ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับพร้อมกัน 2 รุ่น ทั้ง Samsung Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G ซึ่งถือว่าเป็นอีกนวัตกรรมย่อยอดจากรุ่นที่แล้วกับสมาร์ทโฟนจอพับได้ ซึ่งแบ่งตามความต้องการของผู้ใช้อย่างชัดเจน ทั้งยังเพิ่มความสามารถในรุ่น Galaxy Z Fold3 5G ให้รองรับการใช้งานกับปากกา S PEN มาพร้อมกล้องซ่อนใต้จอ รองรับการใช้งานคอนเทนต์บนจอที่ใหญ่เมื่อกางออกได้ถึง 7.6 นิ้ว

ส่วน Galaxy Z Flip3 5G จะเป็นรุ่นที่เน้นการออกแบบอย่างมีสไตล์ เน้นพาพาสะดวกกะทัดรัด ให้หน้าจอด้านนอกใหญ่ขึ้น โดยที่ทั้งคู่ยังเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง ใช้งานลื่นบนจอรีเฟรชเรท 120Hz และกันน้ำมาตราฐาน IPX8 ที่ความลึก 1.5 เมตร นาน 20 นาที

Samsung Galaxy Z Fold3 5G

ดีไซน์ตัวเครื่อง

เริ่มกันที่รุ่นพี่ใหญ่จอพับที่ออกแบบมาสำหรับพับต้องการใช้งานทั่วไปเหมือนสมาร์ทโฟน และสามารถกางออกเป็นจอใหญ่เกือบเท่าแท็บเล็ตได้ มาพร้อมดีไซน์ด้วยวัสดุอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม

หน้าจอแสดงผลด้านนอกใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus เทคโนโลยี Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2268 x 832 พิกเซล อัตราส่วน 25:9 ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกที่เรียวๆ หน้าจอยนาวๆ ยังไม่สมส่วนเท่าไหร่ เน้นการใช้งานเช็คข้อความ แจ้งเตือนหรือเข้าถึงแอปพลิเคชั่นได้ง่านขึ้น ส่วนถ้าต้องการใช้งานจริงก็ต้องใช้จอด้านใน

หน้าจอด้านนอกก็มีกล้องเซลฟี่ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มีโหมดปรับหน้าสวยได้ 3 ระดับ มีฟิตเตอร์ให้เลือกใช้งาน ทั้งยังรองรับการถ่ายได้ 2 ระยะ แบบมุมปกติและมุมกว้าง

ส่วนตัวเครื่องด้านหลังเลือกใช้วัสดุที่เป็นกระจกผิวสัมผัสด้าน ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือได้ดี มีตัวเลือก 3 สี ทั้ง Phantom Black, Phantom Silver และ Phantom Green พร้อมออกแบบเลนส์กล้องเป็นวงกรมเรียงกันในแนวตั้งและไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล, f/1.8, LED flash, HDR, ระบบกันสั่น OIS
  • Telephoto 12 ล้านพิกเซล, ระบบกันสั่น OIS, f/2.4
  • Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล, f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา

Galaxy Z Fold3 5G เมื่อกางออกจะมีหน้าจอ Infinity Flex Display ขนาดใหญ่ 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล อตราส่วน 22.5:18 รองรับรีเฟรชเรท 120Hz ใช้ดูคอนเทนต์แบบ HDR 10+ ทั้งยังออกแบบให้รองรับปากกา S PEN

หน้าจอตรงกลางก็ยังเห็นรอยพับได้เหมือนเดิม แต่จะให้รู้สึกกว้างขึ้น ใช้งานรับชมคอนเทนต์ได้สบายตา ด้วยการออกแบบ Under Display Camera หรือกล้องซ่อนใต้หน้าจอที่อยู่ทางฝั่งขวา ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ที่เรียกว่ามีไว้ใช้กับการวิดีโอคอล ไม่เหมาะกับถ่ายเซลฟี่ เพราะความละเอียดยังไม่ดีสู้กล้องด้านนอก

ส่วนตัวเครื่องด้านบนจะมีลำโพงเสียงพร้อมไมโครโฟน

โดยที่ลำโพงเสียงอีกหนึ่งตัวก็จะอยู่ที่ด้านล่างของเครื่อง มาพร้อมกับไมโครโฟนและพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

ตัวเครื่องด้านซ้ายมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง ไม่รองรับ MicroSD

ส่วนตัวเครื่องด้านขวาจะมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่ใช้เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง ซึ่งในสมาร์ทโฟนราคาขนาดนี้ควรจะต้องใส่สแกนนิ้วใต้หน้าจอมาให้ และยังมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ถัดขึ้นไปด้านบน

จุดเด่นของ Galaxy Z Fold3 5G

เฟรมอลูมิเนียมแข็งแกร่งขึ้น

สมาร์ทโฟนจอพับก็จะเจอปัญหากับความแข็งแรง ขอบเครื่องเป็นรอยง่ายบ้าง แต่ตัวเครื่อง Galaxy Z Fold3 5G ได้ถูกนำเอาวัสดุ Armor Aluminium มาใช้กับขอบด้านข้าง ทำให้ตัวเครื่องแข็งแรงกว่าเดิมมากขึ้น 10% ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ทำให้เครื่องโดยรวมหนักที่ 271 กรัม เท่านั้น

นอกจากนี้ ขอบและรอยต่อของการพับก็ทำได้สมูทและเนียนขึ้น ลดการกระทบให้เกินรอยที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งการรันตีว่าผ่านการพับและกางได้มากถึง 200,000 ครั้ง และหน้าจอที่เลือกใช้วัสดุ Corning Gorilla Glass Victus ก็สามารถทดแรงกระแทกได้ถึง 2 เมตร และกันรอยขีดข่วนได้มากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับกระจกทั่วไป

หน้าจอใหญ่ใช้งานเต็มตา

หน้าจอแสดงผลด้านในเมื่อกางออกจะมีขนาดใหญ่ถึง 7.6 นิ้ว ซึ่งใส่เทคโนโลยีมาให้แบบจัดเต็ม ใช้งานกางแจ้งสู้แสง สามารถรับชมคอนเทนต์ได้เต็มจอ ไม่มีรูกล้องรบกวนสายตา เพราะมีกล้องหน้าใต้จอ ไม่ว่าจะดู Netflix ที่มีเนื่อหารองรับ HDR 10+ ก็ทำให้เพิ่มอรรถรสในการรับชมมากขึ้น เพราะจอมีลื่น สีสันสดใสสมจริง

รองรับการใช้งาน 3 หน้าจอพร้อมกัน

หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ของ Galaxy Z Fold3 5G ยังทำได้มากกว่าด้วยการเปิดแอปฯ ได้ถึง 3 หน้าจอ ด้วยการออกแบบ One UI ของทางซัมซุงเอง ทำให้อารมณ์การใช้งานคล้ายกับ PC สามารถดูเมลรวมทั้งหมดที่ด้านซ้ายและเปิดอ่านที่ด้านขวา

ยังสามารถเปิดแอปพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 3 แอปฯ ไม่ว่าจะทำงาน ดูหนังหรือเล่นเกมไปพร้อมกันก็ทำได้บน Galaxy Z Fold3 5G

รองรับปากกา S Pen

Galaxy Z Fold3 5G เป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกที่รองรับการใช้งานกับปากกา S Pen แต่ต้องซื้อแยก ซึ่งจะเป็นปากกาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานกับ Galaxy Z Fold3 5G เป็น S Pen Pro และ S Pen Fold Edition โดยสามารถใช้งาน Air Command หรือการสั่งงานด้วยปากกาเหมือนบน Galaxy Note รองรับการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ

ทั้งนี้ หัวของปากกายังออกแบบมาพิเศษเพื่อให้รองรับการใช้งานกับหน้าจอ Infinity Flex Display ให้การขีดเขียนมีความลื่นเหมือนใช้งานปากกาจริง และช่วยลดการเกิดรอยบนหน้าจออีกด้วย

ชิป Snapdragon 888 เล่นเกมลื่น 120Hz

Galaxy Z Fold3 5G รุ่นนี้เลือกใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 5G คู่กับ RAM 12GB ที่รองรับการเชื่อมต่อเร็วด้วย 5G ทั้งยังใช้งานทั่วไปไหลลื่นสุดๆ พร้อมเอาใจคอเกมที่ไม่ว่าจะเกมเล็กหรือเกมใหญ่ก็เล่นได้ไม่มีสะดุด

เรื่องของการเล่นเกมบน Galaxy Z Fold3 5G นี่เรียกว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะมาพร้อมหน้าจอรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ที่เล่นเกมลื่นทุกจังหวะการสัมผัส ลื่นไม่มีสะดุด และยังได้หน้าจอที่ใหญ่เหมือนแท็บเล็ตก็ยิ่งทำให้มุมมองกว้างขึ้น เห็นคู่ต่อสู้มากกว่าเดิม

กันน้ำมาตรฐาน IPX8

Galaxy Z Fold3 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับเครื่องแรกที่รองรับคุณสมบัติกันน้ำ IPX8 ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าฝนจะตก หรือโดนน้ำกระเด็นใส่ก็ไม่ต้องหลบ เพราะกันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร นาน 30 นาที แต่ทั้งนี้หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรเอาไปเล่นใต้น้ำแน่นอน เพราะอาจจะส่งผลต่อเรื่องของการรับประกัน

แบตฯ ใหญ่ ชาร์จเร็ว

แบตเตอรี่ให้มาที่ความจุ 4400 mAh อยู่ในระดับที่เหมาะกับกับการใช้งานในแต่ละวัน แต่หากเปิดเชื่อมต่อ 5G หรือดูหนังนานๆ รุ่นนี้แบตฯ ค่อนข้างหมดไว แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมีเทคโนโลยีการชาร์จ Fast Charging 25W รองรับชาร์จไร้สาย Fast wireless charging 11W และยังชาร์จให้กับเครื่องอื่นได้ด้วย Reverse wireless charging 4.5W แต่ ไม่แถมอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้ในกล่อง จำเป็นต้องซื้อแยก

กล้องถ่ายรูป

Galaxy Z Fold3 5G เป็นจอพับที่มาพร้อมกล้องหน้าด้านในแบบใต้หน้าจอ ที่ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ซึ่งเหมาะกับการใช้งานวิดีโอคอลที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง โดยรวมยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ รูปมีความแตกเหมือนกล้อง VGA สมัยก่อน แต่ทดแทนกันได้ด้วยกล้องหน้าด้านนอกที่มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รองรับการปรับแต่งหน้าสวย มีเอฟเฟ็กต์ โหมดบุคคล วิดีโอ และอื่นๆ ให้เลือกใช้งาน

ส่วนกล้องหลังเรียกว่าให้มาถึง 3 เลนส์ครบถ้วน ทั้ง เลนส์หลัก Wide 12 ล้านพิกเซล, f/1.8, LED flash, HDR, ระบบกันสั่น OIS มาคู่กับ Telephoto 12 ล้านพิกเซล, ระบบกันสั่น OIS, f/2.4 และมุมกว้าง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล, f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา

มีโหมดให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Portrait, อาหาร, กลางคืนม พาโนรามา, โหมดโปร, มุมมองผู้กำกับ, Slow Motion, Portrait video เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Galaxy Z Fold3 5G

จุดเด่น

  • ดีไซน์แข็งแรงกว่าเดิม
  • จอใหญ่ใช้งานเต็มตา 7.6 นิ้ว
  • จอพับรุ่นแรกที่มีกล้องใต้จอ
  • กันน้ำ IPX8

ข้อควรพิจารณา

  • รองวรับปากกา S Pen แต่ต้องซื้อแยก
  • ไม่มีอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้

สเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G

  • หน้าจอแสดงผลด้านนอก Super AMOLED กว้าง 6.2 นิ้ว – 2268×832 พิกเซล
  • หน้าจอด้านใน Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว – 2208 x 1768 พิกเซล (อัตราส่วน 4:2:3)
  • จอด้านในรองรับรีเฟรชเรท 120Hz, รองรับปากกา S Pen, กระจก Gorilla Glass Victus
  • ชิปเซ็ต QualcommSnapdragon 888 Octa-core, 2.84 GHz
  • RAM 12GB, ROM 256/512GB
  • GPU Adreno 660
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 based on One UI 3.1
  • รองรับ Dual Nano SIM และ 1 eSIM
  • ระบบเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX, Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง, สแกนหน้า, รหัสผ่าน
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ ครอบด้วย Super Clear Glass Gorilla Glass DX+
  • – เลนส์ Wide 12MP, รูรับแสงกว้าง f.1.8, Dual Pixel
  • – เลนส์ Telephoto 12MP, รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • – เลนส์ Ultra-Wide 12MP, รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • กล้องหน้า
  • – กล้องด้านในใต้หน้าจอ 4 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • – กล้องด้านนอก 10 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ลำโพงคู่ Stereo รองรับ Dolby ATMOS
  • กันน้ำและฝุ่น IPX8
  • แบตเตอรี่ 4,400 mAh (แบ่งแบตเตอรี่ 2 ข้าง) + Fast Charge 25W, Wireless Charge 11W, Reverse Wireless Charge 4.5W
  • ขนาด 158.2 x 67.1 x 16 (ก่อนกาง) และ 158.2 x128.1 x 6.4 มิลลิเมตร (เมื่อกาง)
  • น้ำหนัก : 271 กรัม
  • สี : สีดำ Phantom Black, สีเขียว Phantom Green และ สีเงิน Phantom Silver
  • ราคา Galaxy Z Fold3 วางจำหน่ายในราคา 57,900 บาท (256GB) และ 61,900 บาท (512GB)

รีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G กะทัดรัด ผสานนวัตกรรมเข้ากับแฟชั่นอย่างลงตัว

Samsung Galaxy Z Flip3 5G

สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip3 5G เป็นสมาร์ทโฟนจอพับที่เปิดตัวมาพร้อมกัน แต่รุ่นนี้เรียกว่าเน้นไปทางแฟชั่น ดีไซน์สวยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือการพกพาที่สะดวกสบาย มีขนาดกะทัดรัดที่หลายคนเรียกรุ่นก่อนว่าคล้ายตลับแป้ง

เพิ่มเติมประสิทธิภาพขึ้น ออกแบบให้หน้าจอด้านนอกใหญ่กว่าเดิม 4 เท่า มาพร้อมหลายเฉดสีให้เลือกที่เหมาะกับผู้ใช้ ทั้ง Cream, Lavender Phantom Black, Green และสีพิเศษที่วางจำหน่ายบนเว็บซัมซุงอย่าง White, Pink และ Gray

ดีไซน์ตัวเครื่อง

สำหรับดีไซน์ต้องบอกเลยว่านี่คือจุดเด่นที่ทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นนี้ หากย้อนกลับไปหลายปีก่อนก็ต้องนึกถึงโทรศัพท์ฝาพับที่พกง่าย และ Galaxy Z Flip3 5G ก็เป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบเครื่องใหญ่ พกง่ายใส่กระเป๋าเล็กๆ และเมื่อต้องการใช้งานบนจอใหญ่ก็เพียงแค่กางออกเท่านั้น

ตัวเครื่อง Galaxy Z Flip3 5G ขนาดพับเก็บง่ายพกสะดวก สามารถใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้สบาย โดยมีขนาดอยู่ที่เพียง 4.2 นิ้วเท่านั้น

มาพร้อมหน้าจอด้านนอกใหญ่ขึ้น 4 เท่า กว้าง 1.9 นิ้ว สำหรับแสดงการแจ้งเตือน ดูข้อความ สภาพอากาศ หรือใช้ถ่ายภาพ และยังปรับแต่งได้ในรูปแบบที่ต้องการ

ด้านข้างจอมีเลนส์กล้องหลังคู่เป็นวงกลมแนวตั้ง แบ่งออกเป็น เลนส์ Wide, 12 ล้านพิกเซล + Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED

บริเวณข้อต่อรอยพับใช้วัสดุอลูมิเนียมไม่เกิดรอยง่าย สลักไว้เพียงโลโก้ซัมซุงเท่านั้น

ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นฝาหลังแบบกระจกใสที่มีสีเดียวกับด้านหน้าตัวเครื่อง

เมื่อกาง Galaxy Z Flip3 5G ออกจะได้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีจอแสดงผล เทคโนโลยี Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2336 x 1080 พิกเซล รองรับรีเฟรชเรท 120Hz, HDR 10+

โดยที่ขอบหน้าจอจะมีขอบดำสูงขึ้นมาเล็กน้อย ใช้รองหน้าจอกระแทกกันเมื่อพับ แต่บางครั้งก็ใช้งานไปสะดุดโดยขอบ

เหนือหน้าจอจะมีกล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล, f/2.4 และมีช่องลำโพงเสียงสนทนาอยู่ที่ขอบด้านบน

ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่องเดี่ยวๆ

ส่วนพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C ไมโครโฟน และลำโพงเสียงจะอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง

ช่องใส่ซิมการรองรับ 1 Nano SIM และอีกซิมหากต้องการใช้งานจะต้องเปิดเป็น Electronic SIM card (eSIM) จะมีถาดใส่ซิมอยู่ทางด้านซ้ายของเครื่อง

ตัวเครื่องด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง

จุดเด่นของ Galaxy Z Flip3 5G

ตัวเครื่องกะทัดรัด

จุดเด่นหลักของ Galaxy Z Flip3 5G คือออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ไม่ว่าจะใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง หรือผู้หญิงเวลาไปงานที่มีเพียงกระเป๋าเล็กๆ ก็สามารถพกง่ายขึ้น

ตัวเครื่องยังมีความแข็งแรงที่สุดเท่าที่ซัมซุงเคยออกแบบมา ใช้วัสดุ Armor Aluminun สัมผัสสบายมือ น้ำหนักเบา และมีหน้าจอแสดงผล Corning Gorilla Glass Victus ทนรอยขีดข่วนได้ดี เพราะรุ่นนี้ไม่สามารถติดฟิล์มกระจกได้

หน้าจอหลัก 120Hz

หน้าจอหลักทำจาก Samsung Ultra Thin Glass ที่เป็นเทคโนโลยีจอแสดงผลแบบพับของซัมซุง ให้มีความทนทานกว่าเดิมถึง 80% ด้วยเลเยอร์และฟิล์มป้องกันที่เพิ่มเข้ามา และทนต่อการพับได้ถึง 200,000 ครั้ง

หน้าจอด้านในเมื่อกางออกก็สามารถใช้งานเหมือนสมาร์ทโฟนจอใหญ่ในท้องตลาด ซึ่งเป็นจอ Infinity Flex Display ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับรีเฟรชเรท 120Hz แบบปรับอัตโนมัติให้เหมาะสมกับเนื้อหา ช่วยประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ ยังใช้จอที่เป็นเทคโนโลยี Dynamic AMOLED 2X ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสดใส มีชีวิตชีวา ใช้งานลื่นทั้งเล่นเกม ไถโซเชียล

ใช้งานได้ 2 หน้าจอ

หากใครที่ชอบการใช้งาน 2 หน้าจอก็เลือกปรับได้บน Galaxy Z Flip3 5G โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนจากแผง Edge ด้านข้างสำหรับแอปปฯ ที่รองรับ เช่น เปิด YouTube ไปพร้อมกับการเล่น Facebook ได้

หน้าจอด้านนอกทำได้หลายอย่าง

หน้าจอด้านนอกมีขนาดกว้าง 1.9 นิ้ว ปลุกให้จอติดโดยการแตะ 2 ครั้งติดกัน ซึ่งสามารถตั้งค่าวิดเจ็ดที่ใช้งานบ่อยให้แสดงที่หน้านี้ได้ เช่น สภาพอากาศ นาฬิกาจับเวลา เครื่องเล่นเพลง และอื่นๆ

หน้าจอนาฬิการยังปรับแต่งได้กว่า 11 แบบ ในสีสันที่แตกต่างกัน และเลือกเปิด Always on Display ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังใช้จอด้านบอกสำหรับเซลฟี่ได้ด้วยการกดปุ่ม Power หรือปุ่มเปิดเครื่อง 2 ครั้งติดกัน ก็สามารถใช้กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล ในการเซลฟี่หรือถ่ายวิดีโอด้วยการสัมผัสหน้าจอ หรือกดที่ปุ่มลดเสียง

Flex Mode

Flex Mode หรือการใช้งานหน้าจอพับลงครึ่งนึง เพื่อใช้เป็นขาตั้งสำหรับเซลฟี่ด้วยท่าทาง หรือหากต้องการกดชัดเตอร์ที่หน้าจอด้านล่างก็จะเป็นเมนูควบคุมกล้องถ่ายรูปให้นั่นเอง เท่านี้ก็สามารถบันทึกภาพเซลฟี่ได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องกดปุ่ม

นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อวิดีโอคอลแบบไม่ต้องถือสมาร์ทโฟนให้เมื่อย หรือต้องหาขาตั้งมาวาง รองรับการใช้งานคุยสายวิดีโอผ่าน Google Duo ได้ทันที

กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปหลักของ Galaxy Z Flip3 5G ให้มา 2 เลนส์ แบ่งออกเป็น

  • เลนส์ Wide, 12 ล้านพิกเซล, f/1.8
  • Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, f/2.2

มีโหมดให้เลือกใช้งานทั้งอัตโนมัติและโหมดโปร รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 2160p@30/60fps ทั้งยังปรับแต่งหน้าสวยได้ 3 ระดับ และมีเอฟเฟ็กต์ให้เลือกใช้งาน

ส่วนกล้องหน้าที่อยู่ด้านในมีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล, f/2.4 รองรับการใช้งานทั้งมุมปกติ หรือมุมกว้าง มีโหมดถ่ายภาพบุคคล ปรับแต่งหน้าสวย และโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้งานให้เหมาะสมกับสถาณการณ์ที่กำลังจะถ่าย ซึ่งภาพที่ได้ก็มีความสวยงามคมชัดในระดับดี ส่งต่อ อัปโซเชียวได้สบาย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Galaxy Z Flip3 5G

จุดเด่น

  • เครื่องเล็กกะทัดรัด
  • กางออกเป็นจอใหญ่ได้ 6.7 นิ้ว
  • กันน้ำ IPX8

จุดที่ควรพิจารณา

  • ไม่มีอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้ในกล่อง

สเปค Samsung Galaxy Z Flip3

  • หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.7 นิ้ว – 2640 x 1080 พิกเซล รองรับ HDR10+
  • จอด้านนอก Super AMOLED กว้าง 1.9 นิ้ว – 512×260 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต QualcommSnapdragon 888 Octa-core, 2.84 GHz
  • RAM 8GB, ROM 128/256GB
  • GPU Adreno 660
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 based on One UI 3.1
  • กล้องหลัง 2 เลนส์
  • – กล้องหลัก Dual Pixel 12 ล้านพิกเซล, f/1.8
  • – กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง, สแกนหน้า, รหัสผ่าน
  • ลำโพงเสียง Dual Speaker รองรับ Dolby ATMOS
  • แบตเตอรี่ 3300mAh
  • รองรับ Fast Charge 15W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
  • ขนาดตัวเครื่อง 72.2 x 86.4 x 17.1 มิลลิเมตร (ขณะพับ)
  • 72.2 x 166.0 x 6.9 มิลลิเมตร (กางออก)
  • น้ำหนัก 183 กรัม
  • สี : สีครีม, สีเขียว, สีม่วงลาเวนเดอร์ และ สีดำ Phantom Black
  • ราคา : วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท (128GB) และ 36,900 บาท (256GB)

สีและราคา

Samsung Galaxy Z Fold3 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ Phantom Black, เขียว Phantom Green และ เงิน Phantom Silver ในราคา 57,900 บาท (256GB) และ 61,900 บาท (512GB)

Samsung Galaxy Z Flip3 ตัวเลือกสี 4 สี ได้แก่ สีครีม, สีเขียว, สีม่วงลาเวนเดอร์ และ สีดำ Phantom Black และเลือกแมทช์สีพิเศษ อย่าง สีเทา, สีชมพู และสีขาว ได้ด้วยตนเองผ่าน Samsung.com

สรุปท้ายรีวิว

สำหรับสมาร์ทโฟนจอพับทั้ง 2 รุ่น Samsung Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาให้กับผู้ที่ต้องการใช้งานแปลกใหม่ ได้เทคโนโลยีที่ครบ รองรับ 5G โดยที่มีให้เลือก 2 แบบที่ต่างกันอย่างชัดเจนของดีไซน์ เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกสบาย แต่อาจจะไม่เน้นเรื่องของกล้องถ่ายรูป แต่ก็ใช้ถ่ายภาพอัปโซเชียลได้ได้เหลือๆ เป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่ต้องการความแปลกใหม่แบบมีสไตล์

แสดงความคิดเห็น