vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟน X-series ที่เรียกว่าเป็นรุ่นที่เน้นกล้องถ่ายรูปด้วยการทำงานร่วมกับ ZEISS และแน่นอนว่านอกเหนือจาก vivo X70 และ vivo X70 Pro แล้ว ยังมีอีกรุ่นท๊อปของซีรีย์คือ vivo X70 Pro+ ที่จัดเต็มทั้งเรื่องหน้าจอ ชิป และแบตฯ
vivo X70 Pro+ เป็นสมาร์ทโฟนพี่ใหญ่ตัวท๊อปที่มาพร้อมหน้าจอ Samsung E5 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 3,200 x 1,440 พิกเซล และรองรับ HDR
จอแสดงผลใหม่นี้ใช้แผง LTPO นั่นก็คือจะค่อยๆ ปรับอัตราการรีเฟรชในช่วง 1 Hz ถึง 120Hz ตามการใช้งานที่รองรับ โดยที่จอ Samsung E5 ยังใช้พลังงานน้อยกว่าแผง E4 รุ่นเก่าถึง 25%
ในส่วนของชิปเซ็ตก็จัดตัวท๊อปอย่าง Snapdragon 888+ Octa-Core ความเร็ว 2.995 GHz เพิ่มประสิทธิภาพกลไก AI 20% ทำงานคู่กับ RAM LPDDR5 ความจุ 8/12GB มาพร้อม ROM 256/512GB, UFS 3.1 และเปิดตัวด้วย Origin OS 1.0 (ใช้ Android 11)
มาพร้อมกล้องถ่ายรูปหลักใช้เซ็นเซอร์ Samsung GN1 50MP รูรับแสง f/1.57 ถัดมาเป็น Ultrawide ที่มีระบบกันสั่นด้วยกิมบอล ใช้เซ็นเซอร์ IMX598 48MP มุมกว้าง 114º ต่อมาเป็นเลนส์ Periscope lens 8MP ความยาว 125 มม. มีกันสั่น OIS รองรับ Optical Zoom 5x, Super Zoom 60x และอีกหนึ่งลนส์เป็น Portrait camera ความละเอียด 12MP ระยะ 50 มม. รูรับแสง f/1.6
นอกจากนี้ตัวเลนส์ใช้เทคโนโลยี ZEISS T* มีการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน ทั้งยังใช้กระจกที่ลดการกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดแสงสะท้อนและความคลาดเคลื่อนของสี
สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือการเพิ่มชิป V1 แบบกำหนดเองที่จัดการประมวลผลภาพและการทำ AI ขั้นสูง ใช้พลังงานน้อยลง และมี “cloud window” ที่เป็นเซรามิกอยู่ด้านข้างตัวเลนส์
vivo X70 Pro+ ยังอัปเกรดให้สามารถกันน้ำ-กันฝุ่นที่ระดับ IP68 ทำงานด้วยแบตฯ 4,500mAh ชาร์จเร็ว zippy 55W โดยตัวเครื่องด้านหลังเป็นหนังวีแกน มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ journey (ส้ม), Wilderness (น้ำเงิน) และ To black สีดำ
vivo X70 Pro+ จะวางจำหน่ายในประเทศจีนปลายเดือนนี้ โดยเริ่มต้นที่ CNY 5,500 (ประมาณ 27,800 บาท) สำหรับรุ่น RAM 8/256GB โดยที่รุ่น RAM 12/256GB ราคา CNY 6,000 (ประมาณ 30,400 บาท) และตัวท๊อปสุด RAM12/512GB ราคา CNY 7,000 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 35,000 บาท
