ำหนัก 190 กรัม
- สี Sunglow Peach, Stellar Silver, Nebula Purple
ราคาและการวางจำหน่าย
vivo V40 5G วางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Sunglow Peach, Stellar Silver, Nebula Purple แบ่งออกเป็น 2 รุ่น
- RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 15,999 บาท
- RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 17,999 บาท
- พิเศษสำหรับ vivo fans ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 2 กันยายน – 30 กันยายน 2567 จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณมูลค่ารวมสูงสุดกว่า 12,298 บาท ประกอบด้วย
- หูฟัง vivo TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท เฉพาะผู้ที่ซื้อรุ่น V40 Pro 5G)
- V40 Series 5G Premium Gift Box (มูลค่ารวม 10,499 บาท) ภายในประกอบด้วย เคสใส 1 ชิ้น ตัวยึดกับเคสสีพีช 1 ชิ้น สายคล้องข้อมือแบบเชือกสีดำ 1 ชิ้น กระเป๋าใส่เหรียญสีดำ 1 ใบ และ E-VIP รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก
พิเศษยิ่งขึ้น! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อในรูปแบบ Walk-In ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา รับเพิ่มทันทีหูฟัง vivo TWS 3e สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 5G และส่วนลด 500 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 Pro 5G
