OnePlus 8T 5G สมาร์ทโฟนตัวท๊อปสเปคแรงสมสโลแกน Ultra Fast. Ultra Smooth. รองรับการเชื่อมต่อ 5G แรงเต็มสปีด ซึ่งต้องยอมรับว่า OnePlus จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความลื่น ใช้งานเสถียรอันดับต้นๆ ของ Abdroid เลยก็ว่าได้ ซึ่งรุ่นนี้ก็มีความหน้าสนใจของสเปคที่อัดแน่นในราคาดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นจอ Fluid AMOLED รีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 865 รองรับ 5G เพิ่มความเร็วในการชาร์จแบตฯ อย่าง Warp Charge 65 ที่มีมาให้ในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่ม

ดีไซน์ตัวเครื่อง

OnePlus 8T 5G ดีไซน์ด้านหน้าอาจจะไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ด้านหลังจะเห็นได้ชัดคือเลนส์กล้องในกรอบสี่เหลี่ยมที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งตัวเครื่องจับกระชับด้วยขอบข้างที่โค้งรับกับฝ่ามือเบาเพียง 8.4 มม.และเครื่องรุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 188 กรัมเท่านั้น

ส่วนหน้าจอแสดงผลยังคงใช้แบบ Fluid AMOLED แบบเรียบที่ไม่ใช่จอโค้ง ขนาดใหญ่ 6.55 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ใช้งานลื่นด้วยรีเฟรชเรท 120Hz โดยที่ขอบทั้งสี่ด้านบางแถบจะไม่เหลือให้กวนสายตา ทั้งยังออกแบบกล้องหน้าให้มีรูขนาดเล็กอยู่ที่มุมด้านซ้ายเพียงเลนส์เดียว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งานสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้อีกด้วย

ด้านล่างไม่มีปุ่มใดๆ โดยปุ่มควบคุมการทำงานจะอยู่บนหน้าจอ แต่จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งใช้งานได้เร็วแค่สัมผัสโดยไม่ต้องออกแรงกด รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

ตัวเครื่องด้านบนมีเพียงไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และเสาสัญญาณเท่านั้น

ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ทั้ง 2 ช่องจะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้ ถัดไปทางขวามีไมโครโฟนอีก 1 ตัว พร้อมพอร์ตชาร์จ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวเครื่อง

ตัวเครื่องด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงที่ออกแบบสีเดียวกับตัวเครื่อง และมีขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก

ส่วนด้านขวาของเครื่องยังให้ปุ่ม Alert Slider ใช้ปรับเลื่อนลงได้ 3 สเต็ป เพื่อเปิดเสียง ปิดเสียง หรือตั้งสั่น และปุ่ม Power

ด้านหลังยังใช้วัสดุกระจกแบบ Glossy Glass ที่เคลือบผิวสัมผัสแบบ AG Texture ทำให้จับถือสบายมือ และให้สีสันที่มีความเงางามแต่ลดการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

โดยที่เลนส์กล้องด้านหลังปรับใหม่หมด จากที่เคยเป็นแนวตั้งก็ถูกนำไปรวมกันในกรอบสี่เหลี่ยมแบบโค้ง ซึ่งจะให้กล้องมาถึง 4 เลนส์ ประกอบด้วย

  • เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.7, PDAF, Laser AF, OIS, HDR, Dual-LED flash
  • เลนส์ Ultra Wide Angle 16 ล้านพิกเซล, f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา
  • เลนส์ Macro 5 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • เลนส์ Monochrome ล้านพิกเซล, f/2.4

กล้องถ่ายรูป

กล้องหลักความละเอียดสูง 48MP

กล้องถ่ายรูปหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.7 รองรับกันสั่น OIS ทั้งยังมี AI Smart Scene Recognition เข้ามาช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้มีสีสันตรงกับวัตถุเหล่านั้น แต่ความละเอียดนี้ไม่สามารถใช้งานซูมหรือมุมกว้างได้ ซึ่งโดยปกติกล้องเมื่อเปิดใช้งานจะมีความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล แต่ถ้าต้องการใช้งาน 48 ล้านพิกเซลจะต้องเข้าไปเปิดใช้งานที่ตั้งค่าก่อน

สำหรับกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซลก็จะให้สีสันคมชัดสวยงาม ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ ไม่จัดจ้านจนเกินจริง นอกจากนี้ ยังมี HDR เปิดใช้งานได้แบบอัตโนมัติ เมื่อถ่ายรูปในที่แสงเยอะหรือจ้าเกินไปก็จะช่วยได้ดี เก็บภาพหลังไว้ให้ครบถ้วย

ส่วนถ้าใครต้องการใช้กล้องซูมหรือมุมกว้างจะต้องเปิดใช้งาน 12 ล้านพิกเซล โดยตัวนี้ไม่ได้มีเลนส์ Telephoto มาให้ ซึ่งระยะการซูมที่กำหนดมาให้บนเมนูกล้องคือ 2x ซึ่งเป็นระยะซูมแล้วยังได้ภาพถ่ายที่ละเอียด แต่ก็ยังใช้งานดิจิตอลซูมได้สูงสุด 10 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าภาพก็แตกมากเช่นกัน

เลนส์ Wide
กล้อง 1x
กล้อง 2x

เลนส์มุมกว้างเก็บครบ

เลนส์มุมกว้าง หรือ Ultra Wide Angle ก็ยังใส่มาให้ที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 โดยสามารถเก็บภาพได้กว้างถึง 123 องศา ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อน แต่ความละเอียดจะลดลงเหลืออยู่ที่ 4608 x 3456 พิกเซล สามารถเก็บภาพวิว รายละเอียดรอบข้างได้ไม่ตกขอบ หรือจะใช้ถ่ายคนก็เรียกว่าเห็นได้ชัดถึงความขายาวกันเลยทีเดียว

ถ่ายใกล้ชัดขึ้นด้วยมาโคร

คราวนี้เลนส์มาโครค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งาน เพราะให้มาที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถเก็บภาพวัตถุเล็กๆ ได้ใกล้ถึง 1 – 1.5 นิ้ว และยังมีละเอียด คมชัดมากกว่าที่ตามองเห็น หากเทียบกับรุ่นก่อนที่ให้มาที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เรียกว่าแทบไม่ได้ใช้หรือไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ

ถ่ายขาว-ดำด้วยเลนส์ Monochrom

เลนส์สุดท้ายของ OnePlus 8T ถือว่าค่อนข้างแปลก เลือกที่จะใส่เลนส์ Monochrome หรือขาวดำมาให้ โดยที่โหมดนี้จะอยู่ในฟิลเตอร์เป็นอันสุดท้าย ซึ่งข้อดีที่มีเลนส์นี้ก็สามารถถ่ายภาพขาว-ดำได้เนียนและชัดชัดขึ้น เก็บรายละเอียดของสีและขอบได้สมบูรณ์ ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้งานฟิตเตอร์ปกติก็จะไม่เนียนเท่า

เพิ่มลูกเลนส์ด้วยฟิลเตอร์

นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นเพิ่มสีสันด้วยฟิลเตอร์มาให้บนกล้องหลักที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีให้เลือกใช้งานถึง 12 แบบ ให้ได้อารณ์ที่แตกต่างกัน

Nightscape หรือกลางคืนคมเหมือนเดิม

โหมด Nightscape หรือถ่ายรูปกลางคืนของ OnePlus 8T 5G เรียกว่าทำงานได้ดีเหมือนเดิม ใช้งานได้ทั้งเลนส์หลักและเลนส์มุมกว้าง สามารถเก็บแสงและสีได้ดี ไม่สว่างจ้าจนดูเกินจริง ทั้งยังเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้คมชัด

Portrait สวยเนียนใช่ย่อย

โหมด Portrait หรือโหมดถ่ายภาพบุคคลของ OnePlus 8T 5G สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยเป็นอีกเลนส์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ มีให้เลือกใช้งาน 2 ระยะ ทั้งแบบ 1x และ 2x ซึ่งเป็นระยะที่กำลังสวย เก็บรายละเอียดของภาพบุคคลและพื้นหลังที่ตัดขอบได้เนียนไม่ดูหลอก ยิ่งเป็นระยะที่ 2x จะได้ภาพ Portrait ในระยะสวยงาม

Portrait 1x

Portrait 2x

กล้องหน้า 16MP

กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งก็ยังไม่มากหรือน้อย โดยยังมีความเป็น OnePlus แล้วก็คือกล้องหน้าค่อนข้างสมจริงเป็นธรรมชาติ แต่ยังให้ปรับแต่งหน้าสวยได้ 3 ระดับ หรือจะเลือกใช้งานไปพร้อมกับฟิลเตอร์ที่มีมาให้บนเครื่องก็ได้เช่นกัน

กล้องหน้าใส่ฟิลเตอร์

วิดีโอมีกันสั่น

งานวิดีโอกล้องหลังมีวิดีโอกันสั่น Super Stable ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง OIS และ EIS ซึ่งจะมีไอคอนให้เปิดใช้งานที่แถบด้านบนเมนูกล้อง เมื่อเปิดและลองถ่ายวิดีโอจะมีความนิ่งและสมูทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเดินหรือวิ่งแค่ถือกล้องไม่ต้องใช้ไม้กันสั่นเลย

วิดีโอ Portrait

วิดีโอ Portrait แบบหน้าชัด-หลังเบลอก็มีมาให้ด้วย ซึ่งเป็นอีกลูกเล่นของกล้องวิดีโอที่น่าสนใจเลยทีเดียว สามารถเบลอฉากหลังและโฟกัสที่ตัวบุคคลให้เด่นขึ้นมา

หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง/ระบบปฎิบัติการ

OnePlus 8T 5G จะมีตัวเลือก 2 ความจุที่แตกต่างกัน แบบ RAM 8GB + 128GB และ RAM 12GB + 256GB ซึ่งไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ ยังมาพร้อมระบบปฎิบัติการ OxygenOS 11 based on Android 10 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความลื่น UI ออกแบบได้สวยงามมีความเป็เอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังการันตีการได้อัปเดตระบบความปลอดภัยอย่างน้อย 2 ปี และมีฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะได้บนสมาร์ทโฟนของค่าย เช่น

Zen Mode : เปิดใช้งานเพื่อหยุดพักการใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลาเริ่มต้น 20 นาที เพื่อลดการใช้งานบนหน้าจอนานๆ


Dark Mode : โหมดมืดมีมีให้ปรับเลือกใช้งานได้ ช่วยลดอาการเมื้อยล้าของดวงตา และยังประหยัดพลังงานอีกด้วย


Always On Display : ลูกเล่นหน้าจอ Always On Display ก็มีมาให้ใช้งานแล้วบน OnePlus 8T ซึ่งจะแสดงข้อมูล นาฬิกา และอื่นๆ ที่สามารถติดได้ตลอด ไม่เหมือนรุ่นก่อนที่จะแสดงเฉพาะตอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู


รูปแบบไอคอนปรับได้ : รูปแบบไอคอนรวมถึงโทนสีใช้บนเครื่องสามารถปรับแต่งได้ ทั้งสไตล์วงกลม ทรงเหลี่ยม มีสีให้เลือกใช้งานเบื้องต้นถึง 12 สีเลยทีเดียว


เอฟเฟ็กต์ลายนิ้วมือ : เอฟเฟ็กต์ที่อยู่บริเวณเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็สามารถปรับแต่งได้


Horizon Light : แสงไฟแจ้งเตือนบริเวณขอบหน้าจอสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงิน แดง หรือม่วง

ทดสอบประสิทธิภาพ

OnePlus 8T 5G ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้คะแนนสูงถึง 586,229 คะแนน

จุดเด่นของ OnePlus 8T

หน้าจอ Fluid AMOLED

เรื่องของหน้าจอก็เป็นจุดเด่นอันดับต้นๆ ที่ควรพิจารณา ซึ่ง OnePlus 8T 5G ก็ยังคงอัดหน้าจอมาแน่นๆ ทั้งเลือกใช้จอแบบ Fluid AMOLED ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ 2400 x 1080 พิกเซล โดยรองรับรีเฟรชเรทถึง 120Hz เรียกว่าใช้งานลื่นไม่มีอาการสะดุดให้เห็นเห็น แต่ยังมีค่าเริ่มต้นที่ 60Hz มาให้หากใครต้องการกลับไปใช้และช่วยประหยัดแบตฯ แต่รับรองได้ว่าถ้าได้ใช้จอที่ลื่น 120Hz แล้วไม่อยากกลับไปใช้แน่นอน

หน้าจอยังมีขอบข้างที่บางลงมีกล้องหน้าเจาะรูขนาดเล็ก รองรับ HDR10+ ทำให้การใช้งานดูหนังมีความสมจริงมากขึ้น ซึ่งจะได้ภาพที่มีมิติเหมือนเข้าไปบนจอจริงๆ

สแกนนิ้วใต้หน้าจอ

OnePlus 8T 5G ยังให้ระบบความปลอดภัยในการปลดล็อคเข้าหน้าจอหลักด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่มีความแม่นยำสูง รองรับการใช้งานได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ปลดล็อคได้ง่ายและเร็วเพียงสัมผัสให้โดนเซ็นเซอร์ นอกจากนี้การสแกนใบหน้าก็ยังมีมาให้ใช้ด้วยเช่นกัน

ลำโพงคู่ Stereo

ด้านของเรื่องเสียงก็ไม่ธรรมดา ให้ลำโพงคู่สเตอริโอมาในรุ่นนี้ ทำให้การใช้งานเพื่อความบันเทิง เล่นเกมได้อารมณ์ยิ่งขึ้น โดยที่เสียงจะดังออกจากลำโพงทั้ง 2 ข้าง และยังมีมิติสูงต่ำให้จังหวะที่ดีกว่าลำโพงเดียวอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟัง OnePlus Buds ยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ปรับตั้งค่าให้เข้ากับสิ่งที่กำลังฟัง และกำหนดอีควอไลเซอร์ได้ตามที่ต้องการ

ชิปเซ็ตตัวท๊อป รองรับ 5G

ด้านชิปเซ็ตก็เรียกว่าจัดเต็มมาพร้อม Snapdragon 865 Octa-core, 2.84 GHz รองรับ 5G คู่กับ RAM ที่มีให้เลือก 2 ขนาดทั้ง RAM 8 และ 12GB ทำให้โดยรวมของการใช้งานทั่วไปทำได้ดี ทั้งยังเป็นชิปเซ็ตที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อ 5G ในไทยได้ทันทีหลังจากแกะกล่องและอัปเดต

เรื่องเกมไม่เป็นรอง

ส่วนเรื่องของการเล่นเกมต้องบอกเลยว่า OnePlus 8T 5G ไม่เป็นรองใครแน่นอน มีระบบ Fnatic Mode หรือที่ทั่วไปเรียกว่าเกมโหมดใส่มาเพื่อจัดการประสิทธิภาพ ปิดกั้นการแจ้งเพื่อไม่ให้ขัดจังหวะ ทำให้เครื่องเล่นเกมได้ไม่สะดุด นอกจากนี้ เรื่องของความร้อนรุ่นนี้ก็ยังจัดการได้ดีด้วยเทคโนโลยีของ Multi-Layer Game-Grade Cooling System ที่ช่วยกระจายความร้อนออกไปทั่วตัวเครื่องไม่ให้ร้อนแต่เพียงจุดเดียว ทำให้เล่นเกมได้นานขึ้น

เมื่อได้ทดลองเล่นเกมอย่าง ROV ก็สามารถปรับเฟรมเรท กราฟิกต่างๆ ได้สูงสุด เกมเล่นลื่นและสมูทมากๆ ไม่ว่าจังหวะการเดิน ต่อสู้ก็ไม่กระตุก เฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 60-61fps ไม่ตกไปกว่านี้ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ Touch Sampling rate 240Hz ทำให้เกมแนวต่อสู้ ยิงกันได้อรรถรสมากขึ้น

ส่วนเกม Asphalt 9 เรียกว่าสุดๆ เพราะเป็นเกมที่มากราฟิคสูง สามารถตั้งค่าระดับสูงสุด แถมยังเล่นได้ลื่น ภาพและเกมไปในทิศทางเดียวกัน ไม่กระตุกเลยแม้จังหวะที่รถชนหรือเสียหลัก และภาพบนจอยังสมูทมากเลยทีเดียว

แบตฯ ใหญ่ ชาร์จเร็ว

รุ่นนี้ให้แบตฯ มาที่ความจุ 4,500 mAh ถ้าใช้งานทั่วไปแต่ละวันเพียงพอแน่นอน นอกจากนี้ ยังอัปเกรดระบบชาร์จเร็วเป็น Warp Charge 65 รองรับชาร์จเร็ว 65W ซึ่งใช้เวลาแค่เพียง 39 นาที แบตฯ ก็ขึ้นมาเต็มแล้ว 100% ตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบชาร์จแบตฯ ทิ้งไว้นานๆ มาก

นอกจากนี้ ตัวสายชาร์จยังเป็นแบบ USB type-C to type-C และมีอแดปเตอร์ที่มีความปลอดภัยสูงป้องกันไฟกระชากแถมมาให้ด้วยในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่ม และยังเป็นแบบ PD ใช้ชาร์จกับรุ่นอื่น หรือแล็ปท๊อปได้ จ่ายไฟอยู่ที่ 45W เรียกว่าพกออกไปแค่ที่ชาร์จอันเดียวใช้งานได้ทุกอุปกรณ์

จุดเด่น

  • จอ Fluid AMOLED 6.55 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz, HDR10+
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 865 รองรับ 5G ในไทย
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • แบตฯ 4500 mAh, Warp Charge 65

จุดที่ควรพิจารณา

  • ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • ไม่มีช่องใส่ MicroSD

สเปค OnePlus 8T 5G

  • จอ Fluid AMOLED 6.55″ – 2400 x 1080 พิกเซล Corning Gorilla Glass 5, 120Hz, HDR10+
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 865 รองรับ 5G
  • RAM 8/12GB
  • ROM 128/256GB
  • ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 based on Android 10
  • กล้องหลัง 4 เลนส์
  • – เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.7, PDAF, Laser AF, OIS, HDR, Dual-LED flash
  • – เลนส์ Ultra Wide Angle 16 ล้านพิกเซล, f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา
  • – เลนส์ Macro 5 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • – Monochrome , f/2.4
  • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
  • แบตฯ 4500 mAh, Warp Charge 65

สรุป

OnePlus 8T 5G ถือเป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ ทั้งสเปคที่แรงใช้งานได้ยาวๆ มากกว่า 2 ปี ทั้งยังรองรับ 5G ในอนาคตที่จะมีเสาสัญญาณเพิ่มขึ้น และใช้งานดาวน์โหลด อัปโหลดข้อมูลเร็วขึ้น ถือว่าคุ้มมากในงบที่ไม่เกิน 3 หมื่น และรับรองได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อันดับต้นๆ ที่เสถียรและลื่นแน่นอน

ราคาและสี

OnePlus 8T 5G วางจำหน่ายพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่

• RAM 8GB ROM 128GB สี Lunar Silver ราคาอยู่ที่ 24,990 บาท
• RAM 12GB ROM 256GB สี Aquamarine Green ราคา 29,990 บาท

แสดงความคิดเห็น