Vivo ส่งสมาร์ทโฟนซีรีย์ Y รุ่นแรกของปี 2021 กับ Vivo Y31 มาพร้อมสโลแกน “คมทุกช็อต ถ่ายสนุกตลอดวัน” ชูจุดเด่นของกล้องถ่ายรูป 3 เลนส์ คมชัด 48 ล้านพิกเซล ดีไซน์สวยเล่นเฉดสี ตัวเครื่องบางแต่ให้หน้าจอขนาดใหญ่แบบ Halo FullView กว้าง 6.58 นิ้ว FHD+ มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 662 คู่กับ RAM 8+ROM 128GB เก็บรูปเก็บหนังได้จุใจ และแบตฯ ยังให้มาเยอะถึง 5000 mAh

ดีไซน์ตัวเครื่อง

Vivo Y31 เป็นอีกรุ่นที่สัมผัสครั้งแรกแล้วรู้สึกเบา ถ้าเทียบกับแบตฯ ที่ให้มาถึง 5000 mAh หน้าจอใหญ่ 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2408 x 1080 พิกเซล โดยที่ตัวเครื่องยังจับกระชับมือไม่หนาเทอะทะ น้ำหนักเพียง 188 กรัม

รุ่นนี้มีหน้าจอแบบ Halo FullView หรือเป็นหยดน้ำตรงกลางที่เป็นกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทำให้มีพื้นที่ใช้งานกว้าง ทั้งยังคมชัดระดับ FHD+ และได้มาตรฐาน สี P3 Color Gamut ซึ่งจะแสดงสีสันตรงไม่จัดจ้านเกินจริง และยังใช้งานบนจอได้นานไม่ต้องกังวล เพราะมีตัวกรองแสงสีฟ้า

ด้านล่างของหน้าจอรุ่นนี้ยังมีขอบดำเล็กน้อย ปุ่มควมคมการทำงานอยู่บนหน้าจอ โดยที่สแกนนิ้วถูกย้ายไปไว้ที่ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องที่ข้างขวา สะดวกใช้งานทั้งมือซ้ายและขวา

สำหรับการปลดล็อคหน้าจอที่นอกจากรองรับการสแกนใบหน้า ก็ยังใช้สแกนนิ้วด้านข้าง ไม่ว่าจะถนัดซ้ายหรือขวาก็ใช้งานง่าย ปลดล็อคได้รวดเร็วเพียงกดลงไปเบาๆ หรือเร็วกว่า 0.30 วินาที โดยตั้งค่าใช้งานได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ นอกจากนี้ ถัดขึ้นไปด้านบนจะมีปุ่มปรับระดับเสียงขนาดเล็ก ออกแบบลงตัวเป็นสีเดียวกับขอบเครื่องด้านข้าง

ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง และรองรับ 1 MicroSD จะจัดวางไว้ที่ด้านบนของเครื่อง พร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

สำหรับใครยังชอบใช้หูฟังแบบมีสายรุ่นนี้ยังมีรูแจ็ค 3.5 มม. มาให้ จะอยู่ที่ด้านล่างของเครื่อง ถัดไปทางขวามีไมโครโฟนอีก 1 ตัว มาพร้อมพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C และสุดท้ายเป็นลำโพงเสียงตัวเครื่อง

ตัวเครื่องด้านหลังใช้การออกแบบด้วยเทคโนโลยี Dazzling 3D Colors มีการไล่ระดับของเฉดสีทางซ้ายและขวาในสีสันที่แตกต่างกัน ซึ่ง Vivo Y31 จะวางจำหน่ายในไทย 2 สี ได้แก่

Racing Black : สีดำโดดเด่นสะดุดตา มีความแข็งแกร่งทรงพลัง
Ocean Blue : สีนี้ได้แรงบันดาลใจจากมหาสมุทรริมชายหาด เป็นเงามีชีวิตชีวา

โดยตัวเครื่องที่รีวิวจะป็นสี Ocean Blue เป็นการผสมระหว่างสีฟ้าเขียวเหลือบม่วง เป็นอีกสีที่ออกแบบได้สวยงามตั้งแต่เห็นครั้งแรก มีความมันเงาบนผิวสัมผัสแบบเรียบด้าน จับถนัดไม่ลื่น และมีเลนส์กล้องหลังอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่มุมซ้าย พร้อมไฟแฟลช LED แบ่งออกเป็น

กล้องหลัง 3 เลนส์

  • เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.79, LED flash, HDR
  • เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • เลนส์ Depth Senser 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • วีดีโอ 4K@30fps, 1080p@30fps, gyro-EIS

โหมดกล้องถ่ายรูปที่น่าสนใจของ

กล้องหลัง 48MP

กล้องถ่ายรูปหลัก AI ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล โดยที่ AI จะเข้ามาช่วยระบุฉาก แสง และสี ให้ตรงกับภาพที่กำลังถ่าย ทำให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน ทั้งนี้ โหมด 48 ล้านพิกเซล ไม่ได้มาในค่ากล้องเริ่มต้น ต้องเข้าไปเปิดใช้งานที่เพิ่มเติมแล้วเลือก AI 48MP

ส่วนค่าเริ่มต้นของกล้องจะอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล หากใช้งานในโหมดนี้จะรองรับการถ่าย 1x, 2x ทั้งกำหนดค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น HDR, ไฟแฟลช, เอฟเฟกต์ และอื่น

กล้องเริ่มต้นก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในการถ่ายภาพทั่วไป และบน Vivo Y31 ยังสามารถใส่ลายน้ำโดยการกำหนดเองได้แล้ว ไม่ว่าจะใส่ชื่อ หรือนามแฝงอะไรก็ทำได้ไปพร้อมกับการลายน้ำของชื่อรุ่น

ภาพถ่ายด้วยเอฟเฟ็กต์

นอกจากนี้เอฟเฟกต์แสงยังมีให้เลือกใช้งานหลากหลาย ทั้งฟิลเตอร์กว่า 19 แบบ และเอฟเฟ็กต์แสงบุคคล 5 แบบ ที่ใช้งานได้จากกล้องหน้าและกล้องหลัง

Portrait หน้าชัด-หลังเบลอ

โหมด Portrait หรือถ่ายรูปบุคคลทำงานร่วมกับกล้อง Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายได้ที่ระยะ 1x และ 2x ทั้งยังเลือกเปิดโบเก้ไปพร้อมกับการปรับแต่งหน้าสวยด้วย AI หรือจะเปิดใช้งานเอฟเฟ็กต์ก็ทำได้เช่นกัน

ทำให้ภาพถ่ายบุคคลมีความโดดเด่น ขอบที่ตัดระหว่างฉากหลังกับตัวบุคคลทำได้ดี เบลอเนียนสวย แต่ถ้าหากแสงน้อยขอบอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ถือว่าเป็นลูกเล่นหนึ่งที่โดดเด่นบนกล้อง Vivo Y31 และใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Super Macro ใกล้ 4 ซม.

เลนส์มาโครถูกใส่มาไว้บน Vivo Y31 ที่ละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ใช้ถ่ายวัตถุในระยะใกล้ได้ถึง 4 เซนติเมตร

Super Night Mode

โหมดถ่ายรูปกลางคืนก็ใส่มาให้ครบ ทำงานร่วมกับ AI ในการเก็บภาพถ่ายกลางคืนหรือที่แสงน้อยหลายเฟรมนำมาซ้อนกัน เพื่อให้ได้รูปถ่ายที่สวยและคมชัดมากที่สุด ลดการเกิดจุดรบกวน เมื่อกดถ่ายชัตเตอร์จะทำงานช้าลงแต่รับลองว่าได้ภาพถ่ายกลางคืนที่สาวแน่นอน

นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นฟิลเตอร์ Stylish Night มาให้บนกล้อง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า , ส้มเขียว และไซเบอร์พังค์ ช่วยให้ภาพถ่ายกลางคืนมีสีสันแปลกใหม่ ไม่จำเจกับแสงเดิมๆ สนุกกับการออกไปถ่ายภาพกลางคืนมากขึ้น

กล้องหน้า

กล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มี AI ปรับแต่งหน้าสวยอัตโนมัติ หรือจะตั้งค่าเองก็ทำได้ โดยมีลูกเล่นเอฟเฟ็กต์สีและแสง พร้อมทั้งโบเก้หน้าชัด-หลังเบลอก็ทำได้ทีเดียว

วิดีโอ Ultra stable Video

โหมดถ่ายวิดีโอมีเทคโนโลยีป้องกันการสั่นไหว EIS ซึ่งจะทำหน้าที่ปรับแต่งเฟรมด้วยอัลกอริทึมโดยอัตโนมัติ ช่วยลดการสั่นไหวขณะเดินหรือวิ่ง ทำให้วิดีโอออกมาสมูทมากขึ้น และยังมีฟังก์ชั่นปรับแต่งให้วิดีโอออกมาสวยแบบมืออาชีพได้จากบนกล้อง ไม่ว่าจะใส่เสียง เอฟเฟ็กต์ หรือข้อความก็ทำได้จบจากหลังกล้องเลยทีเดียว

หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง/ระบบปฎิบัติการ

Vivo Y31 รุ่นที่นำเข้ามาในไทยจะมี RAM 8GB, ROM 128GB ซึ่งเพียงพอต่อการดาวน์โหลดแอปฯ เก็บภาพถ่ายและวิดีโอ เมื่อเปิดเครื่องมาใช้ไปเพียง 20% หรือ 25.69GB เท่านั้น หากไม่ใช้งานก็ใส่ MicroSD ได้สูงสุด 1TB แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Funtouch OS 11 based on Android 11 มีหน้าตา UI รูปแบบทันสมัย มีฟังก์ชั่นที่ทำให้การทำงานต่างๆ สะดวกขึ้น อาทิ

AI Albums > Memories : จัดประเภทภาพถ่ายแยกตามสถานที่ วัน เวลา ให้เรียงกันสวยงามและยังค้นหาง่ายขึ้น
iManager : เสมือนผู้ใช้ช่วยบนสมาร์ทโฟน โดยจะช่วยทำความสะอาดไฟล์ที่ไม่จำเป็น หรือสแกนหาปัญหาตอนกลางคืน และทำให้เครื่องสะอาด ใช้งานลื่นขึ้น
ภาพเคลื่อนไหวจดจำใบหน้า : เป็นเอฟเฟกต์ที่เพิ่มความแปลกใหม่บริเวณกล้อง เมื่อทำการสแกนใบหน้า
โหมดป้องกันดวงตา : ปรับเป็นหน้าจอโทนอุ่น เมื่อต้องการใช้งานอ่านหนังสือ หรือใช้ตอนกลางคืน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้สายตาได้รับอันตรายจากแสงที่สว่างเกินไป
โหมดมืด : เปลี่ยนหน้าจอเป็นโหมดมืดทำให้ใช้งานสบายตาขึ้น ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว และช่วยประหยัดพลังงานแบตฯ อีกด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพ

  • ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้คะแนนสูงถึง 189,948 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพ GeekBench 5 Multi-core ได้คะแนน 1390 และ Single-core คะแนน 315
  • ทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Sling Shot Exterme – OpenGLES 3.1 Overall – 1147 คะแนน และ Sling Shot 1800 คะแนน

จุดเด่นที่น่าสนใจของ Vivo Y31

ดีไซน์สวยสะดุดตา Dazzling 3D Colors

นอกจากสเปคที่ทรงพลังแล้วการออกแบบก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนใช้สมาร์ทโฟนต้องการ โดย Vivo Y31 ก็ทำได้ตอบโจทย์ ไม่ละทิ้งเรื่องของดีไซน์ที่สวยสะดุดตาแบบ Dazzling 3D Colors มีฝาหลังเงางาม เล่นแสงสองสีบนเครื่องเดียวได้อย่างลงตัว

หน้าจอแบบ Halo FullView Display

หน้าจอแบบติ่งหยดน้ำขนาดเล็กทำให้มีพื้นที่การใช้งานมากขึ้น โดยที่เมื่อขยายเต็มจอก็เกือบพอดีขอบ ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานบนหน้าจอก็ทำได้กว้างและสบายตา

ทั้งยังได้หน้าจอขนาดกว้างถึง 6.58 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ FHD+ (2408×1080) ได้ภาพที่มีสีสดและคมชัด ดูแล้วไม่ขัดตาขัดใจ และใช้งานต่อเนื่องก็ไม่ต้องกังวล เพราะตัวนี้สามารถกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้ด้วย

ประสิทธิภาพ

Vivo Y31 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 662 Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz อยู่ในระดับกลาง สามารถทำงานได้เต็มที่ คู่กับ RAM 8GB ที่ใส่มาให้ถือว่าเยอะและทำงานทั่วไปลื่น อัดสเปคกล้องหลัง 48MP ใช้พลังงานประหยัด และหากพูดถึงเรื่องเกมก็ยังเล่นได้สบายๆ

ทดสอบการเล่นเกม

อย่าง ROV สามารถเปิดกราฟฟิกสูงและเฟรมเรตสูง เล่นได้ลื่นไม่แสดงอากากระตุกให้เห็น ทั้งจังหวะการเดิน ออกอาวุธก็ไม่สะดุด เฟรมเรตอยู่ที่ระดับ 60fps ไม่มีหลุดต่ำไปกว่านี้ นอกจากนี้ ถ้าเป็นเกม Alpha9 เกมแข่งรถชื่อดังที่ใช้กราฟิกค่อนข้างเยอะ ตัว Vivo Y31 ยังคงใช้งานได้ เล่นได้ดีแต่ไม่ถึงกับลื่นมาก แต่เอาเป็นว่าถึงเส้นชัยได้แน่นอน

Multi turbo 4.0

หากเกมที่เล่นอืดหรือสะดุด ยังมี Multi turbo 4.0 เข้ามาช่วยในการปรับฉากของเกมให้เหมาะสม อาการสะดุดก็ดีขึ้น เล่นได้เรื่อยๆ และยังมีผลต่อการใช้งานเมื่อเปิดแอปฯ หลายๆ ตัวพร้อมกัน ช่วยให้เครื่องตอบสนองเร็วขึ้น

Super Audio ลำโพงกระหึ่ม

แม้ว่าจะให้ลำโพงมาตัวเดียวที่ด้านล่างตัวเครื่องแต่บอกได้เลยว่าพลังเสียงไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเสียงเรียกเข้าหรือเสียงขณะดูวิดีโอ ให้เสียงกระหึ่ม สามารถปรับให้ดังได้สูงสุดถึง 73dB เรียกว่ามีลำโพงตัวเดียวแต่เสียงเหลือเฟือจริงๆ

แบตเตอรี่ 5000mAh + ชาร์จไว 18W

แบตเตอรี่มีความจุ 5000mAh สำหรับใครที่ใช้ไม่เยอะก็สามารถเปิดสแตนบายได้ 2-3 วัน แต่ถ้าใช้งานหนักๆ ตลอดเวลาก็อยู่ได้ประมาณ 1 วันหรืออาจจะต้องมีชาร์จซ้ำบ้างตอนเย็นถ้าเล่นเกมหนัก แต่ก็ถือว่าอึดมากพอสมควร และยังให้ระบบชาร์จเร็ว 18W มาช่วยให้การชาร์จแบตฯ ขนาดใหญ่เต็มเร็วขึ้น โดยใช้เวลาเพียง 64 นาที สามารถชาร์จได้ 70%

นอกจากนี้ ยังดูวิดีโอที่ความละเอียด HD ได้นานกว่า 17 ชม. และใช้เป็นแบตฯ สำรองชาร์จให้กับเครื่องอื่นได้อีกด้วย

สรุปจุดเด่น

  • ตัวเครื่องดีไซน์สวย สะดุดตา Dazzling 3D Colors
  • หน้าจอใหญ่แบบ Halo FullView Display
  • ช่องใส่ซิมแบบ Triple Slot
  • แบตฯ 5000 mAh
  • มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • มีหูฟังแถมมาให้ในกล่อง

จุดควรสังเกต

  • กล้องไม่มีเลนส์มุมกว้าง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • สมาร์ทโฟน
  • อแดปเตอร์
  • สาย USB Type-C
  • หูฟัง
  • เคสซิลิโคน
  • เข็มจิ้มซิม
  • คู่มือและใบรับประกัน

สเปค Vivo Y31

  • หน้าจอขนาด 6.58 นิ้ว แบบ FHD+
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 662 Octa-core, 2.0 GHz
  • หน่วยประมวลผลภาพ GPU Adreno 610
  • RAM 8GB, ROM 128GB
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด + MicroSD สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
  • – เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.79, LED flash, HDR
  • – เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • – เลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, f/1.8
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz / 5GHz, Bluetooth 5.0, USB Type-C, On-The-Go
  • ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 based on Android 11
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W
  • ขนาดตัวเครื่อง 163.86 × 75.32 × 8.38 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 188 กรัม
  • สี Ocean Blue, Racing Black

ราคา

Vivo Y31 วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ Ocean Blue, Racing Black มาพร้อม RAM 8GB และ ROM 128GB ในราคา 7,499 บาท

สรุป

หากใครที่กำลังมองสมาร์ทโฟนระดับกลาง มาพร้อมฟังก์ชั่นหลักครบ ทั้งการใช้งานทั่วไป ได้หน้าจอใหญ่ เครื่องเบา และความบันเทิงจัดเต็ม เน้นลำโพงเสียงดังกระหึ่ม และยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ พร้อมกับการใช้งานต่อเนื่องกับแบตฯ 5000 mAh ในราคาไม่เกิน 8 พัน Vivo Y31 รุ่นนี้ตอบโจทย์มาก เป็นอีกตัวที่คุ้มค่ารับต้นปีเลยทีเดียว

แสดงความคิดเห็น