Fitbit Versa 3 สมาร์ทวอทช์รุ่นต่อยอดจาก Versa 2 ที่ยังดีไซน์ทันสมัยสไตล์แฟชั่น โดยอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว่าสมาร์ทวอทช์ของฟิตบิตขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำ การตรวจจับและการออกกำลังกาย ซึ่งรุ่นนี้ได้ทั้งการใส่เพื่อออกกำลังกาย หรือจะใส่ในชีวิตประจำวัน โดยที่ Fitbit Versa 3 มาพร้อม GPS ในตัว รองรับการใช้งานคำสั่งเสียงจาก Google Assistant และ Amazon Alexa Built-in ที่มีมาในเครื่อง โดยที่มีลำโพงและไมโครโฟนที่สามารถพูดหรือได้ยินเสียงจากข้อมือทันที

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี PurePulse 2.0 วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ และมี Active Zone Minutes เพื่อกำหนดเป้าหมายด้านสุขภาพในแต่ละวันให้สำเร็จ รองรับการแจ้งเตือนการเต้นของหัว วัดออกซิเจนในเลือด การออกกำลังกาย ล้างมือ เป็นต้น ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร และแบตฯ ยังอยู่ได้นาน 6 วัน หรือชาร์จเพียง 12 นาทีก็ใช้งานต่อได้ทั้งวัน

ดีไซน์ตัวเครื่อง

Fitbit Versa 3 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลสี AMOLED แบบสัมผัส ขนาด 1.5 นิ้ว โดยที่ตัวเรือนผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมขัดเงาสีทองสำหรับสายสีน้ำเงินและสายสีชมพู โดยถ้าเป็นสายสีดำจะเป็นตัวเรือนสีดำเช่นกัน

หน้าจอแสดงผลสีสดใสคมชัด ใช้งานด้วยการสัมผัสปัดไปทางซ้าย-ขวา และขึ้น-ลง โดยตัวสายจะเป็นวัสดุซิลิโคนแบบนิ่มสวมใส่สบาย ออกแบบให้สายมีรูขนาดยาวเพื่อใส่ให้พอดีกับข้อมือ โดยในกล่องยังมีสายมาให้ 2 ขนาด แบบ s สำหรับข้อมือขนาด 5.5- 7.1 นิ้ว และไซส์ L ขนาด 7.1 – 8.7 นิ้ว

การใส่สมาร์ทวอชก็สอดสายด้านที่เจาะรูเข้ากับห่วงที่ปลายสายอีกฝั่ง จากนั้นเลือกรูที่พอดีกับขนาดข้อมือแล้วกดให้แน่น และเก็บปลายสายเข้ากับช่องด้านใน เมื่อใส่จะไม่มีปลายสายออกมาให้เกะกะ ใส่ได้กระชับ สบาย น้ำหนักเบา

ตัวสายสามารถถอดเปลี่ยนได้โดยการกดสลักที่ด้านลงเบาๆ แล้วดึงสายออก เวลาที่ใส่กลับก็เพียงให้สายตรงกับร่องที่กำหนดไว้ เท่านี้สายกับตัวเรือนก็ล็อคเข้าหากันสนิทแล้ว

ตัวเรือนด้านซ้ายเป็นปุ่มกดที่ตอบสนองการใช้งานด้วยการสั่น ซึ่งจะไม่เห็นมีปุ่มนูนๆ ออกมาจากตัวเครื่อง และถัดไปข้างๆ เป็นไมโครโฟนสำหรับใช้งานคำสั่งเสียง หรือสนทนาโทรศัพท์

ส่วนตัวเรือนด้านขวาจะเป็นช่องลำโพงเสียงและไมโครโฟนอีกหนึ่งตัว

ด้านหลังตัวเรือนของ Fitbit Versa 3 จะมีแผงเซ็นเซอร์สีดำติดอยู่บนกรอบอีกที ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ต่างๆ และจะเห็นมีพอร์ตสีทอง 4 ด้าน ใช้สำหรับยึดติดกับแป้นชาร์จแบบแม่เหล็กที่รองรับการใช้งานร่วมกับ Fitbit Sense ได้เช่นกัน

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • Fitbit Versa 3
  • สายเปลี่ยนไซส์ L
  • แท่นชาร์จแบตฯ หัวแบบ USB
  • คู่มือการใช้งาน

การเชื่อมต่อ

Fitbit Versa 3 สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฎิบัติการ iOS ตั้งแต่เวอร์ชั่น 12.2 ขึ้นไป หรือระบบปฎิบัติการ Android OS 7.0 ขึ้นไป โดยทำงานผ่านแอปพลิเคชั่น Fitbit

เมื่อเชื่อมต่อบนแอปฯ จะบอกข้อมูลของอุปกรณ์ สถานะแบตฯ คงเหลือ รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ แบ่งออกเป็น

หน้ารวมข้อมูลอุปกรณ์ ซึ่งจะมีชื่อ Fitbit Versa 3 พร้อมสถานะแบตฯ คงเหลือ รวมถึงหน้าปัดหน้า การตั้งค่าเป้าหมาย การแจ้งเตือน ซึ่งสามารถทำได้จากหน้านี้ทันที

หน้ารวมข้อมูล Today

ส่วนหน้ารวมข้อมูล Profile ก็จะแสดงข้อมูลโปร์ไฟล์ที่เชื่อมต่อและตั้งค่าไว้ ซึ่งสามารถดูข้อมูลการเชื่อมต่อที่ละเอียดได้จากหน้านี้ เช่น Active Zone Minutes, การเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, การออกกำลังกาย เป็นต้น

Discovery

หน้าที่รวบรวมคำแนะนำในการออกกำลังกาย วิธีคลายความเครียด ท่าทางการออกกำลังตามเทรนเนอร์ พร้อมบอกการปฎิบัติและวิธีที่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้คุณมีสุขภาพดีและถูกวิธี

Community
แหล่งรวมของผู้คนที่ชอบการออกกำลังกาย ทั้งผู้คนทั่วโลกที่ใช้ฟิตบิต หรือจะกลุ่มเพื่อนก็สามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อแบ่งปันข้อมูลการออกกำลังกาย สถิติ และพูดคุยเพื่อแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์

COVID-19

เนื่องจากสถานการณ์โควิดจึงทำให้ฟิตบิตได้เพิ่มแถบ COVID-19 ขึ้นมา สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ จากองค์กรอนามัยโลกหรือ WHO ซึ่งสามารถเข้าไปดูยอดผู้ป่วย คำแนะและการปฎิบัติให้ปลอดภัยจากโรคนี้ นอกจากนี้ ทาง Fitbit เองก็มีวิธีหรือเคล็ดลับในการออกกำลังกาย อยู่บ้านอย่างไรให้ปลอดภัย

หน้าปัดนาฬิกา

หน้าจอหลักก็เป็นหน้าปัดนาฬิกาที่เลือกใช้งานตามที่ต้องการ มีมากกว่า 100 แบบให้เลือกใช้ โดยหน้าปัดหลักก็จะแสดงข้อมูลวัน เวลา การเต้นของหัวใจ เป็นต้น

ปัดไปทางซ้ายจะเป็นหน้าเมนูแอปพลิเคชั่น ทั้ง Today, ออกกำลังกาย, สภาพอากาศ, จับเวลา, นาฬิกาปลุก โดยที่สามารถเลือก หรือลบแอปฯ เหล่านี้ได้ตามที่ต้องการใช้

ส่วนจากหน้าจอหลักถ้าปัดไปทางขวาจะเป็นทางลัดการตั้งค่า เช่น ปรับแสงสว่าง, ปิดการแจ้งเตือน, ปรับเสียง เป็นต้น

หากเลื่อนหน้าจอจากด้านบนลงล่าง เพื่อใช้งานดูการแจ้งเตือน

ส่วนเลื่อนหน้าจอจากล่างขึ้นบนจะเป็นข้อมูลสภาพอากาศ จำนวนก้าวเดิน การเผาผลาญ เป็นต้น

จุดเด่นและการทำงานของ Fitbit Versa 3

หน้าจอแสดงผล AMOLED มี Always On Display

Fitbit Versa 3 ต้องยอมรับว่าเป็นสมาร์ทวอชเพื่อการออกกำลังกายที่ผสานกับความเป็นแฟชั่นอย่างลงตัว ตัวหน้าจอยังมีขนาดใหญ่ใช้งานสัมผัสลื่น ทั้งยังใช้จอแบบ AMOLED ได้สีสันที่คมชัดสดใส จอสู้แสงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมี Always On Display ที่ไม่ต้องทำให้หน้าจอหลักติดตลอดเพียงแค่ต้องการดูนาฬิกา

โหมดออกกำลังกาย

โหมดออกกำลังก็มีมาให้มากกว่า 20 โหมด เช่น วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, ปีนเขา โยคะ เป็นต้น ซึ่งมีให้เลือกใช้งานเยอะและครอบคลุมการออกกำลังกายที่ใช้งานได้จริง สามารถกำหนดเป้าหมายและดูข้อมูลการออกกำลังได้

วัดอัตราการเต้นของ (24/7 Heart Rate Tracking)

Fitbit Versa 3 ใช้เทคโนโลยี PurePulse 2.0 วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีความแม่นยำสูง บอกการเต้นของหัวในในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังวิเคราะห์ออกมาเป็นกราฟให้เห็นว่าการเต้นของหัวใจอยู่ในเกณฑ์ใด

Oxygen Saturation (SpO2 – ระดับออกซิเจนในเลือด)

สำหรับการวัดออกซิเจนในเลือดจะมีหน้าปัดนาฬิกาที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งการใช้งานจะต้องวัดก่อนเข้านอน ช่วยให้เราทราบหากมีความผิดปกติจะได้แก้ปัญหาทัน

GPS ในตัว

รุ่นนี้มาพร้อม GPS ในตัว ซึ่งจะช่วยติดตามการออกกำลังกายโดยที่เราไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนออกไปด้วย หลังจากออกกำลังกายเสร็จก็สามารถดูระยะทาง เส้นทางในการออกกำลังกาย ความเร็ว การเต้นของหัวใจได้โดยสรุปอยู่บน Fitbit App ได้เลย

Active Zone Minutes

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การออกกำลังกายทำได้อย่างถูกต้อง โดยจะเป็นการกำหนดมวลร่างกาย เราจะรู้ว่าการออกกำลังแบบไหนที่ช่วยเผาผลาญได้ดี ซึ่งสมาร์ทวอชจะช่วยเตือนว่าขณะนี้การเต้นของหัวใจเท่าไหร่อยู่ในโซนไหน โดยเริ่มต้นจาก Fat Burn zone หัวใจจะเต้นอยู่ที่ราวๆ 115-138 BMP และหากออกกำลังกายเพิ่มขึ้นที่หัวใจเต้น 139-168 BMP จะเป็น Cadio และ Peak Zoon หัวใจจะเต้นตั้งแต่ 169 BMP ขึ้นไป ซึ่งในการออกกำลังกายแต่ละโซนก็จะมีคะแนนให้ ช่วยให้เราออกกำลังกายได้อย่างถูกวิธี

วัดการนอนหลับ (Sleep Stages & Sleep Score)

บอกข้อมูลการนอนในแต่ละวันว่าเพียงพอหรือมากน้อยแค่ไหนแบบละเอียด หลับลึก ตื่นบ่อย สามมารถรู้ได้หมด นอกจากนี้ ยังมีการให้คะแนนในการนอนหลับ และมีคำแนะนำเพื่อปรับปรุงการนอนให้ดีขึ้น

แจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ

มีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนให้กำหนดเป้าหมายในการดื่มน้ำ เมื่อถึงเวลาก็จะแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ

Female Health

สำหรับผู้หญิงก็จะถูกใจกับฟังก์ชั่นบันทึกการเป็นประจำเดือน ซึ่งสามารถกำหนดวันที่มาและวันที่สิ้นสุด รวมถึงการบันทึกอย่างละเอียดว่าในแต่ละวันมามากน้อยเพียงใด มีอาการอย่างไร เมื่อถึง วันครบกำหนด Fitbit Versa 3 ก็จะเตือนให้ทราบว่าประจำเดือนจะมาแล้ว

ฟังเพลง Deezer, Pandora และ Spotify

Fitbit Versa 3 ยังรองรับการควบคุมการเล่นเพลงจาก Spotify ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เลย

การแจ้งเตือน

Fitbit Versa 3 รองรับการแจ้งเตือนทั้งข้อความ อีเมล LINE และสายเรียกเข้าโทรศัพท์ สามารถส่งข้อความตอบกลับด้วยอิโมจิ หรืออ่านได้จากบนข้อมือ แต่ที่น่าเสียดายคือไม่รองรับภาษาไทย ทำให้เวลามีแจ้งเตือนเข้ามาหน้าจอเป็นภาษาแปลกๆ

กันน้ำ

Fitbit Versa 3 กันน้ำได้ลึก 50 เมตร ซึ่งสามารถใส่ว่ายน้ำ ออกกำลังกายที่มีเหงื่อเยอะๆ หรือจะเล่นกีฬาทางน้ำก็ไม่เป็นอุปสรรค

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของ Fitbit Versa 3 รุ่นนี้ถึงแม้จะเป็นจอสีแต่ก็ถือว่าอึดพอสมควร โดยใช้งานได้นานกว่า 6 วัน หรือ 12 ชั่วโมงต่อเนื่องถ้าเปิดใช้ GPS นอกจากนี้ ยังมีระบบชาร์จเร็วเพียง 12 นาทีก็ใช้งานได้ต่อ 1 วันเต็ม ซึ่งสะดวกมากหากลืมชาร์จ

สรุป

Fitbit Versa 3 ถือว่าเป็นสมาร์ทวอชที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยหน้าตาที่มีความทันสมัยแฝงความเป็นแฟชั่น ทั้งยังรองรับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ แต่ถ้าต้องการใช้งานละเอียดอาจจะต้องเลือกสมัครใช้งานพรีเมียมปีละ 2,500 บาท แต่ที่น่าเสียดายคือยังไม่รองรับภาษาไทย ซึ่งก็ออกมาหลายรุ่นแล้วแต่ก็ยังใช้ไม่ได้สักที อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นสายสุขภาพแล้วนั้น Fitbit Versa 3 เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ โดดเด่นเรื่องของความแม่นยำ

ราคาและการวางจำหน่าย

Fitbit Versa 3 มีตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Black, Midnight และ Pink Clay วางจำหน่ายในราคา 9,190 บาท

Fitbit Premium

สมัครบริการแบบพรีเมียมเพื่อเข้าใช้งานแอปฯ ได้มากขึ้น มีผู้ช่วยส่วนตัวรวมถึงโปรแกรมการออกกำลังกายที่พิเศษกว่าใคร ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปปฎิบัติได้อย่างถูกวิธี โดยการเป็นสมาชิกมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 300 บาท หรือปีละ 2,500 บาท

แสดงความคิดเห็น