เปิดตัวได้สมกับการเป็นสมาร์ทโฟนที่ชูจุดเด่นเรื่องกล้องมาตลอด สำหรับ Huawei Mate 30 และ Mate 30 Pro ทั้งกล้องที่มีความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K-60fps ทำงานร่วมกับกล้อง 3D Depth Sensing สามารถ่ายถ่ายวิดีโอและมีเอฟเฟกโบเก้ ใช้หน่วยประมวลผใหม่ล่าสุด Kirin 990 รองรับการชาร์จไร้สาย และรายละเอียดอื่นๆ ดังนี้
Huawei Mate 30 Pro พี่ใหญ่ที่มาพร้อมกับดีไซน์จอโค้งที่เกือบสุดขอบ โดยจะไม่มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่มเปิดเครื่อง เป็นการใช้งานสัมผัสบนจอแทน ซึ่งจอทำมุมโค้งถึง 88 องศา เรียกว่า HUAWEI Horizon Display บนจอ Flex OLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1176 พิกเซล อัตราส่วน 18.5 : 9 จอแสดงผลสีแบบ DCI-P3, HDR 10 ให้สีสมจริงไม่ผิดเพี้ยน
รองรับการใช้งานปากกา M-Pen ขีดเขียนสมจริงด้วยแรงกดได้ 4,096 ระดับ โดยที่บริเวณกล้องหน้าจะมีเซ็นเซอร์ Gesture ทำให้สามารถใช้งานสั่งการด้วยทางท่าได้บนหน้าจอโดยไม่ต้องสัมผัส เรียกว่าฟังก์ชั่น Air Gesture และรองรับการใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอ
มาพร้อมหน่วยประมวลผลใหม่ล่าสุด HiSilicon Kirin 990 Octa-core ความเร็ว 2.86 GHz ขนาด 7nm+ ทำงานได้เร็วและประหยัดขึ้น 23% และยังเป็นชิปเซ็ตที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ใช้ GPU Mali-G76 MP16 ซึ่งได้อัปเกรด GPU Turbo ทำให้การแสดงผลด้านกราฟิกดีขึ้น พร้อมกับระบบระบายความร้อนเทคโนโลยีฟิล์มกราฟีนทำงานได้ดีขึ้น
โดยจะมี RAM 8GB, ROM 128/256GB รองรับช่องเสียบการ์ด NM สูงสุด 256 GB, แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh ชาร์จเร็ว SuperCharge 40W โดยรองรับชาร์จไร้สาย 27W และเป็นแบตฯ สำรองไร้สาย Wireless Reverse Charge ใช้งานชาร์จให้อุปกรณ์อื่นเร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า
กล้องถ่ายรูป Huawei Mate 30 Pro
Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมกล้อง 3 เลนส์ และ 1 เซ็นเซอร์ ที่ยังได้พันธมิตรที่ดีอย่าง Leicซึ่งจะแบ่งออกเป็น
- กล้อง Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40MP (18มม.) f/1.8
- กล้อง SuperSensing Wide ความละเอียด 40MP (27มม.) f/1.6 (OIS)
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (27มม.) f/2.4 (OIS)
- 3D Depth Sensing
กล้องถ่ายรูปดัน ISO ได้สูงสุด 409600 ส่วนเรื่องการถ่ายวิดีโอก็ดีไม่แพ้กัน สามารถใช้งานวิดีโอ 4K 60fps (ครั้งแรกสำหรับ Huawei) รวมถึงการถ่าย Ultra Slow Motion ที่ 7680 fps เก็บความเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ได้เหมือนกล้องโปร นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เช่นกัน ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และยังมีกล้อง 3D TOF
สเปกตัวเครื่อง Huawei Mate 30 Pro
• หน้าจอแสดงผลวัสดุ Corning Gorilla Glass 6 แบบ HUAWEI Horizon Display ขอบข้างโค้ง 88 องศา เทคโนโลยี Flex OLED กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1176 พิกเซล
• อัตราส่วน 19.5:9 (406 ppi), รองรับ HDR 10, DCI-P3
• CPU HiSilicon Kirin 990 (7 nm+) ความเร็ว 2.86 GHz
• GPU Mali-G76 MP16
• RAM 8GB, ROM 128/256GB, UFS3.0
• สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Face ID
• กล้องหลัง
กล้อง Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40MP (18มม.) f/1.8
กล้อง SuperSensing Wide ความละเอียด 40MP (27มม.) f/1.6 (OIS)
กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (27มม.) f/2.4 (OIS)3x optical zoom
3D Depth Sensing
• กล้องหน้า
กล้อง Wide 32MP
3D TOF camera
• รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Standby (Nano SIM + Nano SIM หรือ NM (Nano Memory) สูงสุด 256GB
• ระบบปฎิบัติการ EMUI 10 based on Android 10
• แบตเตอรี่ 4500 mAh ชาร์จเร็ว SuperCharge 40W, รองรับชาร์จไร้สาย 27W
• กันน้ำ-กันฝุ่น IP68
• ขนาด 158.1 x 73.1 x 8.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 198 กรัม
• สี : Black, Space Silver, Cosmic Purple, Emerald Green
Huawei Mate 30
ส่วน Huawei Mate 30 จะมีหน้าจอที่มีรอยบากเล็กกว่า เป็นจอ Rigid OLED ขนาด 6.62 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล มีเทคโนโลยีแสดงผลแบบ DCI-P3, HDR 10 เหมือนรุ่นพี่ โดยที่หน้าจอยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งจะทำงานด้วยหน่วยประมวลผล HiSilicon Kirin 990 Octa-core ความเร็ว 2.86 GHz, RAM 6/8GB, ROM 128GB และแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับการชาร์จเร็วเหมือน Mate 30 Pro
เรื่องของกล้องถ่ายรูปก็ยังมี 3 เลนส์ และ Laser Focus แบ่งออกเป็น
- กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 16MP (17มม.) f/2.2
- กล้อง SuperSensing Wide ความละเอียด 40MP (27มม.) f/1.8 8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (80มม.) f/2.4 (OIS)
- Laser Focus
กล้องสามารถ่ายในที่แสงน้อย รวมถึงค่า ISO สูงสุด 204800 รองรับการถ่ายมาโครที่ระยะ 2.5 ซม. มีระบบกันสั่น OIS+AIS และกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล f/2.0 รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30fps
สเปกตัวเครื่อง Huawei Mate 30
• หน้าจอแสดงผล เทคโนโลยี Rigid OLED กว้าง 6.62 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
• อัตราส่วน 19.5:9 (389 ppi), รองรับ HDR 10, DCI-P3
• CPU HiSilicon Kirin 990 (7 nm+) ความเร็ว 2.86 GHz
• GPU Mali-G76 MP16
• RAM 6/8GB, ROM 128GB, UFS3.0
• สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Face ID
• กล้องหลัง
กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 16MP (17มม.) f/2.2
กล้อง SuperSensing Wide ความละเอียด 40MP (27มม.) f/1.8 8
กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (80มม.) f/2.4 (OIS)
Laser Focus
• กล้องหน้า
กล้อง 24MP f/2.0
• รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Standby (Nano SIM + Nano SIM หรือ NM (Nano Memory) สูงสุด 256GB
• ระบบปฎิบัติการ EMUI 10 based on Android 10
• แบตเตอรี่ 4200 mAh ชาร์จเร็ว SuperCharge 40W, รองรับชาร์จไร้สาย 27W
• กันน้ำ-กันฝุ่น IP53
• ขนาด 160.8 x 76.1 x 8.4 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 1968 กรัม
• สี : Black, Space Silver, Cosmic Purple, Emerald Green
ทั้ง 2 รุ่นจะทำงานบนระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 ที่มีการปรับแต่ง UI ให้สายงามและทันสมัยขึ้น รวมถึงโหมดมืดที่ช่วยให้การใช้งานเมื่อแสงน้อยทำได้ดี สบายตา ทั้งยังมี Always-on Display ที่ให้เลือกใช้หลายแบบ แสดงผลเหมือนหน้าปัดนาฬิกา และฟังก์ชั่นอื่นๆ
แต่ข่าวร้ายคือไม่รองรับ Google Play Services หรือแอพพลิเคชั่นของ Google แต่จะหันมาใช้ Huawei Mobile Services และ AppGallery แทน
ราคา และสีที่วางจำหน่าย
Huawei Mate 30 Pro และ Huawei Mate 30 จะมีตัวเลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Black, Space Silver, Cosmic Purple และ Emerald Green วางจำหน่ายในราคา
** รุ่นพิเศษผลิตจากหนังวีแก้น เป็นตัวเลือกของสีส้ม และสีเขียว
- Huawei Mate 30 Pro (RAM 8GB, ROM 256GB) ราคา €1099 ประมาณ 37,000 บาท
- Huawei Mate 30 Pro 5G (RAM 8GB, ROM 256GB) ราคา €1199 ประมาณ 40,500 บาท
- Huawei Mate 30 (RAM 8GB, ROM 128GB ราคา €799 ประมาณ 27,000 บาท
