2-3 ปีที่ผ่านมานี้ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำหรับเราทุกคน ซึ่งต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างที่เราคงนึกภาพไม่ออกในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดนี้ ในระหว่างทาง เราได้เห็นชุมชน YouTube เติบโตขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ เหล่าครีเอเตอร์เข้ามาบนแพลตฟอร์มนี้เพื่อแชร์เรื่องราวชีวิต เพื่อหาเลี้ยงชีพ และเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงของโลกรอบตัวอย่างมีความหมาย คนกลุ่มนี้นำพาให้เรามารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่โลก ในปีที่ผ่านมาเราได้เห็นผลจากความพยายามเหล่านี้เมื่อ MrBeast และ Mark Rober เปิดตัวแคมเปญ Team Seas เพื่อระดมทุนไปช่วยกำจัดขยะปริมาณ 15,000 ตันออกจากทะเล ชายหาด และแม่น้ำ
ในปีนี้ YouTube จะให้ความสำคัญกับการช่วยขยายแพลตฟอร์ม วันนี้ฉันจึงอยากมาแจ้งข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของเรา นั่นก็คือ สถานะทางเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ นวัตกรรม การสนับสนุนงานของครีเอเตอร์ และการปกป้องชุมชน YouTube
สถานะทางเศรษฐกิจของครีเอเตอร์
เรามุ่งมั่นสร้างความเติบโตให้กับระบบนิเวศของครีเอเตอร์
ปัจจุบันจำนวนผู้ที่เข้ามาสร้างเนื้อหาบน YouTube มีมากกว่าแต่ก่อน เราเห็นการเติบโตจากทั่วทั้งแพลตฟอร์ม รวมถึงใน Shorts ที่ตอนนี้มียอดดูรวมกว่า 5 ล้านล้านครั้งแล้ว
ครีเอเตอร์ช่วยให้เราได้เรียนรู้และสร้างความบันเทิงให้เราได้เสมอ ทั้งยังส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีจำนวนช่องจากทั่วโลกที่สร้างรายได้มากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 40%เมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ หลายๆ รายงานจาก Oxford Economics ยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลจากเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ ในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่คนทั่วโลกต้องปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบบนิเวศการสร้างสรรค์ของ YouTube ช่วยสร้างงานมากกว่า 800,000 ตำแหน่งในปี 2020 เมื่อรวมจากทั้งในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา บราซิล ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป
แหล่งรายได้เพิ่มเติม
ตอนที่ฉันเริ่มทำงานที่ YouTube วิธีที่ครีเอเตอร์จะสร้างรายได้บน YouTube มีเพียงช่องทางเดียว นั่นก็คือ โฆษณาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราจึงพยายามขยายโอกาสให้ครีเอเตอร์มีช่องทางเข้าถึงผู้ชมมากยิ่งขึ้น จนตอนนี้เรามีช่องทางให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จาก YouTube มากถึง 10 ช่องทาง
เรายังเห็นอีกด้วยว่าครีเอเตอร์ทั่วโลกได้รับประโยชน์จากโอกาสที่เพิ่มขึ้นนี้ ครีเอเตอร์ที่สร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่โฆษณา เช่น Super Chat และการเป็นสมาชิกของช่อง เริ่มมีจำนวนมากกว่าเมื่อก่อน ในปีที่ผ่านมา มีการสมัครเป็นสมาชิกของช่อง YouTube และซื้อสินค้าดิจิทัลแบบชำระเงินรวมแล้วมากกว่า 110 ล้านครั้ง
ผู้คนทั่วโลกสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์จากความเติบโตนี้ ตัวอย่างเช่น ในเดือนที่ผ่านมา ช่อง YouTube ในเกาหลีใต้มีรายได้จากการเป็นสมาชิกของช่องเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2020 ซึ่งรวมถึงช่องของครีเอเตอร์และอาจารย์ชาวเกาหลีใต้ Hwang Hyeon-pil ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีผ่านวิดีโอพิเศษ ข่าวสาร และการบรรยาย ปีที่แล้วช่องของเขามีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คน หรือมากกว่า 500% เลยทีเดียว
เราตื่นเต้นที่จะได้มอบโอกาสในด้านต่างๆ อย่างการเผยแพร่พอดแคสต์ที่จะทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้และขยายฐานการเข้าถึงของผลงาน โดยคาดว่าฟีเจอร์นี้จะเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ เนื่องจากการใช้งานพอดแคสต์มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เรายังมองไกลไปถึงอนาคตและคอยติดตามสิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกเว็บ 3.0 เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ บน YouTube อย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมา โลกของคริปโต โทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (NFT) หรือแม้กระทั่งองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) เน้นให้เห็นถึงโอกาสการขยายความสัมพันธ์ระหว่างครีเอเตอร์กับแฟนๆ อย่างที่เราไม่เคยคิดฝัน เราไม่เคยหยุดให้ความสำคัญกับการขยายระบบนิเวศของ YouTube เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงสิ่งต่างๆ อย่าง NFT และในขณะเดียวกันก็ยังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและยกระดับประสบการณ์ที่ครีเอเตอร์และแฟนๆ ได้รับบน YouTube
ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของครีเอเตอร์
ระหว่างคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่ออนาคตของ YouTube เราก็ให้การสนับสนุนแก่ชุมชนครีเอเตอร์ไปด้วย อันดับแรกเราจะทำให้ครีเอเตอร์ควบคุมสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น โดยได้เปิดตัวฟีเจอร์การตรวจสอบก่อนเผยแพร่ไปเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อให้ครีเอเตอร์ตรวจสอบได้ว่ามีปัญหาด้านลิขสิทธิ์หรือความเหมาะสมในการแสดงโฆษณาหรือไม่ก่อนที่จะเผยแพร่
อันดับที่ 2 คือเราจะคอยตรวจสอบนโยบายโดยละเอียดอยู่เบื้องหลังเพื่อให้แน่ใจว่าเราวางกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้อย่างถูกที่ถูกทาง ในปีที่ผ่านมาเราได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้ลงโฆษณาเพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาเพิ่มเติมโดยที่ไม่ขัดต่อมาตรฐานอุตสาหกรรมของผู้ลงโฆษณา
นอกจากนี้ครีเอเตอร์ยังขอรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้ตนเข้าใจการละเมิดนโยบายได้ดียิ่งขึ้น เราจึงสรรหาบุคลากรจำนวนมากขึ้นเพื่อให้สามารถขยายการทดสอบและจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการละเมิดนโยบายให้แก่ครีเอเตอร์ เช่น เรื่องการประทับเวลา และหวังที่จะต่อยอดความพยายามนี้ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น
นวัตกรรม
เรากำลังสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อ YouTube แห่งอนาคต
เรามองไปข้างหน้า พร้อมทั้งมุ่งเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านต่างๆ ต่อไปนี้คือตัวอย่างของสิ่งที่เราจะลงทุนพัฒนาในปีนี้
Shorts
ในทุกๆ วัน เราพยายามปรับปรุงวิธีช่วยผลักดันให้ครีเอเตอร์เริ่มต้นและเข้าถึงผู้ชมใน Shorts ได้เร็วขึ้น ในปีที่แล้วเราได้เริ่มเปิดตัวฟีเจอร์รีมิกซ์ใหม่ที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ Shorts โดยใช้เสียงจากวิดีโออื่นๆ ที่อยู่บน YouTube และในไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะขยายขีดความสามารถนี้ให้มีวิธีการที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าในการรีมิกซ์เนื้อหาบน YouTube
ครีเอเตอร์มากมายได้สร้างสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจผ่าน Shorts ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่อย่าง Jake Fellman, Lisa Nguyen หรือ Chahat Anand ไปจนถึงครีเอเตอร์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้มาหลายปีอย่าง Colin and Samir
นอกจากนี้เรายังมีช่องทางให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้บน Shorts ผ่านเงินสนับสนุนของ Shorts ที่มีให้บริการในมากกว่า 100 ประเทศแล้วตอนนี้ เงินสนับสนุนของ Shorts ช่วยเปิดโอกาสให้มีครีเอเตอร์หน้าใหม่ โดยในปีที่ผ่านมา ครีเอเตอร์มากกว่า 40% ที่ได้รับเงินสนับสนุนนี้ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube (YPP) ส่วนในปีนี้เรากำลังทดสอบแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้ครีเอเตอร์ Shorts ผลิตเนื้อหาที่สร้างร่วมกับแบรนด์ผ่าน BrandConnect ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยจับคู่ครีเอเตอร์กับแบรนด์ต่างๆ
เพลง
ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีอันยิ่งใหญ่สำหรับเพลงบน YouTube เราบรรลุเป้าหมายครั้งใหญ่ไปในปี 2021 ทำให้ตอนนี้ YouTube มีสมาชิกและผู้ทดลองใช้ Music และ Premium รวมแล้วมากกว่า 50 ล้านราย ในฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว เราได้ประกาศว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา YouTube สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเพลงมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เรายังคงเดินหน้าทำให้ศิลปินเข้าถึงแฟนๆ ทั่วโลก เช่น BLACKPINK ที่ได้เปิดประสบการณ์จัดคอนเสิร์ตผ่านสตรีมแบบสดเป็นครั้งแรก และชาเลนจ์เต้น Permission to Dance ผ่าน Shorts ของ BTS
เกม
เราได้เห็นพัฒนาการครั้งสำคัญในการปฏิวัติวงการเกมบน YouTube ตั้งแต่การเล่าเรื่องอันน่าดื่มด่ำไปจนถึงการที่แพลตฟอร์มนี้ได้เป็นบ้านของ eSports ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพียงในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 YouTube ก็มียอดดูเกี่ยวกับเกมมากกว่า 8 แสนล้านครั้ง มีการสตรีมแบบสดมากกว่า 90 ล้านชั่วโมง และมีการอัปโหลดมากกว่า 250 ล้านรายการ
YouTube แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เพราะเรานำเสนอจุดหมายปลายทางหนึ่งเดียวที่ให้ครีเอเตอร์เกมบอกเล่าเรื่องราวผ่านวิดีโอรูปแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิงแบบสด VOD หรือ Shorts ในปีที่ผ่านมาเราจึงตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ครีเอเตอร์อันดับต้นๆ อย่าง Ludwig, DrLupo และ TimTheTatman มาจัดสตรีมมิงพิเศษเฉพาะบน YouTube และต่อยอดความฝันที่มีต่อเนื้อหา VOD เราอยากปรับปรุงประสบการณ์การเผยแพร่สดให้แก่ผู้ชมและครีเอเตอร์ทุกคน โดยเน้นปรับปรุงการค้นพบได้ของเนื้อหาสดและเพิ่มฟีเจอร์แชท นอกจากนี้ทีมของเรากำลังพยายามทำให้ครีเอเตอร์และผู้ใช้สร้างวิดีโอสั้นเกี่ยวกับเกมได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย สำหรับปีนี้ เราจะเปิดตัวฟีเจอร์หนึ่งที่ผู้ใช้ขอมามากที่สุด นั่นก็คือ “การเป็นสมาชิกแบบของขวัญ“
ช็อปปิ้ง
เรากำลังลงทุนพัฒนาเพื่อให้ YouTube กลายเป็นตลาดการค้ายุคใหม่ โดยได้เปิดตัวโปรแกรมนำร่องการติดแท็กของครีเอเตอร์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เลือกชม ศึกษาข้อมูล และซื้อสินค้าที่อยู่ในวิดีโอที่ชื่นชอบ นอกจากนี้เรายังอยู่ในช่วงทดสอบเริ่มต้นเพื่อหาวิธีรวมการช็อปปิ้งเข้ากับ Shorts ด้วย
เราเห็นครีเอเตอร์สตรีมแบบสดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรีวิวผลิตภัณฑ์ เปิดตัวสินค้าใหม่ และแนะนำสินค้าที่ตนเลือกซื้อมา ครีเอเตอร์อย่าง Simply Nailogical ใช้เครื่องมือใหม่ล่าสุดอย่าง “การช็อปปิ้งแบบเรียลไทม์” เพื่อเปิดตัวยาทาเล็บคอลเล็กชันล่าสุดของตนเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมเลือกซื้อสินค้าผ่านวิดีโอได้และมีการติดแท็กผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ทำให้แฟนๆ เลือกดูคอลเล็กชันโดยรวมได้แบบเรียลไทม์และเลือกซื้อได้โดยไม่ต้องออกจากสตรีม สตรีมแบบสดครั้งแรกประสบความสำเร็จจนเธอต้องเลือกใช้วิธีนี้กับคอลเล็กชันใหม่ทั้งหมดนับแต่นั้นเป็นต้นมา
เราได้ทดลองใช้การช็อปปิ้งแบบเรียลไทม์ในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และบราซิล และจะเริ่มให้บริการการช็อปปิ้งแก่ครีเอเตอร์และแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติมในปีนี้โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopify พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้ได้รับความบันเทิงและโต้ตอบได้มากยิ่งขึ้น
ห้องนั่งเล่น
ทีวียังคงเป็นรูปแบบหน้าจอที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในปี 2021 โดยเรากำลังสำรวจวิธีการอื่นๆ ที่จะนำสิ่งที่ดีที่สุดจาก YouTube มาสู่หน้าจอทีวี และช่วยให้ผู้ชมสามารถใช้โทรศัพท์โต้ตอบกับวิดีโอ YouTube ที่รับชมผ่านหน้าจอทีวีได้ง่ายยิ่งขึ้น
การเรียนรู้
ในทุกๆ วันมีผู้ใช้เข้ามายัง YouTube เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบ้าน การสำรวจสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ หรือการพัฒนาทักษะสำหรับนำไปเริ่มต้นอาชีพใหม่ ครีเอเตอร์และสถาบันการศึกษาเลือกใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อให้การเรียนรู้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ในปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวช่อง Mi Aula ในเม็กซิโกและอาร์เจนตินา โดยร่วมมือกับ UNESCO เพื่อจัดทำวิดีโอส่งเสริมหลักสูตรมัธยมศึกษาให้แก่นักเรียนในประเทศเหล่านี้ และในปีนี้ เราจะขยายโครงการนี้ไปสู่นักเรียนในบราซิลผ่านช่อง YouTube EDU ด้วย
เรามุ่งมั่นที่จะทำให้จำนวนผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมกับเนื้อหาด้านการศึกษาบน YouTube เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และพยายามก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายดังกล่าวโดยอาศัยฟีเจอร์ใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ผู้ชมค้นพบแนวทางการเรียนรู้ที่ดียิ่งกว่า
ความยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาเร่งด่วนสำหรับเราทุกคน ปีนี้เราจะเดินหน้าสนับสนุนครีเอเตอร์ที่เน้นประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยส่งเสริมเนื้อหาเชิงบวกเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่มีในแพลตฟอร์มของเรา เรารู้สึกดีใจที่ได้เห็นครีเอเตอร์อย่าง Jack Harries และ Sejal Kumar เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ในปีที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันทำให้ COP26 เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน เราจึงตั้งปณิธานที่จะเป็นบริษัทซึ่งมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งกว่า
การสนับสนุนงานของครีเอเตอร์
ความเห็นเกี่ยวกับการไม่แสดงจำนวนการกดไม่ชอบ
เราได้ยินผู้ใช้หลายคนพูดถึงจำนวนการกดไม่ชอบแบบสาธารณะที่ถูกนำออกจาก YouTube ซึ่งฉันเองก็ทราบดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำไปสู่ประเด็นถกเถียง ผู้ใช้บางคนกล่าวว่ายอดการกดไม่ชอบช่วยในการตัดสินใจเลือกวิดีโอที่จะดู แต่สาเหตุที่ผู้ชมไม่ชอบวิดีโอก็มีได้มากมาย และบางสาเหตุก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิดีโอแม้แต่น้อย การเลือกดูวิดีโอจากยอดการกดไม่ชอบนี้จึงไม่ใช่วิธีที่เที่ยงตรงเสมอไป ด้วยเหตุนี้ยอดการกดไม่ชอบจึงไม่เคยแสดงในหน้าแรก ผลการค้นหา หรือหน้าจอ “วิดีโอถัดไป” ซึ่งมักเป็นจุดที่ผู้ใช้คลิกเลือกวิดีโอมากที่สุด
นอกจากนี้เรายังเห็นว่าจำนวนการกดไม่ชอบอาจเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศของเราบางส่วน อย่างกรณีการโจมตีผ่านปุ่มไม่ชอบที่มีกลุ่มคนจงใจพยายามที่จะเพิ่มจำนวนการกดไม่ชอบวิดีโอของครีเอเตอร์ โดยเป้าหมายของการโจมตีมักเป็นครีเอเตอร์รายเล็กและครีเอเตอร์หน้าใหม่ เราอยากให้ครีเอเตอร์ทุกคนนำเสนอตัวตนได้โดยไม่ต้องกลัวถูกล่วงละเมิด จึงได้ทดลองนำปุ่มไม่ชอบออกจากวิดีโอนับล้านเป็นเวลาหลายเดือน ผลปรากฏว่าไม่ว่าจะมองจากมุมใด เราก็ไม่เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของการรับชม ไม่ว่าจะแสดงจำนวนการกดไม่ชอบแบบสาธารณะหรือไม่ก็ตาม และที่สำคัญ วิธีนี้ช่วยลดการโจมตีผ่านปุ่มไม่ชอบได้จริง
ทั้งนี้ ครีเอเตอร์ยังสามารถดูจำนวนการกดไม่ชอบได้ใน YouTube Studio หากเห็นว่าเมตริกนี้มีประโยชน์ ส่วนผู้ชมก็ยังสามารถกดไม่ชอบวิดีโอได้เพื่อเป็นข้อมูลในการแนะนำวิดีโอ
การยึดมั่นในความเท่าเทียม ความยุติธรรมทางเชื้อชาติ และการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างไม่แบ่งแยก
กองทุน #YouTubeBlack Voices Fund
ในปีที่ผ่านมา มีครีเอเตอร์และศิลปิน 133 รายจาก 7 ประเทศเข้าร่วมโปรแกรม #YouTubeBlack Voices Fund รุ่นปี 2021 เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้พูดคุยกับ KevOnStage ครีเอเตอร์รุ่นแรกของโปรแกรม ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ได้ฟังประสบการณ์ที่เขาได้รับจากโปรแกรมนี้ นอกจากนี้เรายังเดินหน้าพัฒนาและผลิตเนื้อหาที่เน้นเรื่องราว วัฒนธรรม และแนวคิดของคนผิวดำ นับตั้งแต่เปิดตัวกองทุนนี้ เราเผยแพร่รายการไปแล้ว 12 รายการ เช่น Bear Witness, Take Action ตอนที่ 3 และ Onyx Family Dinner
ข้อมูลประชากรครีเอเตอร์
แบบสำรวจข้อมูลประชากรครีเอเตอร์มีให้บริการใน Studio แล้วตอนนี้เพื่อให้ครีเอเตอร์ในสหรัฐอเมริกาแชร์ข้อมูลเพศ รสนิยมทางเพศ เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ได้ตามความสมัครใจ ข้อมูลนี้จะช่วยให้เราแน่ใจว่านโยบายและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเราใช้ได้กับทุกคน นอกจากนี้เรายังตั้งใจที่จะทำให้ตัวเลือกนี้มีให้บริการในประเทศอื่นๆ ภายในปีนี้ด้วย
ครีเอเตอร์ที่เป็นกระบอกเสียงให้แก่ชุมชนของตน
ในปีที่ผ่านมา ครีเอเตอร์จำนวนมากได้มีส่วนร่วมในซีรีส์เฉลิมฉลองเดือนไพรด์ที่จัดขึ้นเพื่อระดมเงินให้กับ The Trevor Project และในปีที่ผ่านมา Eugene Lee Yang จากช่อง The Try Guys ได้จัดทำสารคดีที่น่าสนใจเรื่อง We Need To Talk About Anti-Asian Hate นอกจากนี้เขายังได้ร่วมมือกับ Jay Shetty, Asia Jackson รวมถึงครีเอเตอร์และนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ในซีรีส์ Recipe for Change บน YouTube Originals ที่จัดทำขึ้นเพื่อเชิดชูวัฒนธรรมของชาวเอเชียและชาวหมู่เกาะแปซิฟิก (API)
การปกป้องชุมชน YouTube
การยึดมั่นในหน้าที่ความรับผิดชอบคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ
ความพยายามที่จะสนับสนุนและคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ให้กับชุมชนครีเอเตอร์ล้วนมีรากฐานมาจากความมุ่งมั่นที่จะปกป้องชุมชนด้วยความรับผิดชอบ การจัดการกับการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและเนื้อหาที่เป็นอันตรายอื่นๆ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้เปลี่ยนรูปแบบการบังคับใช้นโยบายในวงกว้างผ่านการลงทุนในแมชชีนเลิร์นนิง โดยเมื่อปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวเมตริกใหม่ที่เรียกว่าอัตราการดูที่ละเมิด (Violative View Rate หรือ VVR) ในรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube VVR จะติดตามเปอร์เซ็นต์ยอดดูบน YouTube ซึ่งมาจากเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายของเรา ในไตรมาสที่ 3 ปี 2021 อัตราการดูที่ละเมิดบน YouTube อยู่ที่ 0.09-0.11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าในจำนวนการดูวิดีโอบน YouTube ทุกๆ 10,000 ครั้ง จะมีการดูวิดีโอที่ละเมิดกฎของเราจำนวน 9-11 ครั้ง ซึ่งลดลงมากกว่า 70% ระหว่างปี 2017 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2021
เรากำลังดำเนินการลดเนื้อหาในส่วนของวิดีโอแนะนำที่ขัดกับแนวนโยบายของเรา ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เหมือนจะละเมิดแต่ไม่ได้ละเมิด เราตั้งเป้าที่จะรักษาการดูเนื้อหาที่ “เสี่ยงต่อการละเมิด” นี้ให้ต่ำกว่า 0.5% ของการดูบน YouTube อีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญไมแพ้กันก็คือสิ่งที่เราทำเพื่อนำพาผู้ใช้ไปยังข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือในหัวข้อที่สำคัญ เช่น ข่าวสารและสุขภาพ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ระหว่างที่เราปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ก็มีเสียงเรียกร้องให้เพิ่มความโปร่งใสมากขึ้น เราจึงอยากส่งเสริมให้มีการศึกษาค้นคว้าในหัวข้อเหล่านี้มากขึ้นในอนาคต และกำลังจัดทำแผนสำหรับเพิ่มข้อมูลที่มีให้แก่นักวิจัย
เราเชื่อว่าเด็กๆ สมควรได้รับการปกป้องในระดับที่สูงขึ้น
ในฐานะคุณแม่ลูกห้า ฉันคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กๆ ในโลกออนไลน์เสมอ เราจึงร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กเพื่อออกแบบประสบการณ์ให้เหมาะกับทุกคนบน YouTube และกำหนดมาตรฐานให้ปกป้องเด็กได้อย่างเหมาะสมในทุกช่วงวัยของชีวิต
เมื่อ 6 ปีก่อน เราได้เปิดตัว YouTube Kids เพื่อสร้างพื้นที่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีได้เข้าถึงวิดีโอที่เหมาะสมกับวัย และเมื่อปีที่แล้วก็ได้เปิดตัวประสบการณ์การใช้งานภายใต้การควบคุมดูแลสำหรับผู้ปกครองของเด็กที่เข้าสู่วัยรุ่นซึ่งเชื่อว่าลูกๆ พร้อมสำรวจโลก YouTube แล้ว นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวการปกป้องรูปแบบใหม่สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เช่น การกำหนดค่าเริ่มต้นให้อัปโหลดแบบส่วนตัว การเปิดฟังก์ชันปกป้องไลฟ์สไตล์ดิจิทัล การปิดฟังก์ชันเล่นอัตโนมัติ และการบล็อกไม่ให้กำหนดเป้าหมายโฆษณาเป็นผู้ใช้เหล่านี้ เราจะเดินหน้าปรับปรุงคุณภาพเนื้อหาสำหรับเด็กต่อไปในปีนี้
ภาพรวมด้านระเบียบข้อบังคับ
เราจะเดินหน้าประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อพูดคุยถึงประเด็นที่ผู้ชม ครีเอเตอร์ และศิลปินบนแพลตฟอร์มให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้กำหนดนโยบายควรเข้าใจว่าการตัดสินใจของตนส่งผลต่อรายได้ของครีเอเตอร์ที่กำลังเติบโตอย่างไรบ้าง
อย่างที่ฉันเคยเขียนใน Wall Street Journal ว่าเราสนับสนุนให้มีระเบียบข้อบังคับ เพราะไม่ว่าอย่างไร เราก็ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอยู่แล้วในขณะนี้ แต่เราก็มีความกังวลถึงระเบียบข้อบังคับใหม่ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนครีเอเตอร์โดยทางอ้อม โดยเฉพาะระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการแสดงออกทางกฎหมาย โดยปัญหาสำคัญที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในปีนี้มีดังต่อไปนี้
DSA: ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่ากฎหมายบริการดิจิทัล (Digital Services Act หรือ DSA) ที่มีการเสนอในสหภาพยุโรปอาจหมายรวมถึงการแสดงออกในโลกออนไลน์ หลังจากผ่านไป 2 ปี กฎหมายนี้กำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย และเรากำลังร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อสนับสนุนกรอบการทำงานร่วมกันในด้านการคุ้มครองผู้บริโภคทางดิจิทัลของประเทศสมาชิกที่ยังคงอนุญาตให้ YouTube ให้บริการผู้ใช้ของเราอย่างดีที่สุด
เราสนับสนุนเป้าหมายในการสร้างกรอบการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อดิจิทัลในประเทศสมาชิกให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ข้อกำหนดบางอย่างอาจทำให้ YouTube ช่วยค้นหาเนื้อหาคุณภาพสูงที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ได้ยากขึ้น
มาตรา 17: เรายังเดินหน้าประสานงานกับประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรประหว่างที่ประเทศเหล่านี้นำมาตรา 17 (ก่อนหน้านี้คือมาตรา 13) จากข้อบังคับด้านลิขสิทธิ์ของสหภาพยุโรปไปผนวกในกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งตลอดทั้งกระบวนการนั้นการมีส่วนร่วมของครีเอเตอร์ช่วยสร้างความแตกต่างได้ ต้องขอขอบคุณครีเอเตอร์ทุกคนที่ช่วยทำให้มั่นใจว่ากฎหมายนี้สามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างไรบ้าง
ในปีนี้ เราจะประสานงานกับผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกเพื่อให้การสนับสนุนในนามของชุมชน YouTube
YouTube ตั้งตารอสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เราให้ความสำคัญกับการสนับสนุนครีเอเตอร์และศิลปินที่ยกให้ YouTube เป็นบ้านหลังที่ 2 ตลอดจนผู้คนทั่วโลกที่แวะเข้ามาเติมความสดใสเล็กๆ ให้กับชีวิตผ่านแพลตฟอร์มของเราในทุกๆ วัน
