Redmi Note 14 Pro+ 5G เผยโฉมสีใหม่ Sand Gold ที่ให้ความพรีเมียม หรูหรา ของสีน้ำตาลทอง อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพเต็มพลัง โดดเด่นด้วยกล้อง AI 200MP ตัวเครื่องออกแบบให้มีความทนทานรอบด้าน พร้อมทั้งมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP68 และขับเคลื่อนด้วย ชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 3 ใช้งานได้ทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5110mAh รองรับชาร์จไว 120W

จุดเด่นของ Redmi Note 14 Pro+ 5G
ดีไซน์สวย สีใหม่ Sand Gold
ตัวเครื่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Sand Gold มาพร้อมดีไซน์พรีเมียม ด้วยขอบเครื่องโค้งเงา โดยที่ฝาหลังแบ่งเป็นตรงกลางเป็นลวดลายเส้น และขอบด้านข้างเป็นผิวเรียบเงาเข้ากันอย่างลงตัว


การวางพอร์ตต่างๆ ก็ทำได้สวยงาม ด้านบนตัวเครื่องมาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องลำโพงเสียงของตัวเครื่อง

ส่วนตัวเครื่องด้านล่างมีถาดใส่ซิม มาพร้อมกับไมโครโฟนอีก 1 ตัว ถัดมาเป็นชื่อมต่อแบบ USB Type – C และสุดท้ายเป็นช่องลำโพงเสียงของตัวเครื่อง

ด้านขอบข้างซ้ายมีลักษณะเงาไม่มีพอร์ตใดๆ แต่ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่มีขนาดเล็กเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง

ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมมุมโค้ง โดยบริเวณโมดูลกล้องออกแบบเป็นสีดำซึ่งตัดกันได้อย่างลงตัวกับสี Sand Gold และมีกล้องทั้งหมด 3 เลนส์

กล้อง AI คมชัด 200MP
Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งออกเป็น

- กล้องหลัก 200MP เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว รูรับแสงกว้าง f/1.65 รองรับ OIS
- กอ้งเลนส์กว้างพิเศษ 8MP
- กล้องมาโคร 2MP
กล้องหลักคมชัดความละเอียด 200MP สามารถบันทึกภาพได้อย่างสมบูรณ์ให้สีสันสดใส มาพร้อมอัลกอริทึม End-to-End (E2E) AI Remosaic ช่วยประมวลผลภาพได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม

หน้าจอ 1.5K CrystalRes สว่าง 3000nits
หน้าจอของ Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นจอที่มีความแข็งแกร่ง ใช้วัสดุ Corning Gorrilla Glass Victus 2 ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังใช้จอเทคโนโลยี AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 446PPI และเป็นจอที่ให้ความสว่างสูงสุด 3000nits มีสีสันตรงกับมาตรฐาน 100% DCI-P3 ทำให้ได้จอภาพที่มีสีสันสดใส ให้ประสบการณ์รับชม content บนหน้าจอได้อย่างงดงาม

หน้าจอยังมีมาตรฐานถนอมสายตา ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland สามารถปรับโหมดให้ใช้งานตรงกับสภาพแวดล้อมขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็น โหมดคลาสสิค โหมดสีเข้ม และโหมด Cycle ช่วยให้การใช้งานบนหน้าจอด้านๆไม่มีอาการเมื่อยล้าต่อดวงตา

หน้าจอแสดงผลของ Redmi Note 14 Pro+ 5G ยังตอบสนองการสัมผัสได้เร็วถึง 2560Hz และใช้งานได้รวดเร็ว มีความลื่นไหล ทั้งการใช้งานกับแอปพลิเคชั่นที่รองรับ หรือแม้แต่การใช้งานเมื่อเปิดโหมด Game Terbo ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินและใช้งานได้ไม่สะดุด
ลำโพงคู่ เอฟเฟกต์เสียงระดับมืออาชีพ
ความบันเทิงจัดเต็มทั้งบนหน้าจอ และยังมาพร้อมกับลำโพงคู่รองรับ Dolby Atmos ให้เสียงชัดเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ รับฟังรายละเอียดต่างๆได้อย่างมีชีวิตชีวา ด้วยระบบเสียงที่มีพลังอย่างเต็มรูปแบบ

ชิปเซ็ตทรงพลัง Snapdragon 7s Gen 3
ประสิทธิภาพด้านการทำงานจัดเต็ม ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 3 ขนาด 4 นาโนเมตร มีการอัพเกรดประสิทธิภาพ AI ขึ้นกว่า 30% รวมถึงการใช้งานทั่วไป ทั้งการเปิดแอปฯ สลับไปมา ดาวน์โหลดเกม หรือข้อมูลต่างๆก็ทำได้อย่างรวดเร็ว

ความทนทานรอบด้าน
Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นระดับ IP68 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับแฟลกชิป นั่นหมายความว่าสามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานถึง 30 นาที โดยที่เครื่องไม่ได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Wet Touch เมื่อหน้าจอถูกน้ำ หรือมือมีเหงื่อ คราบมัน ยังสามารถใช้งานบนหน้าจอได้อย่างราบรื่น ตอบสนองเร็วเหมือนหน้าจออยู่ในสภาพปกติ

ตัวเครื่องยังออกแบบให้มีความแข็งแกร่งและทนทานยิ่งขึ้น ด้วยการใช้อะลูมิเนียมคอมโพสิตความแข็งแรงสูง ทำให้อุปกรณ์โดยรวมแข็งแรงขึ้น 10% ทั้งยังเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง ใช้วัสดุบัฟเฟอร์โพลิเมอร์ ช่วยดูดซับและกันกระแทกหากเครื่องตกกระทบพื้นจะลงได้อย่างนุ่มนวล เรียกว่ามีการออกแบบใส่ใจทั้งด้านวัสดุ และภายในตัวเครื่อง ทำให้ผู้ชายมั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้มีความแข็งแรงน่าใช้
แบตฯ ใหญ่ ชาร์จไว 120W Hypercharge
แบตเตอรี่ให้มาที่ความจุขนาดใหญ่ 5110mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวันแม้แต่การชาร์จเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จบ่อย โดยที่เราเล่นโซเชียลได้มากกว่า 19 ชั่วโมง หรือใช้เพื่อดูแผนที่นำทางได้มากกว่า 15 ชั่วโมง เป็นอีกรุ่นที่มีแบตเตอรี่ใหญ่และประหยัดพลังงาน

การจัดการพลังงานแบตเตอรี่ของ Redmi Note 14 Pro+ 5G ยังได้ Xiaomi Surge เข้ามาช่วยจัดการอายุแบตเตอรี่ เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานในแต่ละวัน แนะนำไปปรับเป็นแรงดันไฟและกระแสไฟแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น รักษาอายุแบตเตอรี่ที่ 80% หลังจากการชาร์จ 1,600 รอบ หรือใช้ได้นานมากกว่า 4 ปี โดยที่แบตไม่เสื่อม
นอกจากนี้หากใครต้องการชาร์จก็ไม่ต้องกังวล เพราะมาพร้อมกับชาร์จไว Hypercharge 120W ชาร์จเต็มเร็วไม่ต้องรอข้ามคืน และมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ชาร์จไว 120W ในกล่องโดยที่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

ประสบการณ์ AI
Redmi Note 14 Pro+ 5G นอกจากตัวเครื่องจะมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยม ยังรองรับการใช้งาน AI ที่มีความแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น
- AI Erase Pro ลบสิ่งที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้ง่ายๆด้วยยางลบโปร AI ได้ในคลิกเดียว
- Gemini ผู้ช่วยที่เป็นการให้บริการของ Google ที่ใช้ในการสอบถามข้อมูล เส้นทางการเดินทาง ค้นหาสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
- Circle to Search เพียงใช้นิ้ววงกลมหรือคลิกที่รูปภาพเพื่อค้นหาและทราบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว


สรุป
Redmi Note 14 Pro+ 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมประสิทธิภาพครบครัน หน้าจอใหญ่ใช้งานง่าย ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวแรง มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และรองรับชาร์จเร็ว เรียกว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสีใหม่อย่าง Sand Gold ที่มาพร้อมกับความหรูหรา พรีเมี่ยม เมื่อสะท้อนกับแสงให้ความเปล่งประกายสวยงามทุกมิติ

สเปค Redmi Note 14 Pro+ 5G
- หน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 (ความละเอียด 1.5K)
- เทคโนโลยีหน้าจอ : รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 3000nits, ช่วงสีกว้าง DCI-P3, Corning® Gorilla® Glass Victus® 2
- ชิปเซ็ต Snapdragon® 7s Gen 3 Octa-Core สูงสุด 2.5GHz
- RAM 12GB + ROM 512GB
- GPU Adreno
- กล้องหลัก 200MP, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/1.65, OIS
- กล้องเลนส์กว้างพิเศษ 8MP, f/2.2
- กล้องมาโคร 2MP, f/2.4
- กล้องหน้า 20MP, f/2.2
- ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วใต้หน้าจอ, AI ปลดล็อกด้วยใบหน้า, รหัสผ่าน
- รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi: Wi-Fi 6/6E/Wi-Fi 5/Wi-Fi 4/802.11a/b/g, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : Xiaomi HyperOS
- แบตเตอรี่ 5110mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge
- กันน้ำ – กันฝุ่น IP68
- ขนาดตัวเครื่อง 162.53 x 74.6 x 8.75 มม.
- น้ำหนัก 210.14 กรัม
ราคาและการจัดวางจำหน่าย
Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Sand Gold วางจำหน่ายเฉพาะที่ Xiaomi Online Store เท่านั้น ในรุ่นความจุ RAM 12GB + ROM 512GB ในราคาพิเศษ 13,990 บาท* (จากราคาปกติ 14,990 บาท) พร้อมมอบของสมนาคุณฟรี Redmi Watch 4และ Xiaomi Fan Festival Sport Bag & Sport Cap พรอ้มประกัน มูลค่านวมกว่า 16,070 บาท* เฉพาะที่ Xiaomi Store ในระหว่างวันที่ 6-30 เมษายนนี้ เท่านั้น!!
