OPPO เปิดตัวต้นปีด้วย OPPO Reno13 Series 5G ที่ครั้งนี้มาพร้อมกัน 2 รุ่น ทั้ง OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno13 5G ชูจุดเด่นของการเป็น OPPO AI Phone ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพ อาทิ AI Livephoto สามารถบันทึกภาพถ่ายด้วยวิดีโอ 1.5 วินาทีก่อนและหลังกดชัตเตอร์รวมเป็น 3 วินาที และยังมี AI แก้ไขภาพถ่ายให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด นอกจากนี้ ยังเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่มีกล้องถ่ายใต้น้ำได้ มีมาตราฐานกันน้ำ IP69 และดีไซน์สวยด้วยลวดลายปีกผีเสื้อบนฝาหลัง ซึ่งทางทีมงานได้มาทั้ง 2 รุ่น และจะบอกเล่าจที่น่าสนใจในรีวิวนี้

ดีไซน์สวยสุดเทรนดี้
OPPO Reno13 F 5G
OPPO Reno13 F 5G มาพร้อมเครื่องดีไซน์ขอบเหลี่ยมจับถือถนัดมือ โดยตัวเครื่องที่ได้มารีวิวจะเป็นสี Plume Purple ซึ่งเป็นโทนสีม่วงพาสเทล โดดเด่นด้วยด้านหลังออกแบบเป็นลวดลายปีกผีเสื้อ เมื่อสะท้อนกับแสงจะดูมีมิติชัดเจนยิ่งขึ้น

ส่วนรอบๆตัวขึ้นลงก็จะมีการวางพอร์ตต่างๆไว้ได้อย่างลงตัว โดยที่ตัวเครื่องด้านล่างมีช่องใส่ซิม ไมโครโฟน พอร์ตชาร์จ USB Type – C และช่องลำโพงเสียง

ส่วนตัวเครื่องด้านบนให้ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมาอีกหนึ่งตัว พร้อมกับช่องลำโพงเสียงตัวเครื่อง

โดยที่ตัวเครื่องด้านขวาไม่มีพอร์ตใดๆ ซึ่งปุ่มเพิ่ม – ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง

OPPO Reno13 5G
ส่วนตัวเครื่องของ OPPO Reno13 5G ที่ได้มารีวิวจะเป็นตัวเครื่องสีขาว Plume White ก็ยังมาในดีไซน์กรอบอลูมิเนียมเกรดอากาศยานแบบเหลี่ยม แต่ที่มุมทั้ง 4 ด้านจะมีความโค้งมนกว่า Reno13 F 5G

โดยการวางพอร์ตต่างๆ ก็เหมือนกัน จะมีเพียงตัวเครื่องด้านบนที่ใส่ IR infrared มาให้สำหรับการใช้เป็นรีโมทกับเครื่องใช้ไฟฟ้า



ฝาหลังถูกออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัวด้วยลวดลายปีกผีเสื้อ เป็นการออกแบบที่มีความพิถีพิถันและปราณีต ด้วยการใช้แสงเลเซอร์เขียนโดยตรงและใช้เฉดสีเทาบนเลเยอร์พื้นผิวสร้างการไหลของแสงทำให้ได้เงาและแสงแบบปีกผีเสื้อ

กันน้ำ – กันฝุ่น IP69
OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno 13 5G ตัวเครื่องออกแบบให้มีความทนทาน มีมาตรฐานกันน้ำ – กันฝุ่น IP69 รองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึก 2 เมตรนาน 30 นาที และยังกันน้ำกระเด็นได้มากถึง 80 °C

หน้าจอใหญ่ เล่นลื่น
OPPO Reno13 F 5G
OPPO Reno13 F 5G มีหน้าจอแสดงผล OLED ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ 1080 พิกเซล เล่นลื่นด้วยหน้าจอรีเฟรชเรท 120Hz โดยที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องขนาดใหญ่ถึง 92.2% และขอบทั้ง 4 ด้านที่บาง ทำให้การรับชมคอนเทนต์ทำได้อย่างสบายตา


OPPO Reno13 5G
ส่วน OPPO Reno13 5G มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1.5K โดยเป็นหน้าจอที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพ รองรับรีเฟรชเรท 120Hz แสดงผลภาพได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังเป็นหน้าจอที่รองรับ HDR10+, Amazon HD และ HDR พร้อมกับแสดงสีสันสดใสคมชัดระดับ 1.07 พันล้านสี ตอบโจทย์สำหรับคนชอบดูหนัง และดูคอนเทนต์ต่างๆ บนจอแสดงผลที่มีคุณภาพ

กล้องถ่ายภาพอัดแน่นด้วย AI
OPPO Reno13 Series 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ บันทึกภาพได้อย่างคมชัด มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกหลากหลายและที่น่าสนใจคือโหมดถ่ายภาพใต้น้ำ และรองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูง 4K ทั้งยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI ที่ทำให้การถ่ายภาพสนุกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

OPPO Reno13 F 5G
กล้องหลังมาพร้อมกัน 3 เลนส์ แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียดสูงพิเศษ 50MP, f/1.8, AF, OIS
- กล้องมุมกว้าง 8MP, f/2.2 มุมกว้าง 112 องศา
- กล้องมาโคร 2MP, f/2.4

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง OPPO Reno13 Series 5G





OPPO Reno13 5G
OPPO Reno13 5G มาพร้อมกล้องหลังระบบ Ultra-Clear 3 เลนส์ แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด 50MP, , f/1.8, AF, OIS
- กล้องมุมกว้าง 8MP, f/2.2 มุมกว้าง 116 องศา
- กล้อง Monochrome ความละเอียด 2MP, f/2.4

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง OPPO Reno13 5G



ฟีเจอร์ AI สำหรับการถ่ายภาพ
AI Livephoto
OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno13 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI Livephoto ด้วยการบันทึกวีดีโอ 1.5 วินาทีก่อนและหลังกดชัตเตอร์รวมเป็น 3 วินาที เหมาะกับการถ่ายภาพที่มีฉากหลังเคลื่อนไหว โดยที่โหมด AI Livephoto จะปรับคลิปโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยลดการสั่นไหวของกล้อง ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สมบูรณ์ที่สุด และสามารถเก็บโมเม้นต์ต่างๆ ได้หลายช็อต และเลือกบันทึกเป็นภาพถ่ายที่เราต้องการ โดยที่อัลกอริทึม AI จะช่วยปรับความละเอียดและคมชัดด้วยเทคโนโลยี Pro XDR


นอกจากนี้ ในโหมด AI Livephoto ยังสามารถเลือกการปรับแต่งเอฟเฟกต์หน้าสวย หรือเพิ่มฟิลเตอร์เพื่อสื่ออารมณ์ขณะถ่ายภาพไปได้พร้อมกัน
ภาพตัวอย่างจากกล้อง OPPO Reno13 F 5G











ภาพตัวอย่างจากกล้อง OPPO Reno13 5G







OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno 13 5G ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS เพื่อแชร์ภาพถ่ายเคลื่อนไหวอย่าง AI Livephoto ได้ง่ายและเร็วขึ้น
การใช้งานเพียงให้อุปกรณ์ iOS ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น O+ Connect จากนั้นเลือกไฟล์ที่ต้องการบน OPPO Reno13 F 5G แล้วเลือกแชร์กับ iPhone โดยการวางส่วนบนของโทรศัพท์ทั้ง 2 เครื่องชิดกัน เพื่อยืนยันการส่งข้อมูลไปอีกเครื่องนึง เท่านี้ก็สามารถส่งภาพถ่ายไปยังอีกเครื่องอย่างง่ายดาย
AI Editor แก้ไขภาพอัจฉริยะ
OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno 13 5G มีฟีเจอร์ AI Editor เพื่อให้ใช้งานในการแก้ไขภาพถ่ายได้อย่างอัจฉริยะ ซึ่งหลังจากที่ถ่ายภาพในโหมด AI Livephoto แล้ว ยังสามารถเลือกช็อตที่ต้องการบันทึกเป็นภาพนิ่งและนำมาแก้ไขได้ต่อในฟีเจอร์นี้ด้วย อาทิ
AI Clarity Enhancer : เป็นฟีเจอร์สำหรับการครอปภาพวัตถุที่อยู่ไกล ให้เห็นชัดขึ้น โดยที่ AI จะช่วยปรับภาพให้คมชัดมีความละเอียดเหมือนกับการถ่ายภาพในครั้งแรก






AI Unblur : ฟีเจอร์สำหรับช่วยปรับภาพถ่ายที่เบลอให้มีความคมชัด เช่นการถ่ายวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว สัตว์ คนเดิน เมื่อกดชัตเตอร์แล้วบางครั้งภาพที่ได้ก็มีความเบลอ และไม่สามารถกลับไปถ่ายใหม่ได้ สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ช่วยปรับให้ภาพละเอียดและคมชัดยิ่งขึ้น




AI Reflection Remover : ใช้สำหรับลบเงาสะท้อนจากกระจกบนภาพถ่าย เพื่อให้ภาพมีความชัดเจนยิ่งขึ้น




AI Eraser 2.0 : ฟีเจอร์ยางลบ ใช้สำหรับลบวัตถุที่ไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของก็สามารถลบออกได้ในคลิกเดียว




เพิ่มความสร้างสรรค์ให้กับภาพถ่ายด้วย AI Studio
AI Studio จะเป็นแอปพลิเคชั่นของทาง OPPO ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายธรรมดาให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น
AI Portrait : เปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ให้เป็นภาพให้เป็นภาพใหม่ด้วยเทคโนโลยี GenAI เพื่อสร้างภาพใหม่ในแบบบุคคลดิจิทัล ผสมผสานเข้ากับหน้าของเรา ทำให้ได้ภาพที่ดูน่าสนใจมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
AI Reimage : สร้างภาพถ่ายของเราเป็นภาพใหม่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายแนวศิลปะ การ์ตูน หรือทำให้ภาพถ่ายมีสีสันโดดเด่น บนเทมเพลตที่มีให้เลือกมากกว่า 20 แบบ




Master Filters
Master Filters เป็นฟิลเตอร์พิเศษซึ่งเคยใส่มาในรุ่นใหญ่ แต่ครั้งนี้มีให้ใช้งานบน OPPO Reno13 F 5G ช่วยปรับภาพถ่ายให้ออกมามีโทนสีโดดเด่นคล้ายกับกล้องฟิล์ม มีให้เลือกใช้งาน 3 แบบ ว่าจะเป็น

- CC Film เอฟเฟกต์ฟิล์มบวกแบบคลาสสิคมีความเท่ห์และสวยงาม
- NC Film เอฟเฟกต์ฟิล์มลบแบบคลาสสิค ให้โทนสีนุ่มนวลขอบฟ้าอมเขียว
- NH Film เอฟเฟกต์สีฟิล์มที่มีสีคอนทราสต์สูง ใช้ถ่ายกับภาพบุคคลที่แสดงถึงอารมณ์ความนุ่มนวล ละเอียดอ่อน




ครั้งแรกของการถ่ายภาพใต้น้ำด้วยสมาร์ตโฟนระดับกลางจาก OPPO
OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno13 5G มีมาตรฐานกันน้ำ IP69 ทำให้สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้ลึกสูงสุด 2 เมตรเป็นเวลานานไม่เกิน 30 นาที แต่จะต้องเป็นสระว่ายน้ำจืดแม่น้ำหรือทะเลสาบ ไม่สามารถใช้งานกับสระน้ำเกลือหรือน้ำทะเลได้

โหมดการถ่ายภาพใต้น้ำที่ใส่มาไว้บนเครื่อง ทำให้สามารถบันทึกภาพใต้น้ำได้อย่างคมชัด สีสันสดใส ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้จะสามารถเลือกถ่ายภาพนิ่งด้วยการกดชัตเตอร์จากปุ่มเพิ่มเสียง และถ่ายวีดีโอด้วยปุ่มลดเสียง ทำให้เราสามารถเก็บโมเม้นใต้น้ำได้ราวกับกับมีกล้อง Action Cam ในมือ

ภาพตัวอย่างใต้น้ำ



หลังจากการบันทึกภาพใต้น้ำ จะมีฟังก์ชั่นระบายน้ำ เพื่อช่วยไล่น้ำออกจากตัวเครื่อง สามารถใช้งานโดยการกดปุ่ม Power (ปุ่มเปิด – ปิดเครื่อง) ค้างไว้ 3 วินาที โดยจะใช้การระบายน้ำออกทางลำโพงด้วยการสั่นทั้งด้านบนและด้านล่าง


กล้องเซลฟี่สวยคมชัด
OPPO Reno13 F 5G
OPPO Reno13 F 5G ให้กล้องหน้ามาที่ความละเอียด 32MP รองรับการใช้งานปรับแต่งหน้าสวยได้หลายรูปแบบ ทั้งการปรับแต่งใบหน้า สีผิวขนาดของแก้ม คาง ตา หน้าผาก และอื่นๆอีกมากมาย และยังใช้งานได้พร้อมฟิตเตอร์กว่า 15 แบบ ทำให้ได้ภาพถ่ายกล้องหน้าที่สวยงามและน่าสนใจ



OPPO Reno13 5G
ส่วน OPPO Reno13 5G ให้กล้องหน้ามาที่ความละเอียด 50MP มีโหมดปรับแต่งหน้าสวยและฟิลเตอร์มาให้ใช้งานเหมือนกัน แต่จะมีฟิลเตอร์พิเศษ Soft light อย่าง Misty, Glowy และ Dreamy ให้เลือกใช้งานเพิ่ม ทำให้ได้ภาพเซลฟี่ที่มีความนุ่มนวล




ประสิทธิภาพทรงพลัง
OPPO Reno13 F 5G
OPPO Reno13 F 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ขนาด 4 นาโนเมตร ช่วยเรื่องการประมวลผลวีดีโอ เสียง และเกมได้อย่างราบรื่น ทำงานร่วมกับ RAM 12GB ช่วยให้เครื่องทำงานรวดเร็ว และมี ROM ขนาดใหญ่ 256GB ทำให้สามารถเก็บข้อมูล รูปถ่าย หรือแอปฯ ได้มากตามที่ต้องการ

OPPO Reno13 5G
OPPO Reno13 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350 ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นรายแรกของโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ AI ในการเล่นเกม และการถ่ายภาพ รวมถึงฟีเจอร์ AI การสร้างสรรค์แบบใหม่ๆ ทำให้มีประสิทธิภาพ CPU เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนกว่า 20% และการใช้พลังงาน CPU ลดลง 30% รวมถึงการทำงานของ GPU มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่า 60% และใช้พลังงานลดลง 55%

นอกจากนี้ยังมี AI Gaming ช่วยให้การเล่นเกมได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด ด้วย
AI Linkboost 2.0 ลดอาการสะดุดของเกมด้วยการออกแบบเสาอากาศบนตัวเครื่องแบบ 360 องศา ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณเพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่น หรือแม้แต่การใช้งานสนทนาโทรศัพท์ในที่อับสัญญาณ หรือในลิฟท์ก็ไม่เป็นปัญหา ยังสามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้ปกติ

AI HyperBoost เป็นการอัปเกรดให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถเล่นเกมได้ไม่สะดุด ด้วยการควบคุมอุณหภูมิ และอัตราเฟรมเรตที่สูงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่มีอาการช้าหรือกระตุก

การทำงานด้วย AI ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
OPPO Reno13 Series 5G รองรับการทำงานด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น เช่น
- AI Summary ช่วยสรุปบทความหรือรายงานยาวๆ ให้เหลือเฉพาะประเด็นที่สำคัญ ทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้น
- AI Writer ช่วยตรวจสอบการสะกดคำ และไวยากรณ์ สามารถเขียน หรือแก้ไขเนื้อหาสำหรับอีเมลและบทความได้

แบตเตอรี่ใหญ่ รองรับชาร์จไว
OPPO Reno13 F 5G
OPPO Reno13 F 5G มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยมีใน OPPO Reno series ด้วยความจุ 5800mAh และรองรับชาร์จไว 45W SUPERVOOC ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน และเมื่อถึงเวลาชาร์จก็ช่วยให้แบตฯ เต็มเร็วขึ้น


OPPO Reno13 5G
ส่วน OPPO Reno13 5G ให้แบตเตอรี่มาที่ 5600mAh ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าและรองรับชาร์จไว 80W SUPERVOOC ใช้เวลาชาร์จเต็มเพียงแค่ประมาณ 47 นาที หรือหากใครมีเวลาไม่มากก็สามารถชาร์จเพียง 5 นาทีจะได้แบตมาใช้งาน 17%


สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ของทั้งคู่ถือว่าให้มาขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องพกที่ชาร์จออกไปด้วย และเมื่อกลับมาชาร์จที่บ้านก็ไม่ต้องรอนาน หรือทิ้งไว้ข้ามคืนเพราะเทคโนโลยีชาร์จไวของ OPPO ทำให้แบตฯ เต็มเร็วขึ้น

สรุปท้ายรีวิว
OPPO Reno13 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ชูจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพ Livephoto บนสมาร์ตโฟนระดับกลางได้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ AI เพื่อแก้ไขภาพอัจฉริยะ ทำให้ภาพถ่ายออกมาสมบูรณ์มากขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของประสิทธิภาพก็อัดแน่นเต็มพลัง แม้ว่าจะใช้ชิปเซ็ตต่างกัน แต่ตอบโจทย์การทำงานทั่วไป รวมถึงเรื่องของเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสุดท้ายหากไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับการออกแบบตัวเครื่องอย่างปราณีตและสวยงาม ด้วยฝาหลังลวดลายผีเสื้อที่ไม่ว่าจะถือไปที่ไหนก็โดดเด่นและสะดุดตาแน่นอน

สเปค OPPO Reno13 F 5G
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
- เทคโนโลยีหน้าจอ รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1200nits
- ชิป Qualcomm Snapdragon® 6 Gen 1
- RAM 12GB + ROM256GB/512GB
- กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, AF, OIS
- เลนส์ Ultra-Wide-Angle 8MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 112 องศา
- เลนส์มาโคร 2MP, รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า 32MP, f/2.4
- ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วใต้หน้าจอ, สแกนใบหน้า, รหัสผ่าน
- รองรับการเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 5GHz, Bluetooth 5.1, และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 15.0 based on Android 15
- แบตเตอรี่ 5800mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
- กันน้ำ – กันฝุ่น IP69
- ขนาดตัวเครื่อง 162 × 75.05 × 7.76 มม. (Graphite Grey & Plume Purple)
- ขนาดตัวเครื่อง 162 × 75.05 × 7.82 มม. (Luminous Blue)
- น้ำหนัก 192 กรัม
- สี : Graphite Grey, Plume Purple, Luminous Blue

สเปค OPPO Reno13 5G
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2760 x 1256 พิกเซล
- เทคโนโลยีหน้าจอ รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1200nits, จอแสดงผล 1.07 พันล้านสี
- ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350
- RAM 12GB + ROM 256GB/512GB
- กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, AF, OIS
- เลนส์ Ultra-Wide-Angle 8MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 112 องศา
- เลนส์ Monochrome 2MP, รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า 50MP, f/2.0, AF
- ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วใต้หน้าจอ, สแกนใบหน้า, รหัสผ่าน
- รองรับการเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 6GHz, Bluetooth 5.4, NFC, และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 15.0 based on Android 15
- แบตเตอรี่ 5600mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC
- กันน้ำ – กันฝุ่น IP69
- ขนาดตัวเครื่อง 157.90 × 74.73 × 7.24 มม. (Plume Purple)
- ขนาดตัวเครื่อง 162 × 75.05 × 7.29 มม. (Luminous Blue)
- น้ำหนัก 181 กรัม
- สี : Graphite Grey และ Luminous Blue
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- OPPO Reno13 Series 5G
- สายชาร์จ USB Type-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว
- อุปกรณ์ถอดซิม
- เคสซิลิโคน
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น


ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Reno13 F 5G วางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Graphite Grey, Plume Purple และ Luminous Blue ราคา
- RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 12,999 บาท
- RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 14,999 บาท
ราคา OPPO Reno13 5G วางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สี Graphite Grey และ Luminous Blue ราคา
- RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 17,999 บาท
- RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 19,999 บาท

หมายเหตุ : สำหรับสมาร์ตโฟน OPPO ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน จะไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นสินเชื่อความสุข และแอปฯ Fineasy รวมถึงแอปฯ ของบุคคลที่สามที่เป็นแอปฯ เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ จะไม่ถูกติดตั้งมาใน OPPO App Market ยกเว้นแต่แอปฯ ธนาคารที่จดทะเบียนถูกต้องกับธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น