Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งซีรีย์ในค่ายเสียวมี่ ที่ถูกออกแบบมาตอบโจทย์การใช้งานในราคาจับต้องได้ และสำหรับรุ่นนี้ก็ยังใส่สเปคมาให้แน่นเหมือนเดิม ทั้งหน้าจอแสดงผลที่มีสีสันสดใส AMOLED แบบ DotDisplay กว้าง 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ให้รีเฟรชเรทมาที่ 90Hz ใช้งานลื่น มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon® 680 ขนาด 6mn เน้นประสิทธิภาพแต่ประหยังพลังงาน และใช้งานได้ต่อเนื่องกับแบตเตอรี่ 5,000 mAh และรองรับชาร์จไว 33W Pro fast charging ให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นที่ 6,299 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอ

Redmi Note 11 เป็นสมาร์ทโฟนที่ให้แบตฯ มาถึง 5,000 mAh แต่ตัวเครื่องถูกออกแบบให้บางเพียง 8.09 มิลลิเมตร และน้ำหนักบางเบา 179 กรัม จับกระชับถนัดมือ โดยจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Graphite Gray และ Twilight Blue ที่ด้านหลังให้สัมผัสแบบเรียบด้าน กันรอยนิ้วมือ และอีกสีเป็น Star Blue จะมีฝาหลังแวววาวคล้ายกับดวงดาวเป็นประกายระยิบระยับ

ตัวเครื่องที่ได้มารีวิวนั้นจะเป็นสี Graphite Gray ซึ่งจะออกแบบรอบด้านเป็นทรงเหลี่ยม สัมผัสสบายมือ โดยมีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ที่ตัวเครื่องด้านบน เอาใจคนที่มีหูฟังแบบสายอยู่แล้วไม่ต้องหาหูฟังบลูทูธมาใช้ ทั้งยังมีลำโพงเสียงตัวเครื่อง และ IR blaster สำหรับใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า และไมโครโฟนตัวเสียงรบกวนวางอยู่เรียงกัน

ส่วนตัวเครื่องด้านล่างค่อนข้างเรียบ มีเพียงไมโครโฟนอีกหนึ่งตัว ถัดไปทางด้านขวาจะเป็นพอร์ตชาร์จหรือใช้โอนถ่ายข้อมูลที่ให้เป็น USB Type-C และลำโพงเสียงตัวเครื่อง

ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่องจะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง และมาพร้อมช่องใส่ MicroSD อีกหนึ่งช่อง ทำให้สามารถใช้งานได้ 2 ซิมโดยไม่ต้องเลือก และไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะเต็ม สามารถเพิ่ม MicroSD ได้

ตัวเครื่องด้านขวาจะมีปุ่มปรับเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง

สแกนนิ้วปลดล็อกด้านข้าง

การใช้งานปลดล็อกตัวเครื่องด้วยปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างสามารถใช้งานได้เร็วทั้งคนที่ถนัดมือซ้ายและมือขวา รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ทำงานได้อย่างรวดเร็วเพียงสัมผัสเบาๆ และการวางไว้ที่ตำแหน่งนี้ก็ยังทำให้เครื่องสวย ไม่ต้องเอาเซ็นเซอร์ไปไว้ที่ฝาหลัง

ส่วนตัวเครื่องด้านหลังของสี Graphite Gray อย่างที่บอกคือจะมีผิวสัมผัสแบบด้านแต่ให้ความนุ่มสบายมือ จับถือได้ความรู้สึกเนียนเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งยังช่วยกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังจัดเรียงเลนส์กล้องด้านหลังไว้บนกรอบสี่เหลี่ยมทรงโค้งมนที่นูนขึ้นอีกสเต๊ป โดยที่กล้องทั้ง 4 ตัว 50+8+2+2MP พร้อมไฟแฟลช LED จะอยู่ในกรอบเดียวกัน

หน้าจอคมชัด FHD+ เล่นลื่น 90Hz

หน้าจอแสดงผลของ Redmi Note 11 มาในรูปแบบ Dot Display หรือเจาะรูขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นกล้องหน้าที่มีความละเอียด 13 MP และยังรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า

ส่วนจอแสดงผลใช้เทคโนโลยี AMOLED ขนาดกำลังดีที่ 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ให้สีสันที่สดใสคมชัด ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นอีกรุ่นที่มีหน้าจอดีมาก ยังเป็นจอที่มีสีสันตรงตามค่ามาตรฐาน DCI-P3 Wide Color Gamut ให้สีสันที่แม่นยำ ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไปหรือเพื่อความบันเทิงก็ทำให้ได้อรรถรสกับจอที่มีสดแบบนี้

ทั้งยังสามารถใช้งานได้ในที่มืดหรือที่สว่างจ้ามากๆ ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะหน้าจอมีค่าความสว่างมากถึง 1000 nit แสดงภาพคมชัดทุกสภาพแสง

เรื่องของหน้าจอยังไม่หมด Redmi Note 11 ยังให้จอที่รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือเล่นโซเชียลก็ลื่น และสามารถเลือกปรับเองได้ หากต้องการให้ประหยัดพลังงานก็เลือกใช้จอที่ 60Hz ได้อยู่ และยังตอบสนองต่อการสัมผัสที่เร็วถึง 180Hz เอาใจคนชอบเล่นเกมไม่ให้สะดุด

ประสิทธิภาพ

Redmi Note 11 จะขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon® 680 ขนาด 6 นาโนเมตร หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 2.4GHz ทำงานคู่กับ RAM 6GB มีหน่วยความจำภายในหรือ ROM 128GB ซึ่งจะเน้นการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทั้การใช้งานทั่วไป ประมวลผลตัวเครื่อง หรือแม้แต่การเล่นเกมก็ยังทำได้ในระดับ และยังเป็นชิปที่เน้นประหยัดพลังงาน

ถ้าพูดถึงการใช้งานทั่วไป เปิดแอปพลิเคชั่น เล่นโซเชียล เครื่องนี้ใช้งานได้ในระดับดีมาก สามารถเปิดได้พร้อมกันหลายแอปฯ โดยที่เครื่องมีกระตุก นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อเล่นเกมได้ทั้งเกมเล็กไปจนถึงเกมใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่ารีเฟรชเรท 90Hz ก็ช่วยให้การเล่นเกมทำได้ลื่น ตอบสนองเร็ว

อย่างเกมที่ใช้กราฟิกเยอะๆ หากเปิดเป็นค่าเริ่มต้นก็สามารถเล่นได้สบาย ภาพ เสียง และการเคลื่อนไหวเป็นไปพร้อมกัน หรือจะเป็น ROV ก็เล่นได้แบบไม่สะดุด ปรับตั้งค่าเฟรมเรทเริ่มต้นก็เพียงพอและยังได้ภาพที่ลื่น ตอบสนองการสัมผัสได้ทุกจังหวะโดยที่เครื่องไม่มีอาการกระตุกให้เห็น

ระบบปฎิบัติการ

Redmi Note 11 รันบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง MIUI 13 .0.1 ที่ออกแบบ UI ได้สวยงามเรียบง่าย มีความทันสมัยและยังตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายฟีเจอร์หลักๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมและการแจ้งเตือนที่สามารถเลือกรูปแบบได้ และมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลายแบบ หรือจะเป็นเมนูการแสดงผลที่มีความทันสมัย สบายตา

นอกจากนี้ ยังมีโทนสีให้ปรับแต่งตามที่ผู้ใช้ต้องการ หรือจะเป็นโหมดมืดก็ใส่มาให้ใช้งาน ช่วยถนอมสบายและประหยัดพลังงานอีกด้วย

ลำโพงคู่พลังเสียงกระหึ่ม

เรื่องความบันเทิงที่นอกจากเล่นเกมแล้ว ยังสามารถดื่มด่ำกับการใช้งานดูหนัง ฟังเพลง ได้อรรถรสยิ่งขึ้นกับลำโพงคู่ที่ติดตั้งไว้ที่ด้านบนและด้านล่างของเครื่อง ทำให้ได้เสียงแบบ 2 ทิศทาง แต่ถ้าหากเล่นเกมไม่ว่าจะวางในแนวนอนฝั่งไหนก็จะมีลำโพงหนึ่งฝั่งที่ถูกมือบัง เพราะลำโพงวางอยู่ในแนวทะแยงกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เพราะแค่ลำโพงด้านเดียวก็ถือว่าดังพอสมควร

แบตเตอรี่ 5000mAh

แบตฯ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Redmi Note 11 ซึ่งให้มาเยอะถึง 5000mAh สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นโดยไม่ต้องพกที่ชาร์จออกได้วย เพราะชิปเซ็ตตัวนี้ช่วยเรื่องประหยังพลังงานได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้ต่อเนื่องเครื่องไม่ร้อน และที่สำคัญหากต้องการชาร์จแบตฯ ก็ไม่เสียเวลารอนาน เพราะรองรับชาร์จเร็ว 33W Pro fast charging หรือใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ได้แบตฯ มาใช้งาน 100% ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

กล้องหลัง AI 4 เลนส์

แม้ว่า Redmi Note 11 จะเป็นน้องเล็ก แต่เรื่องของกล้องก็จัดเต็มไม่เบา มีกล้องหลัง AI ให้มาถึง 4 เลนส์ครบทุกระยะ โดยที่เลนส์หลักมีความละเอียดสูงถึง 50MP รูรับแสง f/1.8 ใช้งานได้ทุกสภาพแสง ซึ่งหากต้องการเปิดใช้งานจะต้องเข้าไปที่ตั้งค่าเพิ่มเติม จากนั้นเลือก 50MP ก็สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูง รองรับการใช้งานกับไฟแฟลช และยังปรับฟิลเตอร์สีสันได้อีกด้วย

ส่วนภาพถ่ายที่ได้ก้มีสีสันที่สดใสไม่ต่างจากกล้องเริ่มต้น เมื่อซูมดูรายละเอียดเล็กๆ ก็ยังคมชัด ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการใช้งานได้อีก

กล้องเริ่มต้นของ Redmi Note 11 จะให้มาที่ความละเอียด 12MP ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในประจำวันหากไม่ต้องการความละเอียดที่สูงมาก ไม่ว่าจะโพสต์ลงโซเชียลหรือส่งให้เพื่อนก็ยังได้ภาพถ่ายที่มีความสวยงามคมชัด สีสันสดใสเหมือนที่ตามองเห็น

กล้องมุมกว้าง 8MP

ส่วนเลนส์ถัดมาเป็นมุมกว้าง 118 องศา ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2 ซึ่งเป็นมุมกว้างที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ยังสมบูรณ์ มุมหรือขอบไม่บิดเบี้ยวผิดเพี้ยน ยังคงภาพมุมกว้างที่สวยงาม เป็นอีกตัวช่วยถ้าต้องการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือในพื้นที่จำกัดมากๆ ก็ไม่จำเป็นต้องถอยออกมา

กล้องมาโคร

กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP, f/2.4 มีไว้ให้เก็บภาพระยะใกล้ ช่วยเก็บรายละเอียดเล็กๆ ได้ดี ซึ่งบางมุมเราอาจมองไม่เห็นด้วยมุมปกติ นับว่าเป็นลูเล่นที่มีไว้ก็ได้ใช้

กล้อง Depth

กล้องตัวสุดท้ายเป็นเซ็นเซอร์ชัดลึก – ชัดตื้น ที่เข้ามาช่วยการถ่ายภาพบุคคลให้มีมิติ สามารถเลือกปรับความเบลอได้เอง ทั้งยังรองรับการใช้งานหน้าสวย หรือจะใช้ฟิลเตอร์ไปพร้อมกันก็ทำได้ และยังได้ภาพถ่ายบุคคลที่ตัดกับพื้นหลังได้ค่อนข้างเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดูโดดจากพื้นหลังจนเกินไป

กล้องหน้า 13MP หน้าเนียนใส

กล้องหน้าของ Redmi Note 11 มาพร้อมความละเอียด 13MP รองรับการปรับแต่งหน้าสวยได้เป็นธรรมชาติ และยังมีลูกเล่นฟิลเตอร์ให้ใช้ปรับตั้งค่าตามอารณ์ของภาพถ่ายขณะนั้น ทำให้ได้ภาพเซลฟี่ที่ออกมาดูดีและสามารถแชร์ต่อได้ทันที

สรุปจุดเด่น

  • หน้าจอสีสด รองรับรีเฟรชเรท 90Hz
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 680 ขนาด 6nm ประหยัดพลังงาน
  • แบตฯ ใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว
  • กล้อง 4 ตัวครบทุกระยะ

จุดที่ควรพิจารณา

  • รองรับ 4G
  • ไม่มีหูฟังมาให้ในกล่อง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • สมาร์ทโฟน Redmi Note 11
  • สายชาร์จ USB Type-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จไว 33W Pro fast charging
  • เคสซิลิโคนใส
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือและใบรับประกัน

สีและราคา

Redmi Note 11 มีตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Graphite Gray, Twilight Blue และ Star Blue วางจำหน่าย 2 รุ่น แบ่งออกเป็น

  • รุ่น RAM 4GB + 128GB ราคา 6,299 บาท
  • รุ่น RAM 6GB + 128GB ราคา 6,999 บาท

โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ณ Xiaomi Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สรุปท้ายรีวิว

Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดตอบโจทย์การใช้งานครบ ทั้งยังได้แบตฯ ใหญ่ใช้งานทั้งวัน แถมรองรับชาร์จเร็แค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ได้แบตฯ เต็ม และยังมีกล้องครบทุกระยะ ไม่ว่าสถานการณ์แบบไหนก็เก็บได้ครบจบบนเครื่องเดียว ซึ่งตอบโจทย์สำหรับใครที่มองหาเครื่องใหม่ฟังก์ชั่นครบ แต่ไม่อยากจ่ายแพงก็นี่เลยอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

สเปค Redmi Note 11

  • หน้าจอกว้าง 6.43 นิ้ว – 2400×1080 (FHD+)
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 680 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
  • GPU Adreno 610
  • RAM 6GB, ROM 128GB
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด + 1 MicroSD
  • กล้องหลัง 4 เลนส์
  • เลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล, f/1.8, LED flash, HDR
  • เลนส์ ultra Wide 8MP, f/2.2
  • เลนส์ Bokeh 2MP , f/2.4
  • เลนส์ Macro 2MP, f/2.4
  • กล้องหน้า 13MP, f/2.4, HDR
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0, USB 2.0, On-The-Go
  • ระบบปฏิบัติการ MIUI 13.0.1 based on Android 11
  • แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W Pro fast charging
  • ขนาดตัวเครื่อง 159.87×73.87×8.09 มม.
  • น้ำหนัก 179 กรัม
  • สี Graphite Gray, Twilight Blue และ Star Blue

แสดงความคิดเห็น