OPPO Reno2 F สมาร์ทโฟนกล้องหลัง 4 ตัว ชูคอนเซปต์ “สวยทุกมุมมอง” เรียกว่าเป็นกล้องถ่ายรูปที่ให้มาครบใช้งานได้จริงทุกเลนส์ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์หลักความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา หรือจะเป็นภาพบุคคลหน้าชัด-หลังเบลอได้ทั้งกล้องหน้า-หลัง ปรับแต่งด้วย AI Beauty รวมถึงโหมด Ultra Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนคมชัด นอกจากนี้ สเปกก็ไม่ธรรมดา มาพร้อมจอใหญ่ ระบบเเสียง Dolby Atmos และรองรับชาร์จเร็ว VOOC 3.0

ดีไซน์ตัวเครื่อง

OPPO Reno2 F จะมีตัวเครื่องขนาดใหญ่แต่ใช้ไม่ลำบากสำหรับมือเดียว ทั้งยังจับถือเข้ามือด้วยฝาหลังที่โค้งรับกับขอบเครื่อง โดยมีหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ผลิตจากวัสดุ E1 ประหยัดพลังงานและตอบสนองการใช้งานได้ดีบนกระจก Gorilla Glass 5 ไร้รอยบากที่เรียกว่า Panoramic Screen กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ทำให้มีพื้นที่ใช้งานบนจอกว่า 91.1%

เหนือหน้าจอจะไม่มีกล้องหน้า แต่มีช่องลำโพงเสียงสนทนาที่ขอบเครื่อง ซึ่งต้องสังเกตถึงจะเห็น

โดยที่ด้านล่างของจอไม่มีปุ่มใดๆ แต่จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

กล้องถ่ายรูปด้านหน้าที่ไม่ได้อยู่บนจอ แต่จะเป็นแบบ Rising Camera ฝังอยู่ในตัวเครื่อง สไลด์ขึ้นมาเมื่อเรียกใช้งานกล้องหน้า หรือใช้ปลดล็อกด้วยใบหน้า ทำงานเร็วเพียง 0.74 วินาที และทดสอบแล้วว่าใช้งานได้มากกว่า 200,000 ครั้ง และถัดไปทางขวาเป็นรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

พอร์ตส่วนใหญ่จะถูกจัดวางไว้ที่ด้านล่างของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟน พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับซิงค์ข้อมูลและชาร์จแบตฯ รวมถึงลำโพงเสียง

โดยที่ตัวเครื่องด้านซ้ายจะมีปุ่มปรับเสียงเพิ่ม-ลด นอกจากนี้ ช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่ด้านขวาของเครื่อง เหนือปุ่ม Power

ฝาหลังตัวเครื่อง OPPO Reno2 F ยังเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานอย่าง Corning Gorilla Glass 5 ออกแบบด้วยการไล่เฉดสีแบบ 3 มิติ ด้วยกระบวนการ ribbon transfer 2.0 เคลือบผิวแบบ 7 ชั้น ทำให้ได้สีที่เท่ากัน โดยจะมองเห็นแต่ละมุมมองที่กระทบแสงไม่เหมือนกัน อย่างเช่นตัวเครื่องสี Sky White จะเห็นเป็นสีขาวเหลือบฟ้าเล็กน้อย

จัดวางกล้องถ่ายรูปและโลโก้ไว้ตรงกลางอย่างสมมาตร ซึ่งด้านบนสุดจะมีหมุดสีเขียวที่เรียกว่า O-Dot ช่วยป้องกันไม่ให้เลนส์กล้องโดนพื้นโดยตรงเมื่อวางราบ ถัดลงมาก็จะเป็นกล้องถ่ายรูปทั้ง 4 เลนส์เรียงกัน และไฟแฟลชคู่ LED ถัดออกไปด้านข้างเล็กน้อย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • OPPO Reno2 F
  • สายชาร์จ USB Type-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว VOOC 3.0
  • เคสพลาสติกใส
  • หูฟังสมอลทอร์ค
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือและใบรับประกัน

จุดเด่นของ OPPO Reno2 F

หน้าจอใหญ่ Panoramic Screen

OPPO Reno2 F มาพร้อมหน้าจอเต็มขอบไร้รอยบากแบบ Panoramic Screen ขนาดกว้าง 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ทำให้การใช้งานรับชมคอนเทนต์ ดูหนัง หรือเล่นเกมได้กว้างขึ้น เรียกว่าคู่ต่อสู้อยู่มุมไหนก็เห็นชัดเจน

สแกนนิ้วใต้หน้าจอเร็วสุด

สำหรับระบบปลดล็อกตัวเครื่องก็มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอมาให้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Hidden Fingerprint Unlock 3.0 ทำงานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เมื่อทดลองใช้งานถือว่าตอบสนองเร็วมากเพียงสัมผัสเบาๆ ใช้ได้ทั้งนิ้วที่แห้ง หรือเปียกเล็กน้อยก็สแกนติด รองรับการใช้งานได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ

สแกนหน้าเร็วไม่แพ้กัน

นอกจากปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือยังสามารถใช้การสแกนใบหน้าด้วยกล้อง Rising Camera ที่สไลด์ขึ้นมาจากเครื่องพร้อมแสงและเสียง ซึ่งใช้การลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว จากนั้นเมื่อใช้งานปลดล็อกด้วยใบหน้าไม่ว่าจะเอียงเล็กน้อย หรือมองตรง กล้องจะเลื่อนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

กล้องหน้ามีไฟ ปรับเสียงได้

สำหรับกล้องหน้าของ OPPO Reno2 F แบบ Rising Camera นับว่าเป็นอีกลูกเล่นที่น่าสนใจ เมื่อเรียกใช้งานจะมีแสงมาพร้อมกับเสียง สามารถปรับแต่งได้ถึง 12 เฉดสี หรือจะเลือกใช้งานแบบสุ่ม และลูกเล่นเสียงก็ปรับได้เช่นกัน มีทั้งหมด 3 เสียง โดยเข้าปรับที่ตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม > ลูกเล่นเมื่อกล้องเลื่อนขึ้น จากนั้นก็เลือกได้ตามที่ต้องการ

ใส่ซิมได้ 2 ช่อง แถมมีอีก 1 ช่องสำหรับ MicroSD

OPPO Reno2 F มาพร้อมกับความจำภายในตัวเครื่อง 128GB แกะกล่องออกมาจะมีเหลืออยู่ประมาณ 106GB ซึ่งถือว่าใหญ่พอสมควร แต่ก็ยังออกแบบให้ช่องใสซิมการ์ดมาแบบ Triple Slot หรือใช้งาน 2 ซิมแบบ Nano (รองรับ 4G ทั้งคู่) ยังมีอีก 1 ช่องสำหรับใครที่ต้องการใส่ MicroSD เพิ่ม เรียกว่าสะดวก สามารถใช้งานได้ 2 ซิมจริงๆ ไม่ต้องเผื่อเลือก

ลำโพงระบบเสียง Dolby Atmos

ความบันเทิงเรื่องเสียงก็มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos โดยจะต้องใช้กับหูฟัง ปรับได้ 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบ สมาร์ท เพลง เกม และภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเล่นเกม ยิงปืน ดูหนังต่อสู้ ก็ได้อรรถรสยิ่งขึ้น เพราะจะได้เสียงที่มีมิติสมจริง ถูกใจสำหรับคอบันเทิง

แบตฯ ใหญ่ ชาร์จเร็ว

OPPO Reno2 F มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh โดยรวมแล้วใช้งานได้นานเลยทีเดียว แต่ถ้าแบตฯ หมดก็ไม่ต้องห่วง ชาร์จไม่นานก็ใช้งานต่อได้กับเทคโนโลยี VOOC 3.0 ที่นอกจากจะเร็วยังมีความปลอดภัยตั้งแต่อแดปเตอร์ รวมถึงระบบภายในถึง 5 ขั้นตอน และเป็นเทคโนโลยีใหม่ ช่วยลดเวลาชาร์จในช่วงท้ายลง 10% เพิ่มความเร็ว trickle charging เป็นสองเท่า หรือชาร์จราวๆ 30 นาทีได้แบตฯ มาใช้ 51% เป็นอีกหนึ่งความสะดวกที่ใช้งานได้ในชีวิตจริง ไม่ต้องมานั่งรอนานๆ

ระบบปฎิบัติการ

OPPO Reno2 F รันบนระบบปฎิบัติการ ColorOS 6.1 based on Android 9 มีการปรับแต่ง UI ในรูปแบบของตัวเอง เรียกว่าทันสมัยไม่เฉย ทั้งไอคอนแลบะตัวหนังสือเห็นได้ชัดเจน มีพื้นหลังให้เลือกใช้เข้ากับสีเครื่อง และมีระบบอำนวยความสะดวกเข้ามาให้อีกมากมาย เช่น ผู้ช่วยอัฉริยะ เป็นเหมือนหน้าที่รวบรวมการใช้งานของผู้ใช้เป็นประจำ, Smart Bar แถบผู้ช่วยใช้งานที่อยู่ข้างหน้าจอ เลือกแอพฯ ที่ใช้บ่อยได้เร็ว, Game Space 2.0 ช่วยจัดการในขณะเล่นเกมไม่ให้ถูกรบกวน เป็นต้น

ทดสอบประสิทธิภาพ

  • ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 147,097 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 294 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,418 คะแนน
  • การทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme – OpenGL ES 3.1 ได้ 1,283 คะแนน และ Sling Shot Extreme – Vulkan 1,261 คะแนน

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ทดสอบเล่นเกม

หากพูดถึงเรื่องหน่วยประมวลผล OPPO Reno2 F ขับเคลื่อนด้วย CPU MediaTek Helio P70 Octa Core ความเร็ว 2.1 GHz มาพร้อม RAM 8GB, ROM 128GB, GPU ARM Mali-G72 มาพร้อม HyperBoost 2.0 ช่วยควบคุมทั้งระบบภายในและการสัมผัส ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้ทดสอบเล่นเกม ROV ก็สามารถปรับเฟรมเรทได้ที่ระดับสูงสุด ขณะเล่นก็อยู่ที่ราวๆ 59-60 fps

กล้องถ่ายรูป จัดเต็ม 4 ตัว และกล้องหน้า Rising Camera

กล้องถ่ายรูปถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ใส่มาให้ด้วยกันถึง 4 ตัว ครอบคลุมโหมดถ่ายรูปที่ใช้ในแต่ละสถานการณ์ได้ดี ทั้งเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7 ทำให้สามารถ่ายรูปกลางคืน Ultra Night Mode 2.0 ได้คมชัดสวยงาม บวกกับเลนส์ Ultra Wide Angle แบบมุมกว้างเก็บได้ครบทุกองค์ประกอบ ทั้งยังมีโหมด Best Portrait และ selfie ถ่ายรูปบุคคลหน้าชัด หลังเบลอ ปรับความสวยไปได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลัง ซึ่งกล้องหลังจะแบ่งออกเป็น

  • เลนส์หลัก Ultra-clear เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.7 (GM1+OIS)
  • เลนส์ Wide Angle lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา
  • เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล

กล้องถ่ายรูปด้านหน้า Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beauty ปรับสีผิวได้ตามสภาพแสงจากการวิเคราะห์ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ปรับได้พร้อมกันถึง 4 คน ในภาพเดียว หรือจะปรับแต่งเองให้หน้าเล็ก จมูกโด่ง ตาโตก็ทำได้ นอกจากนี้ ที่ด้านข้างของกล้องยังเป็น Atmosphere Light ช่วยเพิ่มแสงให้ใบหน้า และใช้เป็นไฟแจ้งเตือนสำหรับตั้งเวลาเซลฟี่

โหมดกล้องถ่ายรูปที่น่าสนใจ

กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล

กล้องหลักที่มาพร้อมความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่มีขนาดใหญ่ถึง 8000×6000 พิกเซล ภาพที่ได้จึงมีความคมชัดสูง สามารถนำไปใช้งานต่อ หรือจะปริ้นท์ออกมาเป็นขนาดใหญ่ไฟล์ภาพก็ไม่แตก หากต้องการใช้งานจะต้องเปิดอัตราส่วน 4:3 (48MP) ก่อน เพราะค่าตั้งต้นจะเป็นความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

Ultra Wide Angle

เลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถเก็บภาพได้กว้าง 119 องศา สะดวกในการเก็บภาพหมู่ บรรยากาศ วิวทิวทัศน์ ได้ครบอย่างที่ตามองเห็น แม้อยู่ในพื้นที่จำกัดก็ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป เพียงเลือกเปิดเลนส์มุมกว้างที่แถบด้านบนก่อนใช้งาน

Ultra Night Mode 2.0

หมดปัญหาเรื่องถ่ายรูปกลางคืนไปได้ด้วย Ultra Night Mode 2.0 ของกล้องที่มีค่ารูรับแสง f/1.7 ฉลาดมากขึ้นด้วยการปรับแสงให้คมชัด ภาพไม่ซ้อนหรือเคลื่อนไหว ลดนอยซ์ ทั้งยังเก็บรายละเอียดของสีได้อย่างสวยงาม นอกจากการถ่ายภาพกลางคืนแบบธรรมดาแล้ว ยังสามารถถ่ายภาพกลางคืนแบบมุมกว้าง เห็นบรรยากาศเยอะขึ้น

Portrait Bokeh

OPPO Reno2 F เป็นอีกสมาร์ทโฟนที่รองรับการถ่ายรูปบุคคลได้สวยงาม ด้วยกล้องที่แยกมาเฉพาะอีก 2 ล้านพิกเซล และลูกเล่นใหม่ที่เลือกปรับความเบลอของฉากหลังได้ หรือเรียกว่าการปรับโบเก้ได้ตั้งแต่ 1-100% จะเบลอมากเบลอน้อยคราวนี้เลือกได้เอง หรือจะให้ AI เลือกให้ก็มีระยะอัตโนมัติบอก

Ultra Wide Angle Videos

ถ่ายวิดีโอด้วยมุมมองใหม่ด้วยเลนส์มุมกว้าง 119 องศา ทำให้รายละเอียดต่างๆ เก็บได้ครบในเฟรมเดียว

สเปกตัวเครื่อง

  • หน้าจอแสดงผล Panoramic Screen เทคโนโลยี AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอ 91.1% วัสดุ Gorilla Glass 5
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio P70 Octa Core ความเร็ว 2.1 GHz
  • RAM 8GB, ROM 128GB
  • GPU:ARM Mali-G72
  • ระบบปฎิบัติการ ColorOS 6.1 based on Android 9
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์
  • – เลนส์หลัก Ultra-clear เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.7 (GM1+EIS)
  • – เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา
  • – เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • – เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beauty
  • สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Fingerprint Unlock 3.0
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม และ 1 ช่อง MicroSD
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, OTG และพอร์ต USB Type-C
  • พลังเสียงเทคโนโลยี Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.8 × 75.8 × 8.67 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 195 กรัม
  • สี : Sky White และ Lake Blue

แสดงความคิดเห็น