เทศกาลแห่งความสุขคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ใกล้จะมาถึงแล้ว หากใครยังไม่มีของขวัญลองมองหาผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่มีให้เลือกหลากหลาย รับลองว่าถูกใจผู้รับแน่นอน
— iPhone เป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนทั้ง iPhone 13 และ iPhone 13 mini แบบใหม่หมดมาพร้อมกับดีไซน์แบบขอบแบนเรียบอันเพรียวบางและสวยงาม รวมถึงจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และ 5.4 นิ้ว สีสันใหม่อันสวยงามถึง 5 สี ได้แก่ สีชมพู สีฟ้า สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED
— ด้วยระบบกล้องคู่อันแสนล้ำสมัยพร้อมด้วยกล้องไวด์ใหม่ที่มีพิกเซลขนาดใหญ่ขึ้น และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล ทำให้ถ่ายภาพและวิดีโอในสภาพแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
— ด้วยโหมดภาพยนตร์ ทำให้ใครๆ ก็สามารถถ่ายช่วงเวลาในระหว่างการหยุดพักผ่อนในสไตล์ภาพยนตร์ได้ด้วยเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกอันสวยงาม
— ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วสุดแรง และการประหยัดพลังงานด้วยชิป A15 Bionic ทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 13 ยาวนานขึ้นกว่า iPhone 12 ถึงสองชั่วโมงครึ่งในแต่ละวัน ส่วนด้านหน้าแบบ Ceramic Shield บน iPhone 13 ก็ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่ากระจกของสมาร์ทโฟนทุกรุ่น
— พร้อมจำหน่ายแล้วในราคา 29,900 บาท และ 25,900 บาท ตามลำดับ
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
— iPhone Pro และ iPhone Pro Max มาพร้อมกับดีไซน์แบบขอบแบนอันสวยหรูที่สร้างสรรค์มาจากวัสดุระดับพรีเมียม ในขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว สีอันสวยสะดุดตา 4 สี ได้แก่ สีกราไฟท์ สีทอง สีเงิน และสีเซียร์ร่าบลูใหม่
— ด้านหน้าแบบ Ceramic Shield แข็งแรงทนทานอย่างเหลือเชื่อ ขณะที่จอภาพ Super Retina XDR อันสวยสะดุดตาก็มาพร้อม ProMotion และอัตราการรีเฟรชข้อมูลใหม่แบบปรับได้ที่สูงถึง 120Hz
— เลนส์กล้องและเซ็นเซอร์แบบใหม่สำหรับกล้องหลังทั้งสามกล้อง เป็นระบบกล้องที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมความสามารถใหม่ๆ และการถ่ายภาพและวิดีโอที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก โหมดภาพยนตร์มาพร้อมการเปลี่ยนจุดโฟกัสที่สวยงามในการถ่ายวิดีโอ ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์มีการถ่ายภาพมาโครเพิ่มขึ้น และสามารถถ่ายและแก้ไขภาพในแบบ ProRes ได้ด้วย
— ชิป A15 Bionic ใหม่พร้อมด้วย GPU แบบ 5-core เร็วขึ้นกว่าคู่แข่งระดับแนวหน้าถึง 50% และ iPhone 13 Pro Max ยังมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดียิ่งกว่าที่เคยมีมาใน iPhone อีกทั้ง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ยังมอบประสบการณ์ 5G อันแสนล้ำหน้าที่จะเปลี่ยนวิธีการที่ลูกค้าจะเชื่อมต่อ แชร์ และสนุกสนานกับคอนเทนต์ต่างๆ
— พร้อมจำหน่ายในราคา 38,900 บาท และ 42,900 บาท ตามลำดับ
— iPad ใหม่เป็นของขวัญอันสมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวของคุณในปีนี้ ที่จะให้อิสระแก่ทุกคนในการทำงาน การเรียนรู้ และการเชื่อมต่ออันง่ายดายจากที่บ้านหรือในระหว่างเดินทาง โดย iPad ใหม่เป็นการเพิ่มเติมพลังที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเข้าไปใน iPad รุ่นยอดนิยม ในขณะที่ยังคงระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวัน พร้อมด้วยความคุ้มค่าอันเหลือเชื่อ
— iPad ใหม่มาพร้อมกับจอภาพ Retina ขนาด 10.2 นิ้วและ True Tone กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่มีคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” การรองรับ Apple Pencil และ Smart Keyboard, iPadOS 15 ที่ใช้งานง่าย และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึงสองเท่า
— iPad ใหม่ เริ่มต้นที่ราคา 11,400 บาทสำหรับรุ่น Wi-Fi และ 16,400 บาทสำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ในสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) มีจำหน่ายในราคา 3,400 บาท และ Smart Keyboard สำหรับ iPad ราคา 5,290 บาท Smart Cover สำหรับ iPad พร้อมจำหน่ายในราคา 2,290 บาท
— ช่วยเพื่อนๆ และครอบครัวของคุณในการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในเทศกาลวันหยุดปีนี้ ด้วย iPad mini แบบใหม่หมด ซึ่งมาพร้อมกับจอภาพ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ในสีสันสวยงาม 4 สี ได้แก่ สีชมพู สีสตาร์ไลท์ สีม่วง และสีเทาสเปซเกรย์
— iPad mini ใหม่ยังมอบประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วขึ้นถึง 80% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้เป็น iPad mini ที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยระบบกล้องใหม่อันล้ำหน้า, คุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” และรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ทำให้ผู้ใช้มีวิธีการใหม่ๆ ในการถ่ายภาพและวิดีโอ การสื่อสารกับบุคคลอันเป็นที่รัก และการจดบันทึกไอเดียต่างๆ เมื่อเกิดความคิดสร้างสรรค์พุ่งขึ้นมา พอร์ต USB-C ใหม่ยังช่วยทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วขึ้น และรุ่นเซลลูลาร์ที่มี 5G ก็ยังเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานระหว่างการเดินทางอีกด้วย
— iPad mini เริ่มต้นที่ราคา 17,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และราคา 23,400 บาท สำหรับรุ่น WiFi + Cellular ส่วน Apple Pencil (รุ่นที่ 2) พร้อมจำหน่ายในราคา 4,490 บาท และ Smart Cover ใหม่ พร้อมจำหน่ายในราคา 2,590 บาท
— Mac เป็นของขวัญอันน่าทึ่งสำหรับทุกคนในรายการของคุณ ทั้งนักเรียนไปจนถึงนักสร้างสรรค์และมืออาชีพรวมถึงทุกคนในครอบครัว ส่งต่อความสดใสของเทศกาลด้วยสีสันอันสดใสของ iMac ซึ่งมาในดีไซน์ขนาดกะทัดรัดอันสวยสะดุดตา, ชิป M1 อันทรงพลังของ Apple, จอภาพ Retina 4.5K ขนาด 24 นิ้ว พร้อมด้วยกล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีใน Mac และด้วย Touch ID ที่ทำให้สลับโปรไฟล์ผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย นี่จึงเป็นเครื่องเดสก์ท็อปที่เหมาะที่สุดสำหรับทั้งครอบครัว มีให้เลือกทั้งสีเขียว, สีเหลือง, สีส้ม, สีชมพู, สีม่วง, สีฟ้า และสีเงิน ในราคาเริ่มต้นสำหรับ iMac ที่ 42,900 บาท
— ไม่ว่าผู้รับของขวัญจะกำลังเรียนรู้ สร้างสรรค์ หรือทำงานที่บ้าน หรืออยู่ในระหว่างเดินทาง มอบของขวัญให้แก่คนที่คุณรักด้วยของขวัญที่เพรียวบาง น้ำหนักเบา และพกพาได้สะดวก MacBook Air ในราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท หรือรุ่น Pro สำหรับความรวดเร็วในระดับมืออาชีพและพลังอันเหลือเชื่อ MacBook Pro ในราคาเริ่มต้นที่ 42,900 บาท
— เมื่อทำงานร่วมกับ macOS โน้ตบุ๊ก M1 อันทรงพลังของ Apple มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่อันยาวนานเป็นพิเศษ โดยสามารถใช้ในการท่องเว็บแบบไร้สายได้นานถึง 17 ชั่วโมง และเล่นวิดีโอได้นานถึง 20 ชั่วโมง พร้อมประสิทธิภาพอันล้ำสมัยที่สามารถรับมือได้ทั้งการทำงานและการหาความเพลิดเพลิน
— รวมทั้ง macOS Monterey ที่เพิ่มวิธีการใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ และครอบครัว รวมทั้งสามารถทำงานข้ามอุปกรณ์ได้อย่างชาญฉลาดขึ้นด้วยคุณสมบัติ “ความต่อเนื่อง” อย่างเช่น Universal Control ทำให้ทำงานได้เพิ่มมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานหลายอย่างบนรายการของคุณพร้อมๆ กัน
— Apple Watch ยังคงมาพร้อมกับเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการดูแลสุขภาพและความแข็งแรงสำหรับทุกคนที่คุณรัก ด้วยพลังของ watchOS 8 Apple Watch Series 7 (เริ่มต้นที่ 13,900 บาท) ช่วยให้ผู้ใช้รักษาสุขภาพ กระฉับกระเฉง และไม่ขาดการติดต่อ ด้วยประเภทการออกกำลังกายแบบใหม่ๆ แอปทำสมาธิ และอื่นๆ
— มาพร้อมกับจอภาพ Retina แบบติดตลอด ซึ่งมีพื้นที่หน้าจอมากขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับ Series 6 และขอบที่บางกว่า โดยยังคงมีคุณสมบัติทนน้ำทนฝุ่นอันยอดเยี่ยม และด้านหน้าแบบคริสตัลที่แข็งแกร่งขึ้นและทนการแตกร้าวได้ดียิ่งขึ้น มาในตัวเรือนอะลูมิเนียมที่มี 5 สีสันสวยงาม ได้แก่ สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเขียว, สีฟ้าใหม่ และ (PRODUCT)RED
— สำหรับสุดยอดของขวัญที่ผสมผสานกันทั้งดีไซน์ การทำงาน และความคุ้มค่าแก่คนที่คุณรัก Apple Watch SE (เริ่มต้นที่ 9,900 บาท) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้เป็นครั้งแรก โดยมีคุณสมบัติสำคัญๆ ทั้งหลายของ Apple Watch และด้วยคุณสมบัติ “การตั้งค่าครอบครัว” ทำให้อุปกรณ์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสมาชิกในครอบครัวซึ่งชอบ Apple Watch แต่อาจยังไม่มี iPhone เป็นของตนเอง
— AirPods (6,790 บาท) เป็นหูฟังไร้สายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ การตั้งค่าด้วยการแตะแค่ครั้งเดียว การควบคุมที่ใช้งานง่าย และเสียงอันชัดเจนแจ่มใส ในขณะที่ AirPods Pro (8,992 บาท) มอบความมหัศจรรย์ของ AirPods และการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ โหมดฟังเสียงภายนอก และระบบเสียงตามตำแหน่ง ในดีไซน์แบบ In-Ear ที่น้ำหนักเบา ด้วยคุณสมบัติทนเหงื่อและทนน้ำ ทำให้เป็นหูฟังที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง
— คุณสามารถทำให้ของขวัญเหล่านี้พิเศษมากยิ่งขึ้นด้วยการสลักข้อความฟรี ไม่ว่าจะเป็นชื่อของคนที่คุณรักหรือวันแห่งความทรงจำ
— สำหรับประสบการณ์การฟังแบบส่วนตัวอันยอดเยี่ยม AirPods Max (19,900 บาท) มอบระบบเสียงที่คมชัด การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟพร้อมโหมดฟังเสียงภายนอก เสียงที่เหมือนกับอยู่ในโรงภาพยนตร์ด้วยระบบเสียงตามตำแหน่ง และการสวมใส่ที่กระชับพอดีเป็นพิเศษ
— AirTag (990 – 3,390 บาท) เป็นอุปกรณ์เสริมขนาดเล็กอันสวยงาม ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามและค้นหาสิ่งของที่สำคัญที่สุดโดยการใช้แอปค้นหาของฉันของ Apple ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ติดตั้งในตัว
— เป็นของขวัญประจำเทศกาลที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่ชอบทำของหาย และสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์เสริม AirTag ที่ออกแบบโดย Apple มากมายหลายอย่าง ทั้งห่วงคล้องโพลียูรีเทน, ห่วงคล้องแบบหนัง และพวงกุญแจหนัง ที่สามารถติดกับเป้ กุญแจ และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
— AirTag มาในแพ็คแบบหนึ่งและสี่ชิ้นในราคาเพียง 990 บาท และ 3,390 บาท ตามลำดับ และสามารถเพิ่มความเฉพาะตัวได้ด้วยการสลักข้อความฟรี ทั้งอีโมจิและข้อความ
— ด้วยระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าหนึ่งปี AirTag ยังทนน้ำและสามารถโยนเข้าไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อผ้าได้ ทำให้เป็นของขวัญที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ใช้ Apple ทุกวัย
— Apple TV 4K (6,700 บาท) เป็นการอัปเกรดทีวีทุกรุ่นเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุด และทำงานได้อย่างราบรื่นกับอุปกรณ์และบริการอื่นๆ ของ Apple ที่จะแปลงโฉมห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นที่ซึ่งทุกคนในครอบครัวจะต้องชื่นชอบ
— เพลิดเพลินกับ Apple TV+ และรายการทีวีและภาพยนตร์อื่นๆ บนแอป Apple TV เพลย์ลิสต์นับพันและเพลงนับล้านๆ บน Apple Music สุดยอดเกมบน Apple Arcade และแอปอื่นๆ นับพัน ทั้งเกม ฟิตเนส และการศึกษา
— Apple Music มอบการเข้าถึงเพลงมากกว่า 75 ล้านเพลงในระบบเสียงตามตำแหน่งด้วย Dolby Atoms ในที่ซึ่งมีให้บริการ, Lossless และ Lossless แบบความละเอียดสูง, เพลย์ลิสต์นับพันที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีที่เก่งที่สุด และสถานีวิทยุที่ออกอากาศสดทั่วโลก ซึ่งนำเสนอรายการสุดพิเศษที่ผลิตเฉพาะสำหรับเราจากพิธีกรรายการเพลงชั้นนำของโลกทั้งทางช่อง Apple Music 1, Apple Music Hits และ Apple Music Country
— แฟนเพลงจะสามารถดาวน์โหลดเพลงโปรดของตัวเองได้ด้วย Apple Music สำหรับการฟังแบบออฟไลน์ ร่วมร้องไปกับเพลงโปรดของตนเองด้วยเนื้อร้องที่ซิงค์กับเวลา แชร์เพลงกับเพื่อนๆ โดยใช้คุณสมบัติ “แชร์กับฉัน” ติดตามเทรนด์ดนตรีจากทั่วโลกด้วยอันดับเพลงระดับโลกและระดับเมือง พร้อมคอลเลกชั่นเพลงประกอบภาพในช่วงวันหยุดพักผ่อน ด้วยการตั้งค่าให้ Apple Music เล่นเพลงในคุณสมบัติ “ความทรงจำ” ของแอปรูปภาพ
— Apple Music ยังมี Apple Music TV ที่ถ่ายทอดสดตลอด 24 ชั่วโมงนำเสนอทั้งมิวสิกวิดีโอ ภาพยนตร์เพลงที่ได้รับการคัดสรรมาแล้ว การแสดงสด และอื่น (ในที่ซึ่งมีให้บริการ)
— นับจากเปิดตัวในปี 2015 Apple Music ได้ให้บริการแก่สมาชิกนับสิบล้านรายใน 167 ประเทศและภูมิภาค
— Apple Music ไม่มีโฆษณาใดๆ ทั้งสิ้น และสตรีมบน iPhone, iPad, iPod, Apple Watch, Apple TV, Mac, HomePod และ CarPlay ได้อย่างราบรื่น เช่นเดียวกับบนสมาร์ททีวียอดนิยมบางรุ่น, ลำโพงอัจฉริยะ รวมถึงอุปกรณ์ Android และ Windows ทำให้เป็นประสบการณ์ของการสตรีมเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก (แผนบริการแบบบุคคล 129 บาท, แผนบริการแบบครอบครัว 199 บาท)
— บริการสมัครสมาชิกเกมยอดนิยมของ Apple มอบการเข้าถึงแบบไร้ขีดจำกัดสำหรับคอลเลกชั่นเกมระดับพรีเมียมที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 200 เกม
— บริการนี้มีทั้งเกมออกใหม่ เกมระดับรางวัล และเกมยอดนิยมที่ทุกคนชื่นชอบจาก App Store โดยไม่มีโฆษณาหรือการซื้อภายในแอป
— หนึ่งการสมัครสมาชิก สมาชิกครอบครัวสูงสุด 6 คนสามารถสนุกสนานกับสุดยอดเกมสนุกๆ ที่หลากหลาย รวมถึง “LEGO Star Wars Battles,” The Oregon Trail,” “SpongeBob: PattyPursuit,” “Sonic Racing” และ “Cut the Rope Remastered” ซึ่งทั้งหมดเล่นได้ทั้งบน iPhone, iPad, Mac และ Apple TV ในราคาสมาชิกต่อเดือนเพียง 99 บาท โดยสามารถทดลองใช้งานได้ฟรีหนึ่งเดือน
— ในช่วงระยะเวลาจำกัด ลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ซึ่งซื้อ iPhone, iPad, iPod touch, Apple TV หรือ Mac เครื่องใหม่ สามารถเพลิดเพลินกับ Apple Arcade ได้ฟรี 3 เดือน Apple Arcade ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของของแผนบริการรายเดือน Apple One แบบบุคคล, แบบครอบครัว และแบบพรีเมียร์
— Apple One เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสมัครสมาชิกบริการด้านความบันเทิงของ Apple ด้วยแผนบริการเพียงแผนเดียว ซึ่งมีทั้ง Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud
— ด้วยแผนบริการ Apple One ลูกค้าจะสามารถเพลิดเพลินกับบริการของ Apple ที่ตัวเองชื่นชอบได้บนอุปกรณ์ที่ตัวเองโปรดปราน ทั้ง iPhone, iPad, iPod touch, Apple TV และ Mac
— Apple One แบบบุคคลมีบริการ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud+ ขนาด 50GB ในราคา 225 บาทต่อเดือน ส่วน Apple One แบบครอบครัวมีบริการ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud+ ขนาด 200GB ในราคาเดือนละ 295 บาท และสามารถแชร์กับสมาชิกในครอบครัวได้สูงสุด 6 คน
— Apple Books ช่วยให้การค้นหาและเพลิดเพลินกับอีบุ๊คและหนังสือเสียงเป็นไปได้อย่างง่ายดายบน iPhone และ iPad และการมอบของขวัญเป็นอีบุ๊คหรือหนังสือเสียงผ่านทาง Apple Books ก็ง่ายดายเป็นพิเศษ และเป็นวิธีอันยอดเยี่ยมในการทำให้คนที่คุณรักรู้ว่าคุณคิดถึงพวกเขาในช่วงเทศกาลนี้
— แตะที่แท็บ Book Store เพื่อเลือกดูหนังสือใหม่ทั้งหมด หนังสือยอดนิยม คอลเลกชั่นที่คัดสรรโดยกองบรรณาธิการ และหนังสือแยกตามหมวดหมู่ รวมถึงแท็บสำหรับหนังสือเสียงโดยเฉพาะเพื่อค้นหาเรื่องใหม่ๆ สำหรับฟัง รวมถึงเรื่องที่อ่านโดยคนดังและผู้บรรยายชื่อดัง
— แท็บ “กำลังอ่าน” ทำให้คุณสามารถตรงเข้าไปยังหนังสือหรือหนังสือเสียงที่ใช้งานล่าสุดได้อย่างง่ายดาย หรือค้นหาเรื่องโปรดใหม่ๆ ด้วยคำแนะนำที่เลือกมาให้เข้ากับคุณโดยเฉพาะ รวมทั้งคุณยังสามารถติดตามความคืบหน้าของตัวเองได้ด้วยการใช้คุณสมบัติ “เป้าหมายการอ่าน” และทำให้การอ่านกลายมาเป็นนิสัยที่ต้องทำในทุกวัน
— นอกเหนือจาก iPhone และ iPad แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับ Apple Books ได้บน Mac หรือฟังคลังหนังสือเสียงของคุณได้บน Apple Watch และ CarPlay อีกด้วย
Apple ชวนทําการด์สุดพิเศษ ส่งความสุขช่วงเทศกาล
หากใครกำลังมองหาการ์ดส่งความสุข Apple ชวนทุกคนมาสร้างสรรค์การ์ดสุดพิเศษมอบให้คนที่คุณห่วงใยในเทศกาลแห่งความสุข หยิบแรงบันดาลใจจากศิลปิน มาต่อยอดเป็นผลงานสุดสร้างสรรค์ ด้วยการ์ดทําเองที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเลือกแบบการ์ดที่ถูกใจในแอป Keynote บน iPad หรือ Mac แล้วเขียนข้อความอวยพรดีๆ แปะรูปภาพน่ารักๆ พร้อมใส่วิดีโอสนุกๆ ชอบรูปร่างสีสันแบบไหน อยากจัดวางมุมใด หรือทำสติ๊กเกอร์ให้เคลื่อนไหว ยังไงก็ได้หมด ดาวน์โหลดแบบการ์ดได้ฟรีที่ https://apple.co/holiday-cards-th
