รีวิว Vivo V20 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่มีตัวเครื่องบางที่สุดในโลกเพียง 7.39 มม. น้ำหนักเบา 170 กรัม ดีไซน์สวยพรีเมียมไม่แพ้รุ่นใหญ่ ชูจุดเด่นด้วยกล้องหน้าคู่ 44 ล้านพิกเซล Eye Autofocus คมชัดตรงจุด และกล้องหลังยังมีถึง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 765G รองรับ 5G และแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับชาร์จเร็ว FlashCharge 33W

ดีไซน์ตัวเครื่อง

ตัวเครื่องสัมผัสแรกคือมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา มีหน้าจอแสดงผลขอบโค้ง 2.5D คมชัดด้วยเทคโนโลยี AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ซึ่งยังเป็นจอรีเฟรชเรท 60Hz การใช้งานสัมผัสค่อนข้างลื่น

มาพร้อมกล้องหน้าคู่ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล + กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล แต่จะอยู่บนติ่งกลางหน้าจอ และมีช่องลำโพงเสียงอยู่ด้านบน

โดยที่กล้องหน้ายังเป็นเซ็นเซอร์สแกนใบหน้า ปลดล็อคการทำงานเข้าตัวเครื่องได้เร็วแค่ลงทะเบียนครั้งเดียว

ตัวเครื่องด้านล่างมีขอบดำเล็กน้อย โดยปุ่มควบคุมการทำงานจะอยู่บนหน้าจอพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ถัดขึ้นมาด้านบน

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรองรับการใข้งานสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ตอบสนองการทำงานอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสที่เซ็นเซอร์

ส่วนตัวเครื่องด้านบนมีเพียงรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง ไม่รองรับ MicroSD ไปทางขวาเล็กน้อยเป็นไมโครโฟนอีก 1 ตัวมาพร้อมพอร์ตชาร์จแบบ USB Type C ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W และสุดท้ายเป็นลำโพงเสียงตัวเครื่อง

ปุ่มเพิ่มระดับเสียงเพิ่มลดและปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ออกแบบเป็นสีเดียวกันกับขอบเครื่องแต่มีความนูนขึ้นเล็กน้อย

Vivo V20 Pro 5G เป็นอีกรุ่นที่ออกแบบได้อย่างสวยงามมีความพรีเมียม ดีไซน์ทันสมัยสมเป็นสมาร์ทโฟน 5G โดยออกแบบด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass จะมีผิวสัมผัสแบบเรียบเนียนสบายมือ และยังใช้เทคโนโลยี AF ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือ ซึ่งสีที่ได้มารีวิวเรียกว่าสี Moonlight Sonata เป็นสีขาวบริสุทธิ์ราวกับแสงจันทร์ที่ตกกระทบบนท้องทะเล หรือจะคล้ายๆ กับสีขาวมุก

โดยมีเลนส์กล้องด้านหลังทั้ง 3 เลนส์อยู่บนกรอบสี่เหลี่ยม แบ่งออกเป็น

  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล, f/1.9, Dual-LED, HDR
  • เลนส์ Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล, f/2.4

กล้องถ่ายรูป

กล้องหน้า 44MP

กล้องหน้ารุ่นนี้ให้มาพร้อมกันถึง 2 เลนส์โดยที่เลนส์หลักมีความละเอียด 44 ล้านพิกเซล โดดเด่นด้วย Eye Autofocus ที่สามารถโฟกัสดวงตาได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหน และกดถ่ายได้ทันทีจนได้รูปถ่ายที่มีความคมชัดสูง

ส่วนอีกเลนส์เป็น Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 105 องศา ซึ่งนอกจากจะเก็บรูปเซลฟี่ได้แล้วยังสามารถเก็บวิวด้านหลังได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

กล้องหน้า Portrait ลูกเล่นเยอะ

กล้องหน้าโหมด Portrait สามารถปรับแต่งหน้าสวยไปได้พร้อมกับสไตล์สีสันที่มีให้เลือกถึง 9 แบบ ถ่ายรูปเซลฟี่ออกมาเนียนสวยเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกปรับโบเก้ได้ตั้งแต่ f/0.95 – f/16

Night Selfie เซลฟี่แสงน้อยคมชัดทุกสภาพแสง

กล้องหน้ายังมีโหมด Night Selfie มาให้เฉพาะ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงน้อยหรือตอนกลางคืนก็ทำให้เซลฟี่ได้สว่างและคมชัดกว่าที่เคย

กล้องหลังความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล

กล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับรูรับแสงขนาดกว้าง f/1.9 ถ่ายรูปคมชัด ซึ่งเมื่อซูมดูจะเห็นภาพที่เก็บรายละเอียดได้ครบ สามารถนำไปใช้งานต่อเป็นภาพขนาดใหญ่ได้ทันที

นอกจากนี้ยังมีเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา ซึ่งเป็นอีกเลนส์ที่มีแล้วใช้งานได้จริง ช่วยเก็บภาพได้กว้างขึ้นและภาพที่ได้ก็ไม่บิดเบี้ยวจนเสียรูป

อีกเลนส์ที่หน้าสนใจคือ Macro สำหรับถ่ายรูประยะใกล้ได้ถึง 2.5 ซม. และภาพที่ได้มีความคมชัดสูงรายละเอียดเลยชัดเจน

Super Night Mode

นอกจากจะถ่ายรูปคมชัดแล้วยังโดดเด่นเรื่องโหมดกลางคืนที่เรียกว่าเก็บได้ทุกสภาพแสง มาพร้อม AI noise cancellation ช่วยลดการเกิดนอยส์ ปรับสีและแสงสว่างคมชัด เห็นรายละเอียดต่างๆ ชัดเจน

ทั้งยังเพิ่มลูกเล่นให้รูปถ่ายตอนกลางคืนโทรหาความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ด้วยสไตล์สีของการแต่งภาพ 4 แบบ สไตล์ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์

Portrait สวย หน้าชัด-หลังเบลอ

กล้องหลังโหมด Portrait ช่วยให้การถ่ายรูปบุคคลมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่งหน้าสวยไปด้วยพร้อมกัน และสามารถปรับโบเก้ได้ตั้งแต่ f/0.95 – f/16

นอกจากนี้ยังมีสไตล์สีมาให้เลือกใช้งาน 9 แบบ เพิ่มความหลากหลายของสีสันให้กับรูป Portrait

โบเก้หลากหลายแบบ

โบเก้หรือการปรับรูปหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งนอกจากจะปรับแต่งได้หลังจากถ่ายรูปแล้ว ยังมีรูปแบบให้เลือกใช้ถึง 5 แบบ เช่น รูปหัวใจ, ดาว, ห้าเหลี่ยม เป็นต้น

Portrait กลางคืนก็คมชัด

โหมดถ่ายรูปบุคคลหรือ Portrait สามารถใช้งานได้ตอนกลางคืนที่แสงน้อยได้อีกด้วย โดย AI จะช่วยดึงใบหน้าให้มีความสดใสเพิ่มแสงให้สว่าง และปรับพื้นหลังเบลอเพื่อให้ตัวบุคคลโดดเด่นขึ้น

วิดีโอจัดเต็ม

Vivo V20 Pro 5G ตอบโจทย์สำหรับคนชอบถ่ายวีดีโอไม่ว่าจะเป็นสายรีวิว Vlog ต้องชอบ เพราะกล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงถึง 4K ทั้งยังมีระบบโฟกัสที่ดวงตาช่วยให้วิดีโอที่ถ่ายชัดโฟกัสไม่หลุด และวิดีโอที่ถ่ายยังมีโปรแกรมให้ตัดต่อ เพิ่มธีม เพลง และใส่ข้อมูลได้จากเมนูแก้ไขได้เลย

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Steadiface Selfie Video เป็นกันสั่นสำหรับถ่ายวีดีโอกล้องหน้า ถ้าจะเดินหรือวิ่งระบบจะช่วยตรวจจับเพื่อลดการสั่นไหวของวีดีโอให้ออกมาสมูทยิ่งขึ้น

วิดีโอ Art Portrait ปรับแต่งได้

นอกจากใช้กล้องหน้าถ่ายวีดีโอได้คมชัดแล้ว สามารถเพิ่มลูกเล่นปรับสีปรับสไตล์พร้อมกับหน้าสวยให้วีดีโอออกมาสวยจบที่หลังกล้องได้ทันที

Dual View Video

โหมดถ่ายวีดีโอสามารถตั้งเป็น 2 หน้าจอ โดยใช้กล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมกัน เป็นลูกเล่นที่มีความน่าสนใจ โดยไม่ต้องสลับกล้องไปมาแต่เห็นได้ทั้งสองมุม

Slo-Mo Selfie Video

เปลี่ยนมุมมองการถ่ายสโลโมชั่นไม่ใช่ทำได้แค่กล้องหลังอีกต่อไป บน Vivo V20 Pro สามารถใช้กล้องหน้าถ่ายสโลโมชั่นได้ที่ความละเอียด 240 fps พร้อมกับการเลือกสไตล์สีได้อีกด้วย

แต่งภาพจบครบในเครื่อง

AI Image matting

Vivo V20 Pro 5G มีฟังก์ชันสำหรับแต่งภาพด้วย AI Image matting พี่สามารถแยกรูปถ่ายกับฉากหลังออกจากกันได้ เพิ่มลูกเล่นการเปลี่ยนพื้นหลังแสงและสีให้รูปถ่ายของคุณมีความโดดเด่นและน่าสนใจยิ่งขึ้น

Memory Recaller

ฟังก์ชั่นสำหรับช่วยให้รูปถ่ายใบเก่าของคุณกลับมาสดใสมีชีวิตชีวาด้วยการปรับแต่งให้คมชัดขึ้น

หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง/ระบบปฎิบัติการ

Vivo V20 Pro 5G มีหน่วยความภายในให้มาถึง 128GB ซึ่งแกะกล่องมามีพื้นที่เหลือใช้งาน 111.61GB ไม่เยอะหรือน้อย แต่รุ่นนี้ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอก ซึ่งถ้ามีรูปหรือข้อมูลเยอะๆ อาจจะต้องเก็บไว้ในไดรฟ์หรือโหลดลงคอม

ส่วนระบบปฎิบัติการแกะกล่องมาพร้อมกับ Funtouch OS 10.5 based on Android 10 โดย UI ออกแบบให้มีความทันสมัย ใช้งานง่าย และใส่ฟังก์ชั่นที่จำเป็นต่อการใช้งานประจำวันมาให้ด้วย เช่น

โหมดมืด ช่วยให้การใช้งานบนสมาร์ทโฟนสบายตา ลดอาการเมื้อยล้าของดวงตรา ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย


iManager ระบบจัดการสมาร์ทโฟนให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เคลียร์พื้นที่หรือสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้เครื่องทำงานเต็มที่


เอฟเฟ็กต์สแกนนิ้ว ลูกเล่นบริเวณเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้ว เพิ่มความน่าสนใจไม่จำเจ นอกจากนี้ ยังมีเอฟเฟ็กต์จดจำใบหน้า ภาพเครลื่อนบนหน้าจอและอื่นๆ อีกมากมายมาให้ใช้งาน

Jovi Home ผู้ช่วยบนสมาร์ทโฟนสำหรับจัดการบนสมาร์ทโฟน และช่วยให้เข้าถึงการใช้งานง่ายขึ้น เช่น

  • ทางลัดในการเข้าถึงแอปพลิเคชั่น
  • คำแนะนำแจ้งเตือนให้การใช้งานประจำวัน เช่น การทำงาน ดื่มน้ำ เพื่อสุขภาพที่ดี
  • My Services ปรับแต่งสิ่งคุณสนใจ เช่น ผลกีฬา การออกกำลังกาย ให้เข้าถึงง่ายและเร็วขึ้น

ทดสอบประสิทธิภาพ

ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 311,843 คะแนน

จุดเด่นอื่นๆ บน Vivo V20 Pro

ดีไซน์บางเบา

Vivo V20 Pro 5G เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนรองรับ 5G มีตัวเครื่องบางที่สุดในโลก โดยมีขนาดอยู่ที่ขนาด 158.82 × 74.2 × 7.39 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 170 กรัม กล้องด้านหลังนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย แต่หากใส่คู่กับเคสแล้วก็จะพอดี และยังจับถือสบายมือด้วยขอบข้างโค้ง

ชิปเซ็ตตัวเก่ง

Vivo V20 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G Octa-core, 2.4 GHz มาคู่กับ RAM 8GB + ROM 128GB ซึ่งการใช้งานทั่วไปอยู่ในระดับดี เปิดแอปฯ ใช้งานฟังก์ชั่นทั่วไปลื่น

ส่วนถ้าพูดถึงการเล่นเกมก็ยังเป็นชิปเซ็ตที่สามารถเล่นเกมหนักๆ ได้ดี ยังได้ตัวช่วยของ Game Turbo ที่มีฟีเจอร์ Game Highway เข้ามาช่วยดึงประสิทธิภาพของชิปเซ็ต หน่วยความจำออกมาทำงานเต็มที่ ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 78.05% และสนุกเต็มที่ไม่มีอะไรมากั้นด้วย Ultra Game Mode ฟังก์ชั่นปิดกั้นข้อความและการแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นไม่ให้เด้งมากวนใจขณะเล่นเกม

โดยเมื่อทดสอบเล่นเกม ROV สามารถเปิดเฟรมเรทสูง ขณะที่เล่นก็มีความลื่นทั้งการเดิน ออกอาวุธ แม้แต่ตอนต่อสู้ก็ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น เฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 59-60 fps ไม่ตกไปกว่านี้เลย และเกม Asphalt 9 ที่กราฟิกหนักๆ ยังเล่นได้ลื่นสบายๆ และเครื่องยังไม่ร้อนมาก เพราะมีเทคโนโลยี Vapor Chamber Liquid Cooling เข้ามาช่วยถ่ายเทความร้อนด้วยของเหลว D5 สามารถกระจายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว

รองรับ 5G ใช้งานได้ทันที

Vivo V20 Pro 5G ยังมาพร้อมชิปเซ็ตรองรับการใช้งาน 5G ทั้งเครือข่าย SA และ NSA ช่วยให้การใช้งานเชื่อมต่อ ดาวน์โหลด หรือมีสัญญาณที่ดีและเสถียรขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครือข่ายผู้ให้บริการในไทยว่าเปิดใช้ครอบคลุมมากน้อยเพียงใด

แบตฯ อึดชาร์จเร็ว

แบตเตอรี่ให้มาถึง 4,000mAh ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควร ถ้าใช้งานทั่วไปในแต่ละวันถือว่าเพียงพอแน่นอน เพราะมี vivo Energy Guardian (VEG) ตัวจัดการพลังงานอัจฉริยะมาช่วยให้ประหยัดพลังงาน ใช้งานได้นานขึ้น และยังใส่เทคโนโลยีชาร์จเร็ว FlashCharge 33W มาให้ ถือว่าสะดวกสบายไปอีกขั้น ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จนานๆ

ระบบเสียง Hi-Res Audio

ด้านความบันเทิงก็ยังจัดเต็มด้วยระบบเสียง Hi-Res Audio ด้วยหูฟัง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ก็จะทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพสมจริงทุกช่วยทำนอง

อุปกรณ์ในกล่อง

  • Vivo V20 Pro 5G
  • สายชาร์จ USB Type-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W
  • หูฟังพอร์ต Type-C
  • เคสซิลิโคน
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือการใช้งาน

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องบางเบา
  • กล้องหน้าคู่ 44 ล้านพิกเซล Eye Autofocus
  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล
  • วิดีโอฟังก์ชั่นจัดเต็ม
  • แบตฯ ใหญ่ชาร์จเร็ว

ข้อควรพิจารณา

  • จอ 60Hz
  • ลำโพงเดี่ยว
  • ไม่มีช่องใส่ MicroSD

สเปค Vivo V20 Pro 5G

  • จอ AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G Octa-core, 2.4 GHz
  • RAM 8GB, ROM 128GB
  • Funtouch OS 10.5 based on Android 10
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
  • – กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล, f/1.9, Dual-LED, HDR
  • – เลนส์ Ultrawide 8 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • – เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • วีดีโอ 4K@30fps, 1080p@30fps, gyro-EIS
  • กล้องหน้า 2 เลนส์
  • – เลนส์หลัก 44 ล้านพิกเซล, f/2.0
  • – เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, f/2.28
  • แบตฯ 4000 mAh, Fast battery charging 33W
  • ขนาด 158.82 × 74.2 × 7.39 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 170 กรัม
  • สี Midnight Jazz, Sunset Melody, Moonlight Sonata
  • ราคา 14,999 บาท

สรุป

Vivo V20 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าที่ให้มา 2 เลนส์ และกล้องหลังก็มีความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล ส่วนใครที่เป็นสายเล่นเกมก็ยังตอบโจทย์ด้วย ใช้งานได้ยาวๆ ด้วยการรองรับ 5G และมีแบตฯ ความจุเยอะรองรับชาร์จเร็ว

สีและราคา

Vivo V20 Pro 5G วางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Midnight Jazz, Sunset Melody, Moonlight Sonata ในราคา 14,999 บาท

แสดงความคิดเห็น