เมื่อปลายปีที่แล้ว Apple ได้เปิดตัวและวางจำหน่าย iPhone 13 Series ที่มาพร้อมกันถึง 4 รุ่น และมีตัวเลือกสีสันต่างกันให้เลือกมากมาย ล่าสุดมีการเปิดตัวสีใหม่คือ สีเขียว และสีอัลไพน์กรีน
สำหรับสีเขียวทั้ง 2 แบบ จะแบ่งออกเป็น iPhone 13 mini และ iPhone 13 เรียกว่า สีเขียว (Green) ส่วน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เรียกว่า สีอัลไพน์กรีน (Alpine Green)
สีเขียวของ iPhone 13 mini และ iPhone 13 จะมีความมันเงา ทำให้ได้สีเขียวแบบโปร่งแสงตัดกับเลนส์กล้องหลังที่เป็นสีเขียวแบบด้าน โดยที่ขอบด้านข้างก็จะเป็นสีเขียวแบบด้านเช่นกัน
ส่วนตัวเครื่องของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ที่เป็นสีอัลไพน์กรีน จะเป็นเขียวแบบด้าน ไม่สะท้อนแสง ตัดกับเลนส์กล้องที่เป็นกระจกสีเขียวมันเงา และมีขอบข้างสีเขียวมันเงาเช่นกัน
ส่วนสเปคและตัวเครื่องก็เหมือน iPhone 13 ที่วางจำหน่ายก่อนหน้าทั้งหมด เป็นการเพิ่มตัวเลือกของสีให้หลากหลายขึ้น และยังมีราคาเท่าเดิม แบ่งออกเป็น
iPhone 13 mini และ iPhone 13 จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเขียว สีชมพู สีน้ำเงิน สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED วางจำหน่ายในราคา
ราคา iPhone 13 mini
- ความจุ 128GB ราคา 25,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 37,900 บาท
ราคา iPhone 13
- ความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท
ส่วน Phone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี แบ่งออกเป็น สีเขียวอัลไพน์ สีเงิน สีทอง สีกราไฟต์ และสีเซียร์ร่าบลู วางจำหน่ายในราคา
ราคา iPhone 13 Pro
- ความจุ 128GB ราคา 38,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 58,900 บาท
ราคา iPhone 13 Pro Max
- ความจุ 128GB ราคา 42,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 46,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 62,900 บาท
iPhone 13 สีเขียว และ iPhone 13 Pro สีอัลไพน์กรีน เปิดให้สั่งซื้อได้แล้งวันนี้ ที่ https://www.apple.com/th/
