พรีวิว Vivo NEX 3 จอ Waterfall Screen โค้ง 90 องศา ไร้ปุ่ม แรงด้วย CPU Snapdrogon 855+

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Vivo NEX 3 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำ ทั้งหน้าจอแสดงผลขอบโค้งที่เรียกว่า Waterfall Screen ที่เรียกว่าแทบจะเหลือขอบน้อยมาก ใส่หน่วยระมวลผลที่แรงสุดอย่าง Snapdrogon 855+ มาพร้อมกับ RAM 8GB, ROM 128GB กล้องหนัง3 เลนส์ กล้องหน้า Pop Up ทั้งยังมี แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับ Vivo Fast Charge 22.5W ระบบเสียง Hi-Fi ในราคาเปิดตัว 24,999 บาท

Vivo NEX 3 ครั้งแรกที่เห็นต้องบอกว่าสะดุดกับความสวยงามของตัวเครื่องที่เรียกว่าดูดีเลยทีเดียว แต่จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่บางจับถนัดมือ โดยมีขนาดอยู่ที่ 76.1×167.4×9.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 217 กรัม

หน้าจอแสดงผลที่มีความโดดเด่นเรียกว่า Waterfall Screen ออกแบบด้สนดีไซน์โค้งลงมาขอบข้างถึง 90 องศา ให้อารณ์เหมือนน้ำตกที่ไหลลมา แสดงผลได้กว้างเต็มพื้นที่กว่า 99.6% บนหน้าจอที่ขนาดใหญ่ 6.89 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2256×1080 พิกเซล ทั้งยังรองรับ HDR 10 เพื่อการแสดงผลสมจริงและสวยงาม และไม่ต้องกลัวว่ามือไปโดนขอบแล้วจะเข้าแอพฯ โน้นนี่นั่น เพราะตรงบริเวณดังกล่าวเมื่อโดนนิ้วของเราจะไม่สามารถใช้งานได้

นอกจากนี้ จะเห็นว่าหน้าจอแทบจะไม่มีขอบใดๆ เหลือแล้ว จะมีเพียงแถบดำด้านบนที่เป็นส่วนของช่องลำโพงเสียงสนทนา และแถบด้านล่างเพียงเล็กน้อย ส่วนปุ่มควบคุมการใช้จะอยู่หน้าจอ และเหนือปุ่มจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

กล้องหน้าถูกไปใส่ไว้ในรูปแบบ Pop Up ด้านบนตัวเครื่อง ซึ่งยังเป็นเลนส์เดี่ยว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Soft Light และตัวเครื่องด้านบนยังมีรูหูฟัง 3.5 มาใช้ พร้อมกับปุ่มเล็กๆ สำหรับกดเพื่อเปิดหน้าจอ แต่จริงๆ แล้วคือใช้ด้านข้างได้

Vivo NEX 3 มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง แบบ Nano SIM และช่องลำโพงเสียงที่ด้านล่างตัวเครื่อง

ตัวเครื่องด้านซ้ายไม่มีปุ่มใดๆ ส่วนด้านขวาก็รียกว่าไม่ปุ่ม แต่ออกมาในรูปแบบการกดโดยสัมผัส หรือเรียกว่า Touch Sense สำหรับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ซึ่งจะมีสัญญาลักษณ์แสดงให้เห็นอยู่ เป็นการใช้เซ็นเซอร์ถึง 7 ตัวที่รองรับการกด

ตัวเครื่องด้านหลังโค้งมน เป็นกระจกเงา เกิดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย ด้านบนเป็นกล้องหลัง 3 เลนส์ ที่อยู่ในวงกลม เรียกการออกแบบว่า Lunar Ring Camera โดยที่กล้องเลนส์หลักจะมีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายไฟล์ RAW ตัวที่ 2 เป็นเลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 13ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง Super Marco ระยะ 2.5 ซม. และสุดท้ายเป็นเลนส์ Telephoto 13 ล้านพิกเซล ซูมออปติคอล 2 เท่า และดิจิตอลซูม 20 เท่า ทั้งยังมีเลนส์ที่ช่วยการถ่าย Portrait ได้ที่ระยะ 52 มม.

นอกจากนี้ เรื่องของการถ่ายรูปกลางคืนจะมีตัวช่วยในโหมด Super Night Mode 2.0 ที่จะซ้อนภาพหลายภาพเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด

Vivo NEX 3 วางขายในไทยในรุ่นสีดำ Glowing Night ราคา 24,999 บาท เปิดจองแล้วตั้งแต่ 16 กันยายน 2562 ผ่านทาง Lazada และวางขายจริง 30 กันยายนนี้

สเปกตัวเครื่อง Vivo NEX 3

• หน้าจอแสดงผล Waterfall Screen ขอบข้างโค้ง 90 องศา ขนาดกว้าง 6.89 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2256 พิกเซล รองรับ HDR 10
• อัตราส่วน 19:9 พื้นที่ใช้งาน 99.6% (363 ppi)
• ตัวเครื่องไร้ปุ่มกด ใส่เป็นเซ็นเซอร์ Touch Sense
• CPU Snapdrogon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
• GPU Adreno 640
• RAM 8GB/ROM 128GB
• สแกนนิ้วบนหน้าจอ
• กล้องหลัง 64MP (RAW) + Super Wide-Angle 120 องศา 13MP/Super Marco + Telephoto 13MP
• กล้องหน้า 16MP
• รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Standby (Nano SIM + Nano SIM)
• ระบบปฎิบัติการ Funtouch 9.0 based on (Android 9.0 Pie)
• แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับ Vivo Fast
Charge 22.5W
• ชิปเสียง AK4377A ระบบเสียง Hi-Fi
• ขนาด 76.1×167.4×9.4 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 217 กรัม
• สี ดำและน้ำเงิน

แสดงความคิดเห็น